ตลาดน้ำดื่มบรรจุขวดมีมูลค่า 18,000 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ยปีละ 10-15% คลาคล่ำไปด้วยน้ำดื่มนับ 1,000 แบรนด์ แต่ส่วนแบ่งการตลาดกว่า 70% มาจาก 5 แบรนด์หลัก คือ สิงห์ คริสตัล เนสท์เล่ เพียวไลฟ์ น้ำทิพย์ และช้าง โดยสิงห์ยืนพื้นเป็นที่ 1 มาอย่างยาวนาน แต่การที่น้ำทิพย์จะขึ้นเป็นที่ 1 ได้ต้องมีส่วนแบ่งการตลาดอย่างน้อย 20 กว่าเปอร์เซ็นต์ ซึ่งน้ำทิพย์ก็หวังไว้อย่างนั้น
ด้านเนสท์เล่ เพียวไลฟ์วางจุดยืนการเป็นน้ำดื่มเพื่อสุขภาพ และยังเป็นแบรนด์ที่มีผลิตภัณฑ์หลากหลายที่สุดถึง 5 ขนาด แต่ไม่มีขวดแก้ว เคยประกาศจะขึ้นเป็นที่ 1 ในปี 2548 แต่ผ่านมาแล้ว 6 ปี ก็ทำได้ดีที่สุดคือ Top 3
ส่วนคริสตัล ชูดจุดขายของการเป็นน้ำดื่มแบรนด์ไทยรายแรกที่ได้รับใบรับรองจาก และสื่อสารด้วยเมสเสจที่ว่า “คิดจะดื่มน้ำ ดื่มคริสตัล” และปล่อยแคมเปญโปรโมชั่นชิงแก็ดเจ็ตยอดนิยมออกมาเป็นระยะๆ
ที่ผ่านมา น้ำทิพย์ยังมีจุดอ่อนในเรื่องความหลากหลายของบรรจุภัณฑ์ โดยจำหน่ายเพียง 2 ขนาดคือ ขวดพีอีที 550 มล. และ 1.5 ลิตร โดยไม่มีขนาด 3 ลิตร แบบจัดส่งตามบ้านและขวดแก้ว แต่ประเด็นที่น่าสนใจคือสิงห์และช้างมีข้อได้เปรียบในการใช้ช่องทางจำหน่ายร่วมกับเบียร์ ขณะที่คริสตัลก็มีช่องทางจำหน่ายของเสริมสุขหนุนหลัง และการที่น้ำทิพย์มียอดขายถึงปีละ 2,000 ล้านบาทได้ดังกล่าว ก็เนื่องมาจากอาศัยแรงของโค้กเป็นหลัก ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำการตลาดจริงจังแต่อย่างใด
เมื่อน้ำทิพย์มีเรื่องเล่านำมาสู้กับคู่แข่งแล้ว จึงน่าติดตามว่าจะมีการรับน้องเก่า ในขวดใหม่อย่างไรบ้างแต่ที่แน่ๆ ตอนนี้กระแส “บิด” ได้เริ่มปรากฏให้เห็นแล้ว โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา
cellpadding=”2″ cellspacing=”2″>
5 แบรนด์หลัก
style=”vertical-align: top; text-align: center; font-weight: bold;”>Brand
style=”vertical-align: top; text-align: center; font-weight: bold;”>Slogan
style=”vertical-align: top; text-align: center; font-weight: bold;”>Packaging
เพียวไลฟ์