รมว.พาณิชย์สหรัฐฯ ได้กล่าวในงานสัมมนาที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันประเทศประจำปี ซึ่งเธอมองว่าสหรัฐฯ นั้นเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีทั้งด้านของ AI รวมถึงด้านเซมิคอนดักเตอร์ โดยเธอมองว่าจีนถือเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดที่เคยมี และเรียกร้องให้บริษัทเทคโนโลยีมองถึงประโยชน์ของชาติมากกว่ารายได้ระยะสั้น
จีนา เรมอนโด รมว.พาณิชย์สหรัฐฯ ได้กล่าวในงานสัมมนาที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันประเทศประจำปี ซึ่งจัดที่ซิมีแวลลีย์ รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยเธอได้เรียกร้องให้ ฝ่ายนิติบัญญัติ พันธมิตรของสหรัฐฯ หรือแม้แต่บริษัทเทคโนโลยีที่อยู่ในแดนมะกันได้หยุดส่งนวัตกรรมสำคัญและเซมิคอนดักเตอร์ให้กับจีน
รมว.พาณิชย์สหรัฐฯ ยังได้กล่าวว่า ผู้บริหารหลายคนซึ่งเป็น CEO ของบริษัทชิปนั้นอยู่ในกลุ่มผู้ฟังในสัมมนาดังกล่าวอาจไม่ค่อยชอบใจเธอมากนัก เนื่องจากมาตรการที่ห้ามส่งชิปไปยังจีน เธอยังได้ชี้ว่าแม้บริษัทเหล่านี้จะกำลังสูญเสียรายได้ แต่เธอมองว่าการปกป้องความมั่นคงของชาติมีความสำคัญมากกว่ารายได้ในระยะสั้นด้วยซ้ำ
ในช่วงที่ผ่านมาจีนมีความพยายามอย่างมากในการที่จะก้าวข้ามมาตรการจำกัดการส่งออกเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็นการดัดแปลงเครื่องผลิตชิปเพื่อการผลิตชิประดับ 7 นาโนเมตรให้กับ Huawei ยักษ์ใหญ่โทรคมนาคมจากจีนที่สหรัฐฯ ได้คว่ำบาตรในเวลานี้ จนท้ายที่สุดได้มีการเปิดตัวโทรศัพท์รุ่น Mate 60 Pro ออกมา
หรือแม้แต่บริษัทเทคโนโลยีในจีนเองได้มีการไล่ซื้อชิปของ Nvidia เพื่อเอาไว้ประมวลผลด้าน AI ก่อนที่รัฐบาลสหรัฐฯ จะมีการห้ามการส่งออกในเร็วๆ นี้
เธอยังกล่าวเสริมว่าในทุกๆ วัน จีนพยายามหาวิธีที่จะยุติการควบคุมการส่งออกของสหรัฐอเมริกา ซึ่งหมายความว่าทุกนาทีของทุกวัน สหรัฐฯ ต้องกระชับมาตรการการควบคุมเหล่านั้น และจริงจังกับการบังคับใช้กับพันธมิตรของสหรัฐฯ มากขึ้นเช่นกัน
นอกจากนี้ รมว.พาณิชย์สหรัฐฯ ยังให้ความเห็นว่าว่าจีนเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดที่สหรัฐอเมริกาเคยมี และเธอยังย้ำว่า “จีนไม่ใช่เพื่อนของเรา”
ขณะเดียวกัน รมว.พาณิชย์สหรัฐฯ ยังมองว่า สหรัฐฯ เป็นผู้นำโลกในด้าน AI และก็ยังเป็นผู้นำของโลกในด้านการออกแบบเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง ซึ่งนั่นเป็นเพราะภาคเอกชน และเธอยังกล่าวว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือเธอจะไม่ให้จีนไล่ตามสหรัฐฯ ในเรื่องดังกล่าวได้ทัน