เส้นทางพันล้าน “ลัคกี้สุกี้” น้องใหม่วงการที่โตเร็วกว่า “สุกี้ตี๋น้อย”

หากกล่าวถึง สุกี้ราคาเข้าถึงง่าย ชื่อของ “สุกี้ตี๋น้อย” คงติดอันดับแรก ๆ ที่ผู้คนนึกถึง แต่ตอนนี้บัลลังก์สุกี้ตลาดแมสคงสั่นสะเทือนมิใช่น้อย เมื่อ “ลัคกี้สุกี้” แบรนด์น้องใหม่ อายุ 3 ปี เข้ามาชิงตลาด

ลัคกี้สุกี้ น้องใหม่ที่โตเร็วพอ ๆ กับ สุกี้ตี๋น้อย

สิ่งที่น่าสนใจ คือ ลัคกี้สุกี้ เริ่มต้นธุรกิจเพียง 3 ปี แต่ทำรายได้ทะลุ 1,000 ล้านบาท มีการเติบโตทั้งรายได้และกำไรค่อนข้างเร็วพอ ๆ กับสุกี้ตี๋น้อย

ผลประกอบการลัคกี้สุกี้ (นับตั้งแต่เริ่มมีการรายงานรายได้-กำไร)

  • ปี 2565 รายได้ 79 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2.6 ล้านบาท
  • ปี 2566 รายได้ 409 ล้านบาท เติบโต 413% กำไรสุทธิ 46 ล้านบาท เติบโต 1,635%
  • ปี 2567 รายได้ 1,000 ล้านบาท เติบโต 148% กำไรสุทธิ N/A
ลัคกี้สุกี้ สาขาแม็คโครจรัญฯ
ลัคกี้สุกี้ สาขาแม็คโครจรัญฯ

ผลประกอบการสุกี้ตี๋น้อย (นับตั้งแต่เริ่มมีการรายงานรายได้-กำไร)

  • ปี 2562 รายได้ 499 ล้านบาท กำไรสุทธิ 15 ล้านบาท
  • ปี 2563 รายได้ 1,223 ล้านบาท เติบโต 144% กำไรสุทธิ 140 ล้านบาท เติบโต 808%
  • ปี 2564 รายได้ 1,572 ล้านบาท เติบโต 28% กำไรสุทธิ 147 ล้านบาท เติบโต 5.49%
  • ปี 2565 รายได้ 3,976 ล้านบาท เติบโต 152% กำไรสุทธิ 591 ล้านบาท เติบโต 299%
  • ปี 2566 รายได้ 5,262 ล้านบาท เติบโต 32% กำไรสุทธิ 907 ล้านบาท เติบโต 53%

และ ช่วง 9 เดือนแรก ปี 2567 สามารถทำกำไรได้ราว ๆ 890 ล้านบาท (อ้างอิงส่วนแบ่งกำไรของ JMART ที่ถือหุ้น 30% ใน บริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด เจ้าของ สุกี้ตี๋น้อย)

“หากคิดอัตราการเติบโตเฉลี