โดยตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ CEO Jitta Wealth
นักลงทุนระดับโลกอย่างปู่ Warren Buffett ได้กล่าวเอาไว้ว่า
“Successful investing takes time, discipline and patience.”
เป็นคำสอนนักลงทุนทั่วโลกอย่างง่ายๆ ว่าสิ่งที่จะทำให้การลงทุนของคุณประสบความสำเร็จ พอร์ตเติบโตได้นั่นก็คือ เวลา วินัย และความอดทน
กลยุทธ์การลงทุนที่มีองค์ประกอบครบทั้ง เวลา วินัยและความอดทน ทั้ง 3 สิ่งนี้รวมอยู่ในเรื่องของ Dollar cost Average (DCA) หรือการลงทุนแบบถั่วเฉลี่ยอย่างสม่ำเสมอนั่นเอง
ดังนั้นหากจะพูดว่ากลยุทธ์การ DCA หรือเพิ่มทุนอย่างสม่ำเสมอในสินทรัพย์ที่ดีเป็นหนทางแห่งความสำเร็จในโลกการลงทุนก็คงจะไม่ผิดเพี้ยนมากนัก
การ DCA ถูกพิสูจน์มาแล้วว่าช่วยสร้างผลตอบแทนให้ดีขึ้นได้ โดยไม่ต้องจับจังหวะ
และยังเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญมาก!
จนบางครั้งอาจจะชี้ชะตาว่าพอร์ตจะกำไรหรือขาดทุนได้เลย
แต่ผมเชื่อว่ายังมีนักลงทุนหน้าใหม่ที่กำลังละล้าละลัง ไม่กล้าที่จะเริ่มต้นลงทุน เพราะคิดว่าเงินทุนที่มีในมือจะน้อยเกินกว่าจะใช้สร้างกำไรได้
ผมอยากบอกตรงนี้เลยครับว่า คุณไม่จำเป็นต้องพะวงอะไรให้มากมายเลยครับ เพราะการลงทุนในสินทรัพย์ที่ดียิ่งเริ่มเร็ว ก็ยิ่งทำให้การลงทุนระยะยาวของคุณค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป แต่มีประสิทธิภาพได้
ยิ่งในปัจจุบันการลงทุนเป็นเรื่องเข้าถึงง่ายและรวดเร็วขึ้น คุณไม่จำเป็นต้องรอเก็บเงินจนได้ก้อนใหญ่ มีเงินเพียงไม่กี่บาทก็สามารถเริ่มต้นลงทุนได้แล้ว และยิ่งหากคุณสร้างวินัยให้กับตัวเองด้วยการออมเงิน DCA ได้อย่างสม่ำเสมอจะยิ่งเห็นหนทางแห่งความสำเร็จที่รออยู่ข้างหน้าเลยครับ
หากคุณยังรู้สึกว่าการ DCA ทำได้ยาก หรือคิดหาวิธีว่าจะทำอย่างไรให้ DCA กลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นอยู่
วันนี้ผมมี 3 เทคนิคง่ายๆ ที่จะช่วยให้ DCA กลายเป็นเรื่องง่าย คุณสามารถเริ่มต้นออมเงินหรือ DCA ได้อย่างสม่ำเสมอ ทำอย่างไรตามไปดูกันได้เลยครับ
1. ทำงบรายรับ-รายจ่ายประจำเดือน
อาจจะฟังดูน่าเบื่อเพราะเป็นวิธีที่ถูกพูดถึงบ่อยๆ แต่ถ้าคุณทำได้คุณจะเข้าใจว่ามันสำคัญมากแค่ไหน
คุณไม่จำเป็นต้องมองหาสมุดบัญชีมาเริ่มต้นการบันทึกให้ดูยุ่งยากเลยครับ เมื่อคิดจะเริ่มแล้ว เพียงแค่หยิบมือถือที่คุณติดมืออยู่ขึ้นมาแล้วเริ่มการจดรายรับรายจ่ายของคุณใส่ในแอปโน๊ตธรรมดาๆ หรือจะเป็นแอปสำหรับรายรับรายจ่ายที่จะช่วยให้คุณบันทึกรายรับ-รายจ่ายอย่างสะดวกขึ้นก็สามารถทำได้ง่ายๆ ครับ
เพราะไม่ว่าจะจดที่ไหนก็ไม่สำคัญเท่ากับ ‘จด’ จริงๆ แค่คุณเริ่มทำแบบนี้สัก 2-3 เดือนคุณก็จะพอเห็นภาพชัดเจนขึ้นแล้วว่า ‘คุณหมดเงินไปกับอะไรบ้าง’
แน่นอนว่าถึงตอนนั้นมันจะช่วยให้คุณสามารถเลือกว่ารายการไหนที่ไม่จำเป็น ตัดได้ หรือตัดไม่ได้ แล้วเอางบส่วนนั้นมาใส่เป็นรายการ DCA เติมเข้าพอร์ตรายเดือนได้บ้าง
ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีนะครับ เพราะวิธีนี้จะทำให้คุณเห็นภาพมากขึ้นว่า คุณสามารถ DCA ได้เดือนละเท่าไหร่ ถ้าอยากเพิ่มจำนวนเงินจะทำอย่างไรได้บ้าง
2. จ่ายแค่ไหน ออมเท่านั้น
ถ้ามีคนมาบอกว่า ‘คุณจะมีเงินออมมากขึ้น ถ้าคุณใช้มากขึ้น’ ฟังแล้วคุณอาจจะคิดว่า มันช่างย้อนแย้งจัง จะเป็นไปได้อย่างไร
แต่อย่าลืมว่าการใช้จ่าย ได้ช้อปปิ้งในสิ่งที่ชอบ ถือเป็นความสุขในชีวิตครับ
ดังนั้นคุณอาจจะไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต
แต่ใช้วิธีช้อปที่ช้อบชอบบบ มาช่วยออมเงินแทน
วิธีการก็คือ คุณต้องตั้งกฏให้กับตัวคุณเอง ‘ซื้อเท่าไหร่ ก็ออมเท่าที่ใช้ไป’
นอกจากจะเก็บเงินได้แล้ว คุณก็จะไตร่ตรองมากขึ้นก่อนช้อป และเมื่อมีเงินเก็บ คุณก็สามารถแบ่งเงินนั้นไป DCA ต่อได้บ่อยขึ้นด้วย
หรือคุณอาจจะตั้งกฏที่เบาลงไปหน่อยว่า ถ้าเดือนนี้ใช้เงินเกิน 5,000 บาท จะต้องโอนเงินเข้าพอร์ต 1,000 บาท ถ้าใช้เงินเกิน 10,000 บาท จะโอนเงินเข้าพอร์ต 5,000 บาท
พอร์ตของคุณก็จะงอกเงยขึ้นได้ด้วยเงินเพิ่มทุนเหล่านี้
นอกจากจะเก็บเงินได้แล้ว คุณก็จะไตร่ตรองมากขึ้นก่อนช้อป และเมื่อมีเงินเก็บ คุณก็สามารถแบ่งเงินนั้นไป DCA ต่อได้บ่อยขึ้น มากขึ้นแบบไม่รู้สึกผิดกับการใช้จ่ายครับ
3. เก็บเงินตามสูตร 50/30/20
เทคนิคสุดท้ายของวันนี้ อาจจะเป็นสูตรที่ดูคุ้นตา แต่คุณต้องรู้ไว้ว่าหนทางการออมเงินที่เวิร์กที่สุดสำหรับหลายๆ คนคือ ‘ออมก่อนใช้’
การแบ่งเงินออกเป็นส่วนๆ เป็นเรื่องสำคัญมาก! สูตร 50/30/20 ก็เป็นหนึ่งในสูตรแบ่งเงินยอดฮิต
ง่ายๆ เลยครับ เมื่อเงินรายได้ของคุณเข้าบัญชีมา คุณก็แค่จัดแบ่งออกเป็นก้อนๆ ประมาณนี้
- 50% สำหรับสิ่งที่จำเป็น (Need)
- 30% สำหรับสิ่งที่ต้องการ (Want)
- 20% สำหรับเก็บออม
และส่วนนี้ 20% นี้จะเป็นส่วนที่เราจะแบ่งสัดส่วนมันอีกทีก็ได้ว่า จะ DCA สำหรับพอร์ตลงทุนเท่าไหร่ และเหลือไว้เท่าไหร่สำหรับเป็นเงินเก็บฉุกเฉิน
ซึ่งสัดส่วนเหล่านี้ เป็นแค่ตัวอย่างเท่านั้นครับ คุณเองก็สามารถออกแบบตัวเลขในแต่ละส่วนของคุณได้ตามความเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ที่ต้องการ
แต่อย่าลืมว่าเมื่อได้สัดส่วนที่จะเอามา DCA แล้ว ทุกครั้งที่มีเงินเดือนหรือรายรับเข้ามาก็แบ่งเงินให้ชัดเจนก่อนนำไปใช้ หรือหากกลัวลืมผมเทคนิคง่ายๆ ที่คุณสามารถนำไปปรับใช้กับตัวเองได้ อย่างเช่นการตั้งค่า DCA ในวันที่เงินเดือนออกก็สะดวกดี
ทุกวันนี้ก็มีหลายแอปการเงินที่ได้นำเทคโนโลยีมาเป็นตัวช่วยนักลงทุนให้สามารถเลือกตั้งค่า DCA ไว้แล้ว เช่นเดียวกับแอปของ Jitta Wealth ที่ได้พัฒนาฟีเจอร์การ DCA เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้า สามารถออมก่อนใช้ ช่วยให้คุณลงทุนอย่างมีวินัยและสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว