เป็นเพราะความร้อนแรงของกล้อง Mirrorless หรือกล้องดิจิตอลเปลี่ยนเลนส์ที่คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตสูงถึง 160-200% ในแง่ของมูลค่า และเติบโต 143% (จำนวนเครื่อง) ทำให้ซัมซุงตัดสินใจร่วมวงทำตลาดด้วยการเปิดตัวกล้องเปลี่ยนเลนส์ได้ 3 รุ่น โดยหวังจะสร้าง ยอดขายในกล้องเซ็กเมนต์นี้ให้ติด Top 3
แต่การที่ต้องสู้ศึกในตลาดกล้อง Mirrorless ที่มีแบรนด์กล้องชั้นนำทำตลาดมาก่อนหน้านี้แล้ว ทั้ง Nikon, Olypus ล่าสุด Canon ซึ่งแม้ก่อนหน้านี้เคยประกาศไม่ทำตลาดกล้อง Mirrorless ยังต้องเข้าทำตลาดกล้องในเซ็กเมนต์นี้แล้วเช่นกัน ทำให้ซัมซุง ต้องใส่ฟังก์ชันเสริมด้วยการเชื่อมต่อ WI-FI จากตัวกล้องมาเป็นจุดขาย เพื่อให้เหมาะกับ พฤติกรรมของผู้บริโภคที่นิยม “ถ่ายภาพแล้วแชร์ขึ้นโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค” ได้ทันที
“พฤติกรรมการถ่ายภาพไม่มีทางลดลง มีแต่จะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เคยมีกล้องคอมแพคแล้วมักต้องการกล้องที่มีคุณสมบัติดีขึ้น และไลฟ์สไตล์คนชอบถ่ายภาพและแชร์ให้เพื่อดู ซึ่งเวลานี้สถานที่หลายแห่งก็มี WI-FI ให้บริการเพิ่มขึ้นมาก เทคโนโลยีของซัมซุงเองก็ทำให้เชื่อมต่อเข้า Browser ทำให้ล็อกอินเข้าโซเชี่ยลมีเดียได้ 8 อย่าง เลือกได้ตามความต้องการ” รัชตะ สุทธาพัฒน์ธานนท์ ผู้จัด การอาวุโส ธุรกิจดิจิตอล อิมเมจจิ้ง บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ กล่าว
ก่อนหน้านี้ซัมซุงเคยออกสินค้าซีรี่ส์ NX มาแล้วเมื่อ 2 ปีก่อน แต่ตอนนั้นตลาดยังเน้นที่กล้องคอมแพคอยู่ซัมซุงจึงทุ่มงบประมาณเพื่อแนะนำ ซัมซุง 2 วิว เป็นหลัก แต่ปีนี้ซัมซุงจะหันไปทำตลาดกล้องเปลี่ยนเลนส์ได้ ซึ่งในเบื้องต้นซัมซุงจะเปิดตัว 3 รุ่น แบ่งเป็น NX 1000 เป็นรุ่นที่จับกลุ่มเป้าหมายคนทั่วไป มี 3 สี ดำ/ขาว/ชมพู ถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ซัมซุงหวังยอดขายจากกล้องรุ่นนี้ไว้ถึง 70%
ส่วนรุ่นที่วางตลาดมาก่อนหน้านี้ คือ NX 210 ขยับคุณสมบัติขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง จับกลุ่มเป้าหมายคนที่รักการถ่ายภาพมี ความรู้เรื่องกล้องนิดหน่อย ยอดขายน่าจะอยู่ที่ 20% กว่า และ NX 20 จับกลุ่มเป้าหมายโปรฯ การวางเลย์เอาต์ของกล้องก็ออกแบบให้เป็นแบบเดียวกับกล้องโปรฯ
กลยุทธ์ของซัมซุงในตลาดกล้องปีนี้ ซัมซุงจะชูเรื่อง Smart Camera ซึ่งประกอบด้วยคุณสมบัติ 2 อย่างคือ 1.การแชริ่ง 2.การ Convegence กับโปรดักต์อื่นๆ ของซัมซุง โดยวิธีการโปรโมตซัมซุงจะสื่อสารไลน์สินค้ากล้องภายใต้กลยุทธ์นี้ทั้งหมดไม่แบ่งแยกกล้องคอมแพคหรือว่ากล้องเปลี่ยนเลนส์ได้ แต่หยิบโปรดักต์มาเป็นไฮไลต์ในช่วงเวลาที่ต่างกัน เช่นในช่วงครึ่งหลังของปี ซึ่งตรงกับโอกาสรับปริญญา ฤดูเฉลิมฉลองและท่องเที่ยว ซัมซุงก็จะชูเรื่องกล้องเปลี่ยนเลนส์ได้ที่มีคุณสมบัติดีกว่ากล้องคอมแพค
ส่วนกลยุทธ์การทำตลาด ซัมซุงจะใช้สื่อ 360 องศา มีทั้งภาพยนตร์โฆษณา การใช้สื่อสิ่งพิมพ์ และใช้ Key Influencer ซึ่งจับไลฟ์สไตล์เป็นหลัก เช่น ทำกิจกรรมกับ Food Stylish หรือ Fashion Designer ทั้งหมดนี้เพื่อทำให้แบรนด์ซัมซุงก้าวขึ้นสู่ Top 3 ในตลาดกล้อง Mirrorless ส่วนสัดส่วนรายได้จากผลิตภัณฑ์กล้องของซัมซุงกลายเป็น กล้องคอมแพค 95% กล้องเปลี่ยนเลนส์ได้ 5% ในภาพรวมก็จะทำให้ซัมซุงมีรายได้เพิ่มขึ้น 15-20%
cellpadding=”2″ cellspacing=”2″>
Differentiation
Detail
ต้องการความชำนาญของผู้ใช้ระดับหนึ่งจับกลุ่มเป้าหมายคนที่อยากอัพเกรดกล้อง
NX20 กล้องสำหรับมือโปรฯ
Strategy
ในตลาด
ดังนั้นซัมซุงจึงต้องการสร้างความแตกต่างด้วยการจับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่ชอบถ่ายรูปแล้วแชร์ขึ้นโซเชี่ยลมีเดีย
อีกทั้งสภาพตลาดปัจจุบันสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหารก็มีสัญญาณ WI-FI
ไว้รองรับแล้ว