ธนาคารกสิกรไทย และ Lombard Odier รวมถึง KBank Private Banking ได้ชูแนวคิด Rethink Sustainability ชี้เป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่จะเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืน ในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านโครงสร้างทางเศรษฐกิจ เนื่องจากมาตรการการปรับคาร์บอนก่อนเข้าพรมแดน หรือ CBAM ที่กำลังใช้ในทวีปยุโรปในเวลานี้
อูแบร์ เคลเลอร์ Senior Managing Partner, Lombard Odier ได้ชี้ว่า เราพูดถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาวะแวดล้อมกันมาก แต่ปัญหาของสภาวะภูมิอากาศนั้นเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่โลกเรายังพบปัญหาอีกหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น ดินเป็นพิษจากสารเคมี น้ำทะเลที่มีความเป็นกรดมากขึ้น ฯลฯ
เราอยู่ในระหว่างการเปลี่ยนผ่านไปสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ซึ่งมาพร้อมโอกาสในการลงทุนอย่างมหาศาล ดังนั้นนักลงทุนจึงต้องก้าวให้ทันการเปลี่ยนแปลง โดยหันมาให้ความสำคัญกับธรรมชาติ
Senior Managing Partner ของ Lombard Odier ยกตัวอย่างว่า ในตอนนี้โลกกำลังเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะการเปลี่ยนผ่านด้านเศรษฐกิจหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการใช้พลังงานสะอาด 70% ของเศรษฐกิจโลก หรือการลดใช้วัสดุต่างๆ นอกจากนี้ยังรวมถึงการซื้อขายคาร์บอนเครดิต การให้ราคากับธรรมชาติ
เขายังกล่าวว่าการที่จะทำให้การเปลี่ยนผ่านทางเศรษฐกิจที่หันมาใช้พลังงานสะอาด หรือการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืนให้ได้คือการทำให้ผู้คนส่วนมากหันมาใช้สิ่งดังกล่าวจนถึงจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะทำให้คนหันมาใช้จำนวนมาก (Tipping Point)
อูแบร์ ได้ยกตัวอย่าง เช่น ราคาแผงโซลาร์เซลล์ถูกขึ้น ราคาของ Battery ถูกลง หรือแม้แต่ความนิยมในการใช้รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้ามีประสิทธิภาพมากกว่ารถยนต์สันดาปที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลแล้ว
ไม่เพียงเท่านี้รัฐบาลในหลายประเทศ หรือแม้แต่เอกชน ยังสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านเพื่อความยั่งยืนเหล่านี้ด้วย โดยคาดว่าเม็ดเงินลงทุนทั่วโลกรวมกันจะมากถึง 24.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2030 หรือคิดเป็นเงินไทยราวๆ 883 ล้านล้านบาท
เขายังชี้ว่าการผลักดันของรัฐบาลถือเป็นอีกส่วนที่อุ้มชูให้เกิด Tipping Point ขึ้นมาได้
นอกจากนี้ในช่วงการเปลี่ยนผ่านทางเศรษฐกิจ อูแบร์ ได้ชี้ว่าโมเดลธุรกิจทำให้หลายอย่างเปลี่ยนแปลงไป เขายกตัวอย่างกรณีของ Tesla ที่ไม่ได้ขายแค่รถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น แต่บริษัทได้ขาย Battery ซึ่งถือเป็นโครงสร้างพื้นฐาน หรือการทำ Energy Distribution รวมถึงขาย Software บนรถยนต์ไฟฟ้าด้วย
อูแบร์ได้ยกตัวอย่างอุตสาหกรรมไอทีเองได้ทุ่มเม็ดเงินลงทุนมหาศาล และชี้ว่าสิ่งที่ลงทุนนั้นได้ผลตอบแทนอย่างคุ้มค่า เขาชี้ว่ากำไรของกลุ่มไอทีในปี 2020 อยู่ที่ 20% มากกว่าในปี 1990 ซึ่งสัดส่วนกำไรอยู่ที่ 5% เท่านั้น
Senior Managing Partner ของ Lombard Odier ได้กล่าวทิ้งท้ายว่าช่วงเวลาการเปลี่ยนผ่านนั้นมาไวมาก เขาได้กล่าวถึงเรื่องการใช้พลังงานสะอาดนั้นเปลี่ยนแปลงเร็วกว่าที่คาด และทำให้การใช้พลังงานจากฟอสซิลลดลงไวด้วยเช่นกัน และบริษัทผลิตพลังงานจากฟอสซิลได้รับผลจากสถาบันการเงินมากขึ้น เช่น การไม่ปล่อยสินเชื่อ เป็นต้น
จิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ Executive Chairman, Private Banking Group ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ขณะที่โลกกำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจที่ยั่งยืน ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก KBank Private Banking ในฐานะผู้เชี่ยวชาญและผู้ให้คำแนะนำการลงทุน มองว่านักลงทุนคือหนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในสังคมได้ โดยให้ความสำคัญกับการลงทุนอย่างยั่งยืน ซึ่งไม่เพียงแต่จะสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในระยะยาวที่มีมูลค่ามหาศาลเท่านั้น แต่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจแห่งอนาคตไปสู่ความยั่งยืนได้ด้วย
พิพิธ เอนกนิธิ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารกสิกรไทยมุ่งสู่การเป็นธนาคารแห่งความยั่งยืน และเป็นผู้นำด้าน ESG ทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งธนาคารพร้อมเป็นกำลังสำคัญในการสนับสนุนและผลักดันการลงทุนเพื่อเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืน ด้วยผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่สนับสนุนโครงการที่ส่งเสริมสิ่งแวดล้อม ปรับเปลี่ยนการดำเนินงานภายในของธนาคารเพื่อลดก๊าซเรือนกระจกและยกระดับมาตรฐานสู่สากล
กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า ธนาคารต้องการที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนผ่านของลูกค้าธนาคารสู่ความยั่งยืน โดยก้าวไปด้วยกัน และมองว่านี่เป็นโอกาสทองของผู้ประกอบการไทย เนื่องจากในต่างประเทศเริ่มมีการใช้มาตรการมาตรการปรับคาร์บอนก่อนเข้าพรมแดน หรือ CBAM แล้ว อย่างเช่นทวีปยุโรป