หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผ่านพ้นไป ผู้คนต่างก็ปรับตัวหันมาใช้ชีวิตผ่านการพึ่งพาเทคโนโลยีกันมากขึ้น อาทิ การสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชัน หรือ การเรียกใช้บริการการเรียกรถ (Ride Hailing) ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
โดยตลาดบริการเรียกรถในไทยมีมูลค่าอยู่ที่ 2.26 พันล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าจะเติบโตถึง 4.60 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น (CAGR) สูงกว่า 9.38% ในช่วงเวลาคาดการณ์เลยทีเดียว
LINE MAN ลงสนามท้าชิงส่วนแบ่ง Ride Hailing
LINE MAN เป็นแอปพลิเคชันสัญชาติไทยที่ให้บริการด้านการสั่งอาหาร (Food Delivery) เรียกรถโดยสาร (Ride Hailing) การส่งพัสดุ (Messenger) รวมถึงการสั่งของที่ร้านสะดวกซื้อและซูเปอร์ (Mart) ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2016 โดยบริการที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของ LINE MAN คือ บริการด้านการสั่งอาหาร
และด้วยพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้บริการคมนาคม จากเดิมที่เคยเรียกใช้บริการแบบออฟไลน์ก็เปลี่ยนมาใช้บริการเรียกรถออนไลน์แทน และยังคงมีความต้องการใช้งานเรียกรถออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากผู้บริโภค
ทำให้ในปี 2018 LINE MAN ผุด “LINE MAN TAXI” บริการเรียกรถแท็กซี่ถูกกฏหมายที่ร่วมมือกับเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่เขตกรุงเทพฯ ก่อนจะขยายพื้นที่ให้บริการไปยังเขตอื่นๆ รวมถึงเขตปริมณฑล ซึ่งมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง ก่อนที่จะมีการนำรถมอเตอร์ไซค์เข้ามาให้บริการ รวมถึงดำเนินการขอ license (ใบอนุญาตขับขี่) จากกรมขนส่งทางบก ในการนำรถบ้าน หรือ รถยนต์ส่วนบุคคล เข้ามาให้บริการเพิ่มเติม จนกลายเป็น “LINE MAN Ride” บริการเรียกรถครบวงจร
นอกจากนั้น ปัจจัยด้านการขยายตัวของสังคมเมือง (Urbanization) ที่ขยายใหญ่ขึ้น รวมถึงปัจจัยด้านการแข่งขันในปัจจุบันที่ในตลาดบริการเรียกรถออนไลน์มีผู้เล่นเข้ามาในตลาดหลากหลายเจ้า แม้จะทำให้ตลาดฯ มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังมี Pain Point ในเรื่องของ ‘ราคาแพง’ และ ‘ความปลอดภัย’ ที่เป็นช่องว่างให้ LINE MAN เข้ามาชิงส่วนแบ่งด้วย ‘ราคาที่ถูกกว่าและมีปลอดภัย’ และมีการคาดว่า จะเติบโตจนมีขนาดราว 34,000 ล้านบาทในอีก 5 ปีข้างหน้า
ปัญหารถติดทำ “LINE MAN Bike” โตพุ่ง 390%
