FacebookIRL หรือ Facebook In Real Life เป็นโครงการระดับโลกของ Meta เพื่อตอกย้ำการเป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมต่อผู้คนจำนวนหลายพันล้านทั่วโลก ซึ่งถูกจัดขึ้นใน 4 ประเทศทั่วโลก และ ‘ประเทศไทย’ เป็น 1 ใน 3 ประเทศนอกสหรัฐอเมริกาที่มีการจัดงานนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของบ้านเราต่อ Meta
ภายในงานได้มีการแชร์สถิติสำคัญ และเทรนด์น่าสนใจหลายอย่าง รวมถึงอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่กำลังจะเปิดตัวในไทยเร็ว ๆ นี้ ยกตัวอย่าง Meta AI เวอร์ชั่นภาษาไทยที่จะเปิดตัวภายในสัปดาห์หน้า พร้อมเผยถึงเทคนิคในการสร้าง Engagement บน Facebook
สถิติน่าสนใจ
– Meta มีผู้ใช้จากแพลตฟอร์มต่าง ๆ รวมแล้ว 3.29 พันล้านคน เพิ่มขึ้น 5% ทุกปี โดยเป็นผู้ใช้ Facebook มากกว่า 2 พันล้านคน
– สำหรับในประเทศไทย Facebook มีผู้ใช้งานมากกว่า 60 ล้านคนต่อเดือน เพิ่มขึ้น 5%จากปีก่อน และมีผู้ใช้งาน Messenger กว่า 56 ล้านคนต่อเดือน
– บน Facebook มี Group มากกว่า 43 ล้านกลุ่ม และ 25 ล้านกลุ่มเป็นสาธารณะ ซึ่งในแต่ละเดือนมีผู้ใช้กว่า 1.8 ล้านคนมีส่วนร่วมในกลุ่ม
– Facebook มีผู้ใช้งานใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะกลุ่ม Young Adult หรือคนรุ่นใหม่อายุระหว่าง 19-29 ปี
– คนรุ่นใหม่ใช้เวลา 60% เพื่อดูวิดีโอบน Facebook และ 50% ดู Reels
เทรนด์ที่มาแรง บน Facebook
– พฤติกรรมการใช้ Facebook ของกลุ่ม Gen Z เปลี่ยนแปลงไป จากเดิมใช้เพื่อเชื่อมต่อกับผู้คน ปัจจุบันเปลี่ยนมาเป็น Expand & Explore ซึ่งถือเป็นเทรนด์ใหม่ของกลุ่มนี้ โดยจะเน้นสำรวจความสนใจและค้นหาสิ่งใหม่ ๆ รวมถึงใช้ขยายคอมมูนิตี้ และคอนเน็กชันของตัวเอง
– Reel มาแรง และคนรุ่นใหม่เกินครึ่งจะดู Reels เป็นหลัก ที่สำคัญจะดูทุกวัน
– ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา คนรุ่นใหม่จะแชร์วิดีโอในสาธารณะ แต่ตอนนี้พวกเขาจะแชร์เฉพาะตัวเองหรือกลุ่มเฉพาะ ทำให้เทรนด์ Private Sharing เติบโตขึ้นถึง 100% เมื่อเทียบกับปีก่อน
– 4 ฟีเจอร์บน Facebook ที่คนรุ่นใหม่นิยมใช้ ได้แก่ Market Place, Group, Event และ Messenger
ไฮไลต์ของ Meta AI มีอะไรบ้าง
– Meta ได้ลงทุนเงินกว่า 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับเรื่อง AI เพื่อจะเป็นเบอร์ 1 ของโลกทางด้านนี้
– ตอนนี้มีผู้ใช้งาน Meta AI อยู่ประมาณ 500 ล้านคน
– บน Facebook มีผู้ใช้ราว 15 ล้านคน ใช้ Generative AI สำหรับทำคอนเทนต์และโฆษณา
– Meta AI เวอร์ชั่นภาษาไทยกำลังจะเปิดตัวในสัปดาห์หน้า
– Meta AI จะมีฟีเจอร์ใหม่เพื่อช่วยให้ Admin สามารถบริหารจัดการคอมเมนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือและฟีเจอร์อื่น ๆ อาทิ Imagine yourself ที่ AI จะช่วย Gen ภาพตามที่ต้องการ และ AI Comment Summary สำหรับช่วยสรุปเนื้อหา และไฮไลต์คอนเทนต์หลักในโพสต์ เป็นต้น
อัปเดตเทรนด์ Creator สร้างรายได้น่าสนใจ
ทาง Facebook เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีครีเอเตอร์กว่า 4 ล้านคนที่สร้างรายได้บน Facebookโดยระหว่างปี 2023 จนถึงปี 2024 Facebook ได้จ่ายเงินค่าตอบแทนให้ครีเอเตอร์ที่ทำคอนเทนต์ไปแล้วกว่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งการจ่ายค่าตอบแทนดังกล่าวส่วนมากเป็นคอนเทนต์ Reels ที่เติบโตสูงถึง 80%
นอกจากนี้ Facebook ยังได้แนะนำครีเอเตอร์ที่ต้องการปั้นช่องและสร้างรายได้ว่า ให้เปิด Professional Mode เพื่อให้สามารถเข้าถึงเครื่องมือและข้อมูลอินไซต์ต่าง ๆ ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของคอนเทนต์แต่ละตัว รวมไปถึงการสร้างรายได้บนแพลตฟอร์มด้วยรูปแบบต่าง ๆ
ขณะเดียวกัน Facebook ยืนยันว่า สนับสนุนครีเอเตอร์ที่โพสต์คอนเทนต์ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น บทความ ภาพ วิดีโอ และวิดีโอสั้น ซึ่งประสิทธิภาพของคอนเทนต์ขึ้นอยู่กับความน่าสนใจ และการทำได้อย่างตรงจุด ไม่ได้เกี่ยวกับรูปแบบของการโพสต์
ยกตัวอย่างที่มีครีเอเตอร์หลายครีเอเตอร์ โดยเฉพาะสื่อ นิยมโพสต์คอนเทนต์ในรูปแบบสเตตัส เพราะเชื่อว่า เอนเกจจะดีกว่ารูปแบบบทความ ถือเป็นความเชื่อที่ไม่ตรงกับความจริง