“ค่ายมวยภพธีรธรรม” เป็นอีกหนึ่งในค่ายมวยไทย ของอดีตแชมป์โลกคนดัง “สามารถ พยัคฆ์อรุณ” เจ้าของฉายา เพชฌฆาตหน้าหยก หลังจากที่เคยผันตัวเองไปโลดแล่นในวงการบันเทิง เป็นทั้งนักร้อง นักแสดง และเป็นยุคที่มวยไทยกับบันเทิงมาเจอกัน แต่ในที่สุดก็หวนกลับมาหาสู่อาชีพที่ถนัดที่สุดอีกครั้ง ด้วยการเปิดโรงเรียนฝึกสอนมวยไทยในย่านสายไหม ดอนเมือง เพื่อรองรับกับกระแสมวยไทยที่นิยมของต่างชาติ
แม้จะไม่ได้พบตัวของ “สามารถ พยัคฆ์อรุณ” ซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนค่ายมวยภพธีรธรรม เพราะติดคิวเดินทางบรรยาย และฝึกสอนมวยไทยในสหรัฐอเมริกาเป็นเวลา 2 เดือน แต่ก็ได้พบกับ วลัยทิพย์ ภพธีรธรรม ภรรยาของสามารถ ซึ่งรับตำแหน่ง “ผู้จัดการค่ายมวยภพธีรธรรม ยืนยันความนิยมมวยไทย ที่เริ่มต้นมาจากชาวต่างชาติ จนถึงเวลานี้มีคนไทยสนใจเพิ่มมากขึ้นมาได้ปีกว่าแล้ว
“พี่สามารถเขาจะบินไปทุกปี ทั้งสหรัฐอเมริกา สเปน อิตาลี เพราะคนเขาชื่นชอบมวยไทยมาก อย่างปีนี้ก็ต้องบินไปสหรัฐอเมริกาสองเดือน เพื่อนของพี่สามารถเขาเปิดค่ายมวยอยู่ที่รัฐเท็กซัส เลยจัดคิวให้ไปบรรยายสอนเทคนิคเกี่ยวกับมวยไทยไปหลายรัฐ แต่ช่วงหลังไปนานไม่ได้ เพราะต้องมาดูโรงเรียนสอนมวยไทยที่เวลานี้คนไทยหันมาสนใจเรียนเยอะขึ้น” วลัยทิพย์ เล่า
โรงเรียนค่ายมวยภพธีรธรรม เปิดมาตั้งแต่ปี 2553 จากความตั้งใจของสามารถที่ต้องการนำประสบการณ์ที่ได้จากอาชีพ และการสอนมวยไทยมากว่า 20 ปี ให้หลายสถาบัน มาเปิดเป็นค่ายมวย และเป็นโรงเรียนสอนมวยไทยควบคู่กันไป ให้กับเยาวชนคนไทยและชาวต่างชาติ
ค่ายมวยที่นี่จึงมีทั้งการฝึกนักมวยอาชีพในสังกัด “ภพธีรธรรม” ที่เวลานี้ส่งขึ้นชกตามเวทีมวยต่างๆ อย่างลุมพินี มาแล้ว รวมถึงการเปิดเป็นโรงเรียนสอนมวยไทยให้กับคนทั่วไป ซึ่งเป็นรายได้หลักของที่นี่ โดยมีทั้งชาวต่างชาติที่ซื้อตั๋วเครื่องบินมาเรียนถึงที่นี่ โดยเปิดสอนเป็นรายวัน รายสัปดาห์ เป็นเดือน รวมค่าที่พักและอาหารสร็จสรรพ ส่วนคนไทยจะเปิดสอนเป็นคอร์ส ถ้าเป็นแบบเรียนทุกวัน เดือนละ 3,800 บาท หรือจะเลือก 50 ชั่วโมง (ไม่เกิน 3 เดือน) ราคา 5,200 บาท
การสอนจะแบ่งเป็น 3 ขั้น เรียนพื้นฐานการออกหมัด จากนั้นจะเรียนเตะ ต่อย ศอกหมัดกับเป้าของจริง และขั้นที่สาม เป็นการเรียนเทคนิคขั้นสูงเกี่ยวกับแม่ไม้มวยไทยต่างๆ เช่น การศอกกลับ หรือกระโดดเตะ การหลบ ซึ่งแต่ละขั้นจะขึ้นกับการเรียนรู้ของแต่ละคนที่ใช้เวลาไม่เท่ากัน
ส่วนครูฝึกนอกจากตัวสามารถที่จะมาสอนลูกศิษย์ด้วยตัวเองแล้ว จะมีครูฝึกเป็นนักมวยอาชีพในสังกัด ที่เคยผ่านเวทีมวยมาแล้วไม่ต่ำกว่า 200 ครั้ง จำนวน 5-6 คน มาช่วยสอน และบางคนยังยึดอาชีพชวกมวย อย่าง ศักดิ์สงคราม ภพธีรธรรม ก็กำลังขึ้นชกที่เวทีมวยลุมพินี
การสอนจะแบ่งเป็น 2 ช่วง ตั้งแต่บ่าย 3 ถึง 5 โมงเย็น จะเป็นการฝึกนักมวยอาชีพ หลังจากนั้นตั้งแต่ 5 โมงเย็นถึง 2 ทุ่ม จะเป็นช่วงฝึกสอนมวยให้ยาวชน อายุตั้งแต่ 7-15 ปี เป็นส่วนใหญ่
“ต่างชาติเขานิยมมวยไทยมานานแล้ว เวลาเรียนเขาเอาจริงเอาจังมาก หลายคนบินมาเพื่อฝึกมวยอย่างเดียว มีไม่น้อยที่ได้ฟังอาจารย์สามารถบรรยายก็บินตามมาเรียนถึงเมืองไทย เพราะอยากได้เทคนิคและประสบการณ์ ส่วนเริ่มมานิยมปีกว่ามานี้เอง โดยช่วงหลังจะมีวัยรุ่น วัยคนทำงาน รวมทั้งผู้หญิง รวมแล้วประมาณ 100 คนที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาฝึกฝน
“ผู้ปกครองเขาก็เห็นแล้วว่า มวยไทย ไม่ใช่เรื่องของความรุนแรง เรียนแล้วไม่จำเป็นต้องเจ็บตัว แต่เป็นเรื่องของการออกกำลังกาย เป็นกีฬา ช่วงหลังเลยมีวัยรุ่นและผู้หญิงมาเรียน อย่างถ้ามาเรียน 20 คน จะมีผู้หญิง 5 คน ดาราก็มี เจมส์ เรืองศักดิ์” วลัยทิพย์บอกพร้อมยกตัวอย่างตัวเธอเองก็หันมาฝึกมวยไทยเป็นประจำเพื่อรักษาหุ่น
วลัยทิพย์ มองว่า กระแสความนิยมมวยไทย ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากกการจัดแข่งขันมวยไทยของ “ไทยไฟท์” ถือเป็นการยกระดับมวยไทย ทำให้วัยรุ่นหันมาสนใจ และตัวของสามารถเองก็ได้รับเชิญไปพากย์มวย และไปเป็นกรรมการตัดสินช่วงรำมวยไทยให้กับไทยไฟท์ ทำให้ชื่อของสามารถยังคงอยู่ในกระแสตลอดเวลา
นอกจากตัวสามารถแล้ว การทำตลาดของที่นี่จะใช้ตั้งแต่การแจกโบรชัวร์ ติดป้ายบิลบอร์ดขนาดใหญ่ในบริเวณสายไหม และการทำเว็บไซต์ ซึ่งลูกค้าจะ “เสิร์ช”หาข้อมูลเข้ามา รวมถึงการเปิดให้รายการทีวี ละคร เกมโชว์มาเช่าใช้สถานที่เพื่อถ่ายทำรายการ จึงทำให้ค่ายมวยเป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้น
ทุกวันนี้เธอจึงได้รับโทรศัพท์จากผู้สนใจโทรมาสอบถามเยอะมาก รวมถึงสื่อต่างๆ ทั้งรายการทีวี วิทยุ ก็ให้ความสนใจมาถ่ายทำรายการ ยิ่งเป็นการกระตุ้นให้มวยไทยได้รับความสนใจมากขึ้น ที่สำคัญเธอเชื่อว่า ความนิยมมวยไทยจะยังคงนิยมไปได้อีกนาน ไม่ได้มาพักเดียวแล้ววูบหายเหมือนกับกีฬาบางชนิด
“ต่างชาติเขายังเห็นประโยชน์ขนาดนี้ ยิ่งเวลานี้เขารู้แล้วว่า มวยไทยเป็นอย่างไร เชื่อว่าการออกกำลังกายด้วยมวยไทย จะนิยมไปอีกนาน เพราะเห็นผลจริงๆ”