ผลสำรวจชี้ ‘จีน-รัสเซีย’ ไม่ได้เป็นภัยคุกคามความมั่นคงอันดับต้น ๆ อีกต่อไป แต่เป็นเรื่อง ‘สิ่งแวดล้อม’ และ ‘อิสลามหัวรุนแรง’

NEW YORK, NEW YORK - MARCH 05: Hundreds of people gather in Manhattan's Times Square in support of Ukraine and to demand an end to the Russian invasion of the country on March 05, 2022 in New York City. As the war moves into its third week, hundreds of civilians have been killed as Russians continue their bombardment of key cities and towns. (Photo by Spencer Platt/Getty Images)
การวิจัยใหม่ระบุว่า จีนและรัสเซีย ไม่ได้เป็นภัยคุกคามอันดับแรก ๆ ในสายตาของประชากรชาวตะวันตก เนื่องจากความกังวลความเสี่ยงที่ไม่เหมือนเดิม เช่น การอพยพย้ายถิ่นฐานของมวลชน และศาสนาอิสลามหัวรุนแรง

ผลการสำรวจจากดัชนีความปลอดภัยของมิวนิกปี 2024 เผยให้เห็นว่า การรับรู้ของสาธารณชนเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านความปลอดภัยแบบดั้งเดิมยังคงสูงกว่าเมื่อ 3 ปีที่แล้ว แต่ถือว่าลดลงจากปี 2022 ซึ่งเป็นปีที่รัสเซียรุกรานยูเครน อีกทั้งผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ในประเทศตะวันตกมองว่า จีนและมหาอำนาจอื่น ๆ จากซีกโลกใต้จะมีอำนาจมากขึ้นในทศวรรษหน้า ในขณะที่มหาอำนาจตะวันตกมีแนวโน้มที่จะถดถอยลง

โดยจากการสำรวจความคิดเห็นประชาชน 12,000 คนทั่วประเทศ G7 รวมถึง บราซิล อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ พบว่า มีเพียงผู้ตอบแบบสอบถามชาวตะวันตกเพียงไม่กี่คนที่เชื่อว่า ประเทศของพวกเขาจะปลอดภัยและมั่งคั่งมากขึ้นในอีก 10 ปีข้างหน้า ในทางตรงกันข้าม ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ส่วนใหญ่คิดว่าตนเองจะมีฐานะทางการเงินและการเมืองที่ดีกว่า

แม้ว่า รัสเซีย จะเป็นภัยคุกคามอันดับต้น ๆ สำหรับกลุ่มประเทศ G7 ในปีที่แล้ว แต่ตามการศึกษาที่ดำเนินการตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน 2566 พบว่า ความเสี่ยงส่วนใหญ่ที่รับรู้เหล่านั้นลดลงนับตั้งแต่นั้น โดยมีเพียงพลเมืองจาก สหราชอาณาจักรและญี่ปุ่น เท่านั้นที่ยังคงถือว่า รัสเซียมีความเสี่ยงสูงสุดในปีนี้ ในขณะที่ เยอรมนีและอิตาลี ผ่อนคลายความกังวลลงอย่างมาก รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงของความขัดแย้งทางนิวเคลียร์และการหยุดชะงักของการจัดหาพลังงานที่ลดลง

นอกจากนี้ ในสายตากลุ่มประเทศ G7 จำนวน 5 ประเทศ จีน ถูกมองในแง่ดีมากกว่าปีที่แล้ว โดยมีเพียง แคนาดาและญี่ปุ่น ที่ยังมองว่า จีนเป็นภัยคุกคามอยู่ ที่น่าสังเกตก็คือ ผู้ตอบแบบสอบถามชาวจีนมองว่า ทุกประเทศนอกเหนือจากรัสเซียและเบลารุสเป็นภัยคุกคามมากกว่าเมื่อก่อน นอกจากนี้ จีนยังเป็นประเทศเดียวที่ระบุว่า “สหรัฐฯ เป็นภัยคุกคาม”

อย่างไรก็ตาม การรับรู้ถึงความเสี่ยงที่ไม่ใช่แบบดั้งเดิมเพิ่มขึ้นในทุกประเทศ โดย ผู้คนทั่วโลกแสดงความกังวลเกี่ยวกับภัยคุกคามด้านสิ่งแวดล้อม ความเสี่ยงของการอพยพย้ายถิ่นอันเป็นผลจากสงครามหรือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และกลุ่มอาชญากรรม โดยปัญหาสิ่งแวดล้อมติดอันดับสามอันดับแรกในทุกประเทศยกเว้นสหรัฐอเมริกา

นอกจากนี้ ภัยคุกคามจากอิสลามหัวรุนแรง ถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามมากขึ้น แม้ว่าผู้เขียนรายงานตั้งข้อสังเกตว่าความรู้สึกส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในยุโรปและอเมริกาเหนือ และน่าจะเป็นผลมาจากสงครามอิสราเอล-ฮามาส ในขณะเดียวกัน ปัญหาด้าน ความปลอดภัยทางไซเบอร์ ก็ได้รับการจัดอันดับให้เป็นความเสี่ยงสูงสุดในจีนและสหรัฐอเมริกา เนื่องจากทั้งสองประเทศยกระดับข้อจำกัดของตนในการแข่งขันเพื่อแย่งชิงอำนาจทางเทคโนโลยี

Source