อาดิดาส (Adidas) เตรียมที่จะผลิตรองเท้ารุ่นนิยม แต่มีราคาถูกลงกว่าเดิม โดย CEO ของบริษัทได้ให้เหตุผลเพื่อผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกันก็คาดว่าเป็นการเจาะตลาดลูกค้ากลุ่มแมส เพื่อที่จะหารายได้เพิ่มเติม หลังปี 2023 ที่ผ่านมาบริษัทประสบปัญหาขาดทุนครั้งแรกในรอบ 30 ปี
Adidas ผู้ผลิตรองเท้ารวมถึงเสื้อกีฬา มีแผนที่จะผลิตรองเท้ารุ่นนิยมหลายรุ่นในราคาที่ถูกลงมา เช่น ในรุ่น Samba โดย CEO ของบริษัทได้ให้เหตุผลว่าเพื่อต้องการที่จะให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ซึ่งเทรนด์การใส่รองเท้าของบริษัทบางรุ่นยังได้รับความนิยมเรื่อยๆ จนทำให้บริษัทปรับกลยุทธ์
Bjorn Gulden ซึ่งเป็น CEO ของบริษัทกล่าวในการประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทว่า “สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าไม่ใช่ทุกคนสามารถซื้อรองเท้าราคา 120 หรือ 150 ดอลลาร์สหรัฐได้ แต่ทุกคนต้องการมีส่วนร่วมในเทรนด์เดียวกัน”
เขายังกล่าวเสริมว่า รองเท้าที่มีราคาแพงมากกว่า 100 ดอลลาร์สหรัฐ บริษัทจะผลิตรุ่นที่มีราคาถูกลงมา คาดว่า Adidas จะผลิตรองเท้าราคาอยู่ที่ราวๆ 60-80 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งรองเท้ารุ่นราคาถูกนี้จะมีวางขายตามร้านรองเท้าทั่วไปๆ ในทวีปยุโรป
ในช่วงที่ผ่านมารองเท้าของบริษัทในหลายรุ่นไม่ว่าจะเป็น Samba และ Gazelle หรือแม้แต่รุ่น Spezial นั้นมีความต้องการจากผู้บริโภคอย่างแข็งแกร่ง และความต้องการยังเติบโตตลอดเวลา ซึ่งรองเท้าบางรุ่นที่บริษัทนั้นมีวางขายมามากกว่า 10 ปีด้วยซ้ำ
ปี 2023 ที่ผ่านมาบริษัทประกาศผลประกอบการขาดทุนครั้งแรกในรอบ 30 ปี โดยสาเหตุสำคัญมาจากตลาดสำคัญของบริษัทอย่างสหรัฐอเมริกาประสบปัญหายอดขายลดลง จากสภาวะเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอน ขณะเดียวกันบริษัทยังคาดไว้ว่าในปี 2024 นี้ยอดขายในตลาดแดนมะกันก็จะประสบปัญหาลดลง 4%
นอกจากนี้ Adidas เองยังมีปัญหาสินค้าคงคลังจำนวนมากอย่าง Yeezy ที่เป็นรองเท้ารุ่นความร่วมมือกับ Kanye West (หรือ Ye ซึ่งเป็นชื่อในปัจจุบัน) นักร้องชื่อดัง แต่กลับมีปัญหาเรื่องการเหยียดเชื้อชาติจนทำให้บริษัทต้องยกเลิกสัญญา ส่งผลทำให้บริษัทต้องเคลียร์ขายสินค้าออกมาทั้งหมด ซึ่งกระทบกับผลดำเนินงานอย่างหนัก
แผนการดังกล่าวของ Adidas คาดเดาได้ว่าบริษัทต้องการที่จะขยายตลาดกลุ่มลูกค้ามากขึ้น เพื่อที่จะเพิ่มรายได้ของบริษัทกลับมาอีกครั้งในปีนี้
ที่มา – Fox Business, Reuters