“ศิวภูมิ เลิศสรรค์ศรัญย์” รองประธานอาวุโสฝ่ายธุรกิจบริการด้านออนดีมานด์ LINE MAN Wongnai กล่าวว่า บริการเรียกรถผ่านแอป กลายเป็นบริการที่มีความสำคัญต่อการเดินทางของคนอย่างมาก โดยปัจจุบันมีจำนวนผู้ใช้งานรวมของแอป LINE MAN ทั้งหมดมากกว่า 10 ล้านคนต่อเดือน หลังจาก LINE MAN Ride ได้รับการอนุมัติจากกรมการขนส่งทางบกอย่างเป็นทางการเมื่อต้นปี 2024 บริการ LINE MAN Ride มีอัตราการเติบโตขึ้นถึง 60% จากปี 2023 โดยประเภทรถที่ได้รับความนิยม ได้แก่ LINE MAN Eco (บริการที่มีทั้งรถแท็กซี และรถส่วนบุคคลคอยให้บริการ) , LINE MAN Bike (บริการเรียกรถมอเตอร์ไซค์) และ LINE MAN Taxi (บริการเรียกรถแท็กซี่) ตามลำดับ
แม้ว่า LINE MAN Taxi จะเปิดให้บริการมาก่อนหลายปี แต่ LINE MAN Eco และ LINE MAN Bike ที่เปิดตัวไปเมื่อปลายปี 2023 กลับได้รับความนิยมจากผู้บริโภคมากกว่า โดย LINE MAN Bike มีอัตราการเติบโตถึง 390% เนื่องจากเป็นบริการที่เข้ามาตอบโจทย์การเดินทางในช่วงรถติด ส่วน LINE MAN Eco ได้รับผลตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคโดยเฉพาะเพศหญิงที่มักเรียกใช้บริการเรียกรถฯ กันเป็นประจำ เนื่องจากมีโปรโมชั่นคูปองส่วนลดเยอะและมีความปลอดภัยในการเดินทางมากกว่า
นอกจากเรื่องของ ‘ราคาถูกกว่าและความปลอดภัย’ LINE MAN Ride ยังมีฟีเจอร์เด่นที่เป็นจุดต่างจากคู่แข่งเจ้าอื่นๆ ในตลาด คือ ฟีเจอร์ Toll Selection ที่ให้ผู้ใช้บริการสามารถเจาะจงเลือกได้ว่าต้องการขึ้นทางด่วนหรือไม่ ได้ตั้งแต่ก่อนเริ่มเดินทาง ทำให้ผู้ใช้สามารถประเมินราคาและเวลาการเดินทางได้ ไม่ต้องเสียเวลาตกลงกับคนขับในขณะโดยสาร
มาพร้อม Chat Stickers ที่ผู้ใช้สามารถส่งสติกเกอร์ในการสื่อสารคนขับได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องพิมพ์ข้อความ และบริการชำระเงินผ่าน QR Payment ที่กำลังจะเปิดให้บริการในเร็วๆ นี้
เล็งเพิ่ม “บริการเรียกรถในสนามบิน” และ “โมเดลรถ EV” ในแอป
นอกจากในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่มีความต้องการเรียกใช้บริการเรียกรถอย่างมากแล้ว บริเวณในเขตพื้นที่สนามบิน ก็เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่มีความต้องการเรียกใช้บริการเรียกรถอย่างมากเช่นกัน เพราะแม้จะมีรถบัสวิ่งผ่านเข้าไปรับผู้โดยสารก็จริง แต่ก็ต้องใช้เวลารอค่อนข้างนาน อีกทั้งไม่สะดวกสบาย หากผู้โดยสารมีสัมภาระเยอะ
หรือบริการแท็กซี่ที่แม้จะเปิดให้บริการในสนามบินตลอด 24 ชั่วโมง แต่ผู้โดยสารก็ต้องต้องกดบัตรคิวเพื่อรอรถ อีกทั้งมีการคิดค่าบริการเพิ่มจากมิเตอร์ ส่งผลให้ผู้โดยสารเสียเงินค่าโดยสารมากกว่าปกติ
จาก Pain Point ดังกล่าว ทำให้ยังมีช่องว่างที่ผู้ให้บริการเรียกรถยังสามารถเข้าไปเติมเต็มความต้องการของผู้บริโภคได้ LINE MAN จึงได้วางแผนเพิ่มบริการเรียกรถในสนามบิน รวมถึงแผนเพิ่มโมเดลรถ EV ในแอปเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค โดยในระหว่างนี้อยู่ในขั้นตอนที่ LINE MAN กำลังศึกษาข้อมูล เพื่อนำมาพัฒนาระบบ
ทั้งนี้ LINE MAN ยังมีแผนจะเตรียมเสนอขายหุ้น IPO เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทย ภายในปี 2025 เพื่อขยายธุรกิจให้เติบโตมากขึ้น ส่วนจะเข้าในเดือนไหนนั้น ต้องรอติดตามกันต่อไป