เศรษฐีอาเซียนโตพุ่ง ดันธุรกิจ “เครื่องบินเจ็ทส่วนตัว” โต 14%

ธุรกิจ “เครื่องบินเจ็ทส่วนตัว หรือ Private Jet ในอาเซียนนั้นกำลังเติบโตอย่างมาก ปัจจัยสำคัญคือเรื่องของเหล่ามหาเศรษฐีที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังรวมถึงปัจจัยการประหยัดเวลาทำให้คุ้มค่าในการเดินทางหรือแม้แต่ใช้สำหรับการติดต่อด้านธุรกิจ

Positioning จะพาไปมองธุรกิจเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว หรือ Private Jet ที่กำลังเติบโตในอาเซียน ซึ่งทำให้มีการลงทุนในธุรกิจดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น จากปัจจัยสำคัญคือการประหยัดเวลาในการเดินทาง สามารถที่จะติดต่อในด้านธุรกิจหรือท่องเที่ยวได้เพิ่มมากขึ้น

ปริมาณเที่ยวบินยังเพิ่มมากขึ้นหลังโควิด

ณัฏฐภัทร สีบุญเรือง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็มเจ็ท จำกัด ได้กล่าวถึงการใช้งานเครื่องบินเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว (Private Jet) นั้นมีปริมาณเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะช่วงเวลาหลังการแพร่ระบาดของโควิดเองนั้นตัวเลขปริมาณการใช้งานของลูกค้านับตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมาเติบโตมากกว่าก่อนการแพร่ระบาดแล้ว

จุดเด่นของเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวคือความเร็วของที่มีมากกว่าเครื่องบินโดยสารทั่วไป ยังทำให้สามารถทำเวลาได้เร็วกว่าอีกด้วย นอกจากนี้ยังรวมถึงไม่ต้องเสียเวลารอในสนามบิน ซึ่งแตกต่างกับเที่ยวบินของสายการบินต่างๆ

ความนิยมดังกล่าวนั้นนอกจากนักธุรกิจระดับโลกจะใช้มาเป็นเวลานานแล้ว ปัจจุบันนักแสดงหรือแม้แต่นักร้องหลายคนอย่างเช่น เทเลอร์ สวิฟต์ ก็ใช้เครื่องบินเจ็ทส่วนตัวเช่นกัน

ราคาของ Private Jet และราคาต่อเที่ยว

สำหรับราคาเครื่องบินเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวนั้นขึ้นกับแต่ละรุ่น ซึ่งมีจำนวนที่นั่งต่างกัน อ้างอิงเว็บไซต์ Investopedia นั้นราคานั้นมีตั้งแต่ 2 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นเครื่องบินส่วนตัวขนาดเล็ก ไปจนถึงราคาระดับ 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ขึ้นกับความจุที่นั่งหรือแม้แต่ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์

เครื่องบินเจ็ทส่วนตัวขนาดใหญ่อย่างเช่น เครื่องบินของ Bombadier หรือ Gulfstream รุ่นที่มีราคาแพงมาก สามารถบินจากกรุงเทพไปยังทวีปยุโรปโดยไม่ต้องแวะจอดเติมน้ำมันที่ไหนเลย

ในขณะที่ราคาต่อเที่ยวบินนั้นขึ้นอยู่กับเส้นทางการบิน เครื่องบินที่ลูกค้าเลือกใช้ ระยะเวลาในการอยู่ที่ปลายทาง ถ้าหากมีค้างคืนก็จะต้องจ่ายอีกราคาหนึ่ง ซึ่งราคาเริ่มต้นส่วนใหญ่อยู่ในหลักแสนบาทต่อเที่ยวบิน ถ้าเป็นเส้นทางการเดินทางภายในประเทศ และราคาจะบวกเพิ่มมากขึ้นถ้าหากเป็นการเดินทางไปยังต่างประเทศ

แต่ถ้าคิดเป็นราคาเฉลี่ยต่อคนแล้วนั้นจะอยู่ในระดับ 5-60,000 บาทขึ้นไปต่อคน และจะค่าโดยสารจะเพิ่มมากขึ้นถ้าหากเป็นการเดินทางไปยังต่างประเทศ ซึ่งผู้ให้บริการแต่ละรายจะคิดค่าใช้จ่ายแตกต่างกันไป

