‘ไมโครซอฟท์’ ขอให้พนักงานในจีนอย่างน้อย 100 คน ย้ายไปทำประเทศอื่น เนื่องจากความตึงเครียดระหว่างจีน-สหรัฐฯ

ภาพจาก Shutterstock
ดูเหมือนว่าความตึงเครียดระหว่าง สหรัฐฯ กับ จีน จะยังไม่มีทีท่าจะเบาบางลง โดยเฉพาะในส่วนของ สงครามเทคโนโลยี ล่าสุด ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ได้ขอให้พนักงานอย่างน้อย 100 คนในจีนพิจารณาย้ายไปประเทศอื่น ตามรายงานของสื่อทางการจีน

Wall Street Journal รายงานว่า ไมโครซอฟท์ ขอให้พนักงานบริษัทในจีนที่ทำงานเกี่ยวกับคลาวด์คอมพิวติ้งและเอไอ พิจารณาย้ายไปทำงานในประเทศอื่น โดยมีตัวเลือกอย่างสหรัฐอเมริกา, ออสเตรเลีย และไอร์แลนด์ โดยคาดว่าวิศวกรสัญชาติจีนในแผนกดังกล่าวมีจำนวนมากถึง 800 คน 

โดย Wall Street Journal ได้อ้างอิงแหล่งข่าวที่ไม่ระบุชื่อว่า ฝ่ายบริหารของรัฐบาลสหรัฐฯ กำลัง เตรียมจำกัดไม่ให้บริษัทจีนเข้าถึงบริการคลาวด์ของสหรัฐฯ โดยกำลังพิจารณาออกกฎหมาย ให้บริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐอเมริกา ต้องได้รับใบอนุญาตเท่านั้น ก่อนให้ลูกค้าในประเทศจีนสามารถใช้งานหรือเข้าถึงเทคโนโลยีเอไอได้ ดังนั้น คาดว่าไมโครซอฟท์จึงยื่นข้อเสนอดังกล่าวเพื่อ บริหารความเสี่ยง 

อย่างไรก็ตาม ไมโครซอฟท์ไม่ได้ระบุถึงจำนวนพนักงานที่บริษัทเสนอให้ย้าย และระบุว่าการให้โอกาสภายในเป็นส่วนหนึ่งของการถ่ายโอนภายในที่ทำเป็นประจำขององค์กรตามปกติ แต่จากแหล่งข่าวของ Yicai สื่อการเงินของรัฐจีนเขียนว่า มีพนักงานมากกว่า 100 คนได้รับผลกระทบ 

ทั้งนี้ ไมโครซอฟท์เข้าสู่ประเทศจีนในปี 1992 โดยมีห้องปฏิบัติการวิจัย Microsoft Research Lab Asia ในกรุงปักกิ่ง 

สงครามเทคโนโลยีระหว่างมหาอำนาจทางเศรษฐกิจทั้งสองทวีความรุนแรงขึ้นมานานหลายปี โดยในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯ ได้จำกัดประเภทของเซมิคอนดักเตอร์ที่บริษัทอเมริกันสามารถขายให้กับจีนได้ และรายงานดังกล่าวมีขึ้น

ในสัปดาห์เดียวกับที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ประกาศขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าของจีนมูลค่า 18,000 ล้านดอลลาร์ และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อีกหลายประเภท โดยไบเดน กล่าวว่า เขาพยายามป้องกันการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมจากจีนที่ทำลายอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ

Source