เปิดปีไม่สวย! มูลค่า ‘เทสล่า’ หายเกือบ 1 แสนล้านเหรียญ หลังบริษัทปรับ ‘ลดราคารถ’ ลงอีกรอบ

ภาพจาก Shutterstock
แม้ว่าในปี 2023 ที่ผ่านมา มูลค่าของ เทสล่า (Tesla) จะเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว แต่เปิดปี 2024 เทสล่าก็ต้องเผชิญกับการเริ่มต้นปีที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีมา เพราะบริษัทสูญเสียการประเมินมูลค่าตลาดมากกว่า 9.4 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงสองสัปดาห์แรกของปีนี้ 

จริง ๆ ก็ไม่ได้เป็นเรื่องน่าแปลกใจเท่าไหร่หากมูลค่าบริษัท เทสล่า จะลดลง เพราะเปิดปีมาบริษัทก็เจอข่าวเชิงลบมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การลดราคารถยนต์ที่ผลิตในจีนอีกครั้ง สัญญาณของต้นทุนแรงงานที่เพิ่มขึ้น และการเติบโตที่ชะลอตัวของตลาดรถอีวี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดสหรัฐอเมริกา

“ความกังวลหลักของนักลงทุนเกี่ยวกับเทสล่าคือ การเติบโตที่ซบเซา การลดราคาในประเทศจีนทําให้เกิดความกังวล เพราะมันเริ่มดูเหมือนว่าการแข่งขันสู่จุดต่ำสุดสําหรับอุตสาหกรรมอีวี เนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรง” เจฟฟรีย์ ออส บอร์น นักวิเคราะห์ของโคเวน กล่าว

เทสล่าได้ลดราคารถยนต์อย่างจริงจังตั้งแต่ต้นปี 2023 เพื่อพยายามเพิ่มความต้องการ แต่ผลลัพธ์คือ การลดลงอย่างต่อเนื่องของ อัตรากําไร ในขณะที่ต้นทุนของบริษัทกำลังเพิ่มขึ้นเนื่องจากการปรับขึ้นของ ค่าแรง ของพนักงานฝ่ายผลิตที่โรงงานในสหรัฐฯ นอกจากนี้ เทสล่าต้องเปลี่ยนเส้นทางการจัดส่งชิ้นส่วนไปยังโรงงานในเบอร์ลินเนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัยในทะเลแดง โดยเทสล่ากำลังจะระงับการผลิตส่วนใหญ่ที่โรงงานในเยอรมนีตั้งแต่วันที่ 29 มกราคมถึง 11 กุมภาพันธ์

นอกจากนี้ แม้ว่ายอดขายของเทสล่าในช่วงไตรมาส 4/2023 จะดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ก็ตาม แต่ก็ถูก BYD แซงหน้าด้วยยอดขายกว่า 5.2 แสนคัน แม้ว่าในด้านรายได้และผลกําไรของ BYD จะยังแพ้เทสล่าก็ตาม แต่การพ่ายแพ้ดังกล่าวก็เหมือนเป็นสัญญาณเตือนให้กับเทสล่า เพราะ BYD ไม่ได้ขายรถยนต์ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเทสล่ายังคงเป็นผู้นําตลาดสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม คุณค่าที่แท้จริงของเทาล่าอาจเป็นการพึ่งพาอนาคตของเทคโนโลยี การขับขี่อัตโนมัติ ปัญหาเดียวคือ เทสล่าพัฒนาเรื่องนี้มาหลายปีแล้ว และผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่มองว่า เทคโนโลยีนี้ยังห่างไกลที่จะนำมาใช้ได้จริง และอาจต้องใช้เวลาอีก หลายสิบปี

“เทสล่ายังไม่สามารถส่งมอบการขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ แต่มันกลับอยู่ในการประเมินมูลค่าบริษัทแล้ว”

Source