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Private Jet ได้รับความนิยมคือเรื่องของการประหยัดเวลาในการเดินทาง – ภาพจาก Unsplash

ตลาดอาเซียนยังเติบโตได้ดี

ข้อมูลจาก Mordor Intelligence ที่วิเคราะห์อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีแบบทบต้น (CAGR) ของอุตสาหกรรมเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวในอาเซียนจะอยู่ที่ 14.36% ซึ่งคาดว่ามูลค่าตลาดจะเพิ่มขึ้นจาก 463.39 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2024 สู่ 906.39 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2029

ปัจจัยสำคัญนั้นมาจากการเติบโตของภาคการท่องเที่ยว รวมถึงการเพิ่มของลูกค้ากลุ่มสินทรัพย์สูงและสูงพิเศษ (High & Ultra-High Net Worth Individuals) โดยเฉพาะลูกค้ามหาเศรษฐีที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นในอาเซียน จากปัจจัยการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือแม้แต่การย้ายถิ่นฐานของเศรษฐีชาวจีนมายังละแวกนี้

การใช้เครื่องบินเจ็ทส่วนตัวในภูมิภาคนี้มีทั้งเพื่อการจัดกิจกรรมทางธุรกิจอย่างการประชุม มหกรรม หรือการพูดคุยระหว่างองค์กรในภูมิภาคที่มีจำนวนมากขึ้น ไปจนถึงการใช้เพื่อการเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งประเทศไทยเองถือว่าเป็นศูนย์กลางทั้งในเรื่องการท่องเที่ยว หรือแม้แต่การประชุม จนถึงการพูดคุยธุรกิจ

เศรษฐีกับนักธุรกิจในอาเซียนใช้งานเพิ่มมากขึ้น

ณัฏฐภัทร ได้กล่าวถึงเทรนด์การใช้งานเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวนั้นในช่วงที่ผ่านมา ได้ยกกรณีในการเดินทางเพื่อไปพูดคุยด้านธุรกิจ สามารถทำได้เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากสิ่งสำคัญที่สุดคือเรื่องของเวลา ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถซื้อกลับมาได้

ผู้บริหารของสูงสุดของ บริษัท เอ็มเจ็ท จำกัด ได้กล่าวว่า ลูกค้าบางคนมีมีตติ้งที่หัวหินตอนเที่ยง แต่ตอนเย็นมีนัดดินเนอร์ที่ภูเก็ต ถ้าเดินทางด้วยรถยนต์และเครื่องบินปกติไม่มีทางทำได้ และต้องเสียเวลานั่งรถต่อเครื่อง แต่ถ้าใช้บริการ Private Jet ทำได้แน่นอน ซึ่งการประหยัดเวลานั้นสามารถสร้างประโยชน์ให้กับคนเหล่านี้มหาศาล

เขายังได้ยกกรณีการเดินทางของ วิลเลียม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค ซึ่งเป็นประธานกลุ่มไมเนอร์ (รวมถึงเป็นเจ้าของร่วมและกรรมการบริษัท เอ็มเจ็ท จำกัด) ที่ใช้เครื่องบินเดินทางไปพูดคุยด้านธุรกิจในทวีปยุโรปนั้นสามารถประหยัดเวลาการเดินทาง และยังทำให้สามารถพูดคุยหรือพบปะด้านธุรกิจได้เพิ่มมากขึ้น

ด้วยเทรนด์ที่เกิดขึ้น ทำให้ บริษัท เอ็มเจ็ท จำกัด ได้ประกาศเข้าลงทุนใน บริษัท วิงส์โอเวอร์เอเชีย จำกัด เป็นมูลค่าดีล 17 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ซึ่งการลงทุนครั้งนี้ จะทำให้บริษัทขยายเครือข่ายการให้บริการไปยังอาเซียนได้เพิ่มมากขึ้น และบริษัทเองยังเผยว่ามีแผนที่จะปิดดีลในการลงทุนเพิ่มหลังจากนี้ด้วย