ผู้ให้บริการสตรีมมิ่งเพลงอย่าง Spotify ได้โวยที่ Apple เตรียมโขกค่าคอมมิชชั่นถึง 27% แม้ผู้ใช้งานจะใช้ Store หรือบริการเก็บเงินจากผู้ให้บริการอื่นก็ตาม โดยผู้ผลิต iPhone ได้ให้เหตุผลถึงนักพัฒนาจะได้ประโยชน์จากบริการของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นด้านการตลาด หรือแม้แต่การดูแลความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้งาน
Spotify บริการสตรีมมิ่งเพลงรายใหญ่ ได้โวยกรณีที่ Apple เรียกเก็บค่าคอมมิชชั่นสูงถึง 27% แม้ว่า Apple จะไฟเขียวให้แอปพลิเคชันอื่นสามารถใช้ผู้บริการเก็บเงิน หรือแม้แต่ผ่าน App Store ของผู้พัฒนารายอื่นก็ตาม และต้องการที่จะให้รัฐบาลอังกฤษขวาง Apple ในกรณีดังกล่าว
บริการสตรีมมิ่งเพลงรายนี้ได้กล่าวว่าพฤติกรรมดังกล่าวของ Apple ถือว่า ‘อุกอาจ’ และเน้นปกป้องผลประโยชน์ของตัวเองเป็นที่ตั้ง โดย Spotify เตรียมเรียกร้องให้รัฐบาลของอังกฤษจัดการในเรื่องนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ยักษ์ใหญ่รายดังกล่าวเรียกเก็บค่าค่าคอมมิชชั่นกับผู้พัฒนาโปรแกรมรายอื่นเช่นกัน
Apple ได้เริ่มให้ผู้พัฒนาโปรแกรมใช้บริการ App Store หรือแม้แต่ผู้ให้บริการเก็บเงินรายอื่น หลังจากที่ Epic Games ซึ่งเป็นผู้พัฒนาเกม Fortnite ได้ฟ้องร้องถึงการไม่อนุญาตให้ผู้พัฒนาลงโปรแกรมผ่าน App Store ของผู้พัฒนารายอื่น รวมถึงยังเก็บเงินค่าธรรมเนียมมากถึง 30%
ต่อมา Apple ได้ปรับปรุงเงื่อนไขโดยเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากนักพัฒนารายใหญ่ๆ มากถึง 30% บน App Store ขณะที่นักพัฒนารายเล็กจะจ่ายค่าธรรมเนียมประมาณ 15% และนักพัฒนารายย่อยซึ่งมีสัดส่วนมากถึง 85% ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมใดๆ เลยให้กับบริษัท
แต่หลังจากการพิจารณาคดีของศาลระหว่าง Apple กับ Epic Games ศาลได้สั่งให้ Apple ห้ามจำกัดตัวเลือกในการชำระเงิน ขณะเดียวกัน Apple เองได้แก้เกมในกรณีดังกล่าวในสหรัฐอเมริกาและบางประเทศ โดยเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่น 27% โดยให้เหตุผลว่านักพัฒนาจะได้ประโยชน์จากบริการของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นด้านการตลาด หรือแม้แต่การดูแลความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้งาน
ก่อนหน้านี้หน่วยงานกำกับดูแลหลายประเทศเองเริ่มบีบ Apple หรือแม้แต่ Google ในบริการในส่วนของ App Store หรือแม้แต่บริการจ่ายเงิน เนื่องจากมองว่าผู้เล่นรายอื่นควรที่จะเข้ามาแข่งขันได้ โดยประเทศที่เริ่มเข้ามาสนใจในกรณีดังกล่าว เช่น ญี่ปุ่น หรือ สหภาพยุโรป
และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Spotify ได้โวยยักษ์ใหญ่เทคโนโลยี ในเดือนตุลาคมปี 2023 ที่ผ่านมาผู้ให้บริการสตรีมมิ่งเพลงรายนี้ได้กล่าวถึงบริษัทเทคโนโลยีอย่าง Apple และ Google ว่าพยายามเป็นหน้าด่านของผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ต 4,000 ล้านคนทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมกักขังโลกอินเตอร์เน็ตในระดับ ‘บ้าคลั่ง’ มาแล้ว
ที่มา – BBC News