บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ได้เปิดตัวแอปพลิเคชัน Pi Financial โดยชูจุดเด่นในเรื่องการใช้งานง่าย และลูกค้าสามารถลงทุนได้สะดวก ไม่ว่าจะเป็น หุ้นไทย กองทุนรวม ไปจนถึงหุ้นต่างประเทศ โดยตั้งเป้าในปี 2024 นี้จะมีสินทรัพย์ภายใต้การแนะนำโตเพิ่มอีก 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทย 43,000 ล้านบาท
บ๊อบ เวาเทอร์ส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ได้มีการพัฒนาบริการในรูปแบบดิจิทัลที่ครบวงจร ควบคู่กับบริการแนะนำการลงทุนส่วนบุคคล เพื่อมอบประสบการณ์การลงทุนแบบไร้รอยต่อให้กับลูกค้า ภายใต้แนวคิด Digital With A Human Touch
สำหรับปี 2024 นี้ บล.พาย ได้เปิดตัวแอปพลิเคชัน Pi Financial โดยชูจุดเด่นในเรื่องการลงทุนที่ง่าย ใช้เอกสารเปิดบัญชีเท่าที่จำเป็น และสามารถเปิดบัญชีได้สะดวกโดยผ่านระบบ NDID รวมถึงมีบริการยืนยันตัวตนที่ 7-Eleven ซึ่งระบบดังกล่าวจะมีภายหลังจากนี้
สำหรับแอปพลิเคชัน Pi Financial นั้นมีบริการซื้อขายสินทรัพย์หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นหุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ กองทุนรวม ตราสารอนุพันธ์ ฯลฯ นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถบริหารจัดการพอร์ตการลงทุน การทำธุรกรรมฝากและถอนเงิน การยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ ซึ่งบริษัทได้ชี้ถึงหน้าจอการใช้งานที่ง่าย และบริษัทยังรับฟังความเห็นจากลูกค้าที่ใช้งานจริงเพื่อพัฒนาระบบให้ใช้งานง่ายขึ้นกว่าเดิม
นอกจากนี้ บล.พาย ยังชูจุดแข็งในเรื่องบทวิเคราะห์หุ้นไทยและหุ้นต่างประเทศที่น่าสนใจ ทั้งช่องทางเดิมที่ลูกค้าสามารถดาวน์โหลดบทวิเคราะห์ไปอ่านได้ หรือแม้แต่ช่องทาง Social Content ที่เติบโตค่อนเร็ว ส่งผลทำให้บริษัทได้หันมาทำ Channel ผ่าน Youtube ซึ่งตัวเลขล่าสุดมีผู้ติดตามมากว่า 48,000 ราย และยังสามารถติดตามบทวิเคราะห์ดังกล่าวผ่านแอปฯ Pi Financial ได้ด้วย
นอกจากนี้ บ๊อบ ยังได้กล่าวถึงการที่บริษัทเตรียมรุกธุรกิจ Wealth Management โดยจะเจาะกลุ่มลูกค้าความมั่งคั่งสูง โดย บล.พาย เตรียมที่จะดึงพนักงาน Relationship Manager จำนวนหนึ่งมาร่วมงานเพื่อให้บริการลูกค้ากลุ่มดังกล่าว และจะเริ่มหาลูกค้าในกลุ่มความมั่งคั่งสูงเข้ามาใช้บริการด้วย
ธุรกิจ Wealth Management ของ บล.พาย ที่กำลังจะเดินหน้านั้น ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ บล.พาย มองจุดเด่นที่แตกต่างจากธนาคารที่ได้ทำธุรกิจดังกล่าวในเรื่องของความอิสระที่มากกว่า
ในปี 2023 ที่ผ่านมา บล.พาย นั้นมีฐานลูกค้าล่าสุดมากกว่า 80,000 ราย และบริษัทได้ระดมทุน 10 ล้านเหรียญสหรัฐจากตระกูล Koo Family กลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่สัญชาติไต้หวัน และบริษัทคาดว่าจะระดมทุนเพิ่มอีก 10 ล้านเหรียญสหรัฐได้หลังจากนี้เพิ่มเติม ซึ่งอยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากผู้ถือหุ้น
สำหรับภาพรวมของอุตสาหกรรมบริษัทหลักทรัพย์ในประเทศไทยที่มีการแข่งขันสูง บ๊อบ มองว่าการลงทุนช่องทางดิจิทัลใช้เงินลงทุนสูงและเชื่อว่าผู้เล่นในอุตสาหกรรมจะมีจำนวนลดลง ซึ่งเกิดจากการควบรวมกิจการ แต่เขาเชื่อว่าด้วยกลยุทธ์ของบริษัท บล.พาย จะเป็นผู้เล่นที่อยู่รอดได้
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ บล.พาย ยังมองว่า ด้วยทีมนักวิเคราะห์ที่แข็งแกร่ง และทีมที่ปรึกษาทางการลงทุนที่เชี่ยวชาญ บริษัทได้ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า และมีสินทรัพย์ภายใต้การแนะนำโตเพิ่มอีก 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทย 43,000 ล้านบาท