เศรษฐกิจ ‘จีน’ ปี 66 เติบโตต่ำสุดในรอบ 30 ปี เนื่องจากวิกฤต ‘อสังหาฯ’ และ ‘การว่างงาน’

ภาพจาก Unsplash
เศรษฐกิจของจีนปี 2566 ที่ผ่านมามีแนวโน้มการเติบโตในอัตราที่อ่อนแอที่สุดในรอบกว่า 30 ปี เนื่องจากได้รับผลกระทบจากวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ การบริโภคที่ซบเซา และความไม่แน่นอนทั่วโลก โดยแนวโน้มดังกล่าวจะยังส่งผลถึงปีนี้ด้วย

กลุ่มผู้เชี่ยวชาญสิบคนให้สัมภาษณ์กับ AFP โดยคาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนจะขยายตัว 5.2% ซึ่งจะแสดงถึงอัตราที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 1990 หากไม่นับช่วงที่ COVID-19 ระบาด โดยในปี 2022 GDP ของจีนเติบโตได้เพียง 3% เนื่องจากยังมีมาตรการควบคุมการระบาด

แม้ว่าในปี 2023 ที่จีนได้ยกเลิกข้อจำกัดต่าง ๆ และการกลับมาของชีวิตปกติของประชาชนจะช่วยฟื้นเศรษฐกิจ แต่จาก วิกฤตอสังหาริมทรัพย์ การว่างงานของเยาวชนที่สูงเป็นประวัติการณ์ รวมถึงการชะลอตัวทั่วโลกกําลังขัดขวางกลไกการเติบโตของจีน

โดยภาคอสังหาริมทรัพย์คิดเป็นประมาณ 1 ใน 4 ของเศรษฐกิจจีน และในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาก็มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่จากปัญหาทางการเงินในบริษัทใหญ่ ๆ เช่น Evergrande และ Country Garden ส่งผลต่อความไม่ไว้วางใจของผู้ซื้อ ท่ามกลางปัญหาของการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ยังไม่เสร็จและราคาที่ลดลง

“ความท้าทายหลักสําหรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนยังคงเกิดจากภาคอสังหาริมทรัพย์” Jing Liu หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Greater China ที่ HSBC กล่าว

ด้าน แฮร์รี่ เมอร์ฟี ครูซ นักเศรษฐศาสตร์จากหน่วยงานจัดอันดับของมูดี้ส์ มองว่า การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ ราคาที่อยู่อาศัย และยอดขายที่อยู่อาศัยใหม่จะลดลงตลอดปี 2024 ก่อนที่จะกลับมาเติบโตเล็กน้อยในปี 2025 ส่วน เฮเลน เฉียว หัวหน้าฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจเอเชียของ Bank of America กล่าวว่า วิกฤตดังกล่าวเกิดควบคู่ไปกับ สภาวะตลาดแรงงานที่ซบเซา ซึ่งกําลังลดทอนความเชื่อมั่นของผู้บริโภค โดยในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เยาวชนอายุระหว่าง 16-14 ปี ประมาณ 1 ใน 5 อยู่ในภาวะว่างงาน นอกจากนี้ ระดับการใช้จ่ายยังต่ำกว่าปี 2019 หรือก่อนที่การระบาดใหญ่จะเกิดขึ้น

ในส่วนของ ภาคอุตสาหกรรม ก็กำลังอ่อนแอลง ส่วนหนึ่งมาจากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐอเมริกา และความพยายามของบางประเทศตะวันตก ที่ต้องการกระจายซัพพลายเชน เพื่อลดการพึ่งพาจีน โดย Teeuwe Mevissen นักวิเคราะห์ของ Rabobank กล่าวว่า บริษัทตะวันตกจํานวนมากขึ้น กําลังลดหรือรักษาระดับการลงทุนในปัจจุบันในประเทศจีน แต่กระจายความเสี่ยงไปยังที่อื่น

แสงสว่างเดียวของเศรษฐกิจจีนมาจาก ภาคยานยนต์ โดยสามารถผลิตรถยนต์ได้เกิน 30.16 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 11.6% และยอดขายในประเทศเกิน 21.9 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 4.2% ด้านการส่งออกเพิ่มขึ้นเป็น 4.1 ล้านคัน เติบโต 63.7% 

Teeuwe ย้ำว่า ความท้าทายทั้งหมดเหล่านี้ จะยังคงมีบทบาทสําคัญต่อไปในปี 2024 โดยการเติบโตของเศรษฐกิจจีนปีนี้คาดว่าจะลดลงเหลือ 4.5% ตามการคาดการณ์ของธนาคารโลก ขณะที่การคาดการณ์เฉลี่ยโดยกลุ่มผู้เชี่ยวชาญของ AFP คือ 4.7%

Source