ถ้าสินค้ามีปัญหา ภาพลบส่งผลกับแบรนด์ หากปล่อยไว้นาน โอกาสกลับมายิ่งยาก กรณีล่าสุดกับการปฎิบัติการของมือถือ”อาม่า” ที่อยู่ในภาวะขายของไม่ได้เกือบ 1 เดือน จากปกติจำหน่ายได้ในหลักหมื่นเครื่อง หลังจากมีข่าวว่าคุณภาพของมือถือไม่ผ่านการพิจารณาของกสทช. ลองมาดูว่า 5 ข้อที่”อาม่า”เลือกทำเพื่อกู้วิกฤตของแบรนด์เป็นอย่างไร
วิกฤต-“อาม่า”เป็นสินค้าโทรศัพท์มือถือซีรีส์หนึ่งของบริษัทมีเดีย อินฟินิตี้ จำกัด เฮาส์แบรนด์ของไทย ที่เจาะกลุ่มเป้าหมายผู้สูงอายุ ถูกคำสั่งของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือกสทช.เพิกถอนแบรนด์และห้ามจำหน่าย เพราะไม่ผ่านการพิจารณากสทช. จากความจริงคือกสทช.ระบุว่าเอกสารที่เคยอนุญาตนั้นไม่ถูกต้อง
ผล-กลายเป็นข่าวในสื่อหลัก ทำให้แบรนด์เสียหาย คนไม่มั่นใจคุณภาพสินค้า ขายสินค้าไม่ได้ และจำนวนหนึ่งขอเปลี่ยนสินค้า
5 ข้อกู้วิกฤต
1. การแถลงข่าวด้วยตัวเองของผู้บริหารระดับ ในกรณีของอาม่า เป็นเจ้าของบริษัท คือ”สุรินทร์ อมรชัชวาลกุล” กรรมการผู้จัดการ บริษัทมีเดีย อินฟินิตี้ จำกัด เพื่อสร้างความมั่นใจในข้อความที่บอกกับสาธารณชน โดยไม่มีการสื่อสารผ่าน Above the line เพราะผู้บริโภคบางส่วนไม่ได้รับทราบข่าวก่อนหน้านี้
2. ยกเลิกการจำหน่ายสินค้ารุ่นเดิม และนำสินค้ารุ่นใหม่มาทำตลาด แต่ยังใช้ชื่อเดิมที่เคยเป็นจุดแข็งของแบรนด์ คือจาก อาม่า+ เป็น อาม่า ++
3. การนำเอกสารจากกสทช.แจกต่อสื่อมวลชนว่า อาม่า++ ได้รับการตรวจสอบ และใบอนุญาตจากกสทช.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
4. การแสดงศักยภาพของธุรกิจว่ายังแข็งแกร่ง ด้วยการประกาศเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ ที่จะทำตลาดในช่วงครึ่งหลังของปี 2555 ที่เจาะกลุ่มมือถือราคาถูก (รุ่นJeed)ไม่เกิน 600 บาท มือถือเซกเมนต์อาเซียน ที่เน้นกลุ่มใหญ่คือชาวพม่าในไทย(รุ่นอาหม่อง) ราคาไม่เกิน 1.000 บาท สมาร์ทโฟน ราคาประมาณ 6,000 บาท และแท็บเล็ต ราคาประมาณ 3,000 บาท โดยตั้งเป้าหมายว่าจะทำยอดขายในครึ่งปีหลังได้รวม 1 แสนเครื่อง 40% มาจากรุ่นอาม่า อีก 40% มาจากอาหม่อง และอีก 20% ส่วนที่เหลือ และคาดว่ามียอดขายตลอดปี 400 ล้านบาท เทากับปี 2554
5. การมีพันธมิตรธุรกิจที่ช่วยยืนยันประสิทธิภาพของสินค้า
– พันธมิตรร่วมทำแคมเปญ ซึ่ง”สุรินทร์” แถลงว่าที่ผ่านมาเอไอเอได้ติดต่อมายังอาม่าเพื่อทำแคมเปญสำหรับกลุ่มเป้าหมายประกันชีวิตอาวุโส โอเค
– พันธมิตรช่องทางการจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ ตลอดเดือนสิงหาคม อาม่าจะจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น ซึ่งเป็นช่องทางที่”สุรินทร์” บอกว่าการจำหน่ายในร้านเซเว่นฯจะทำให้แบรนด์เป็นที่ยอมรับมากขึ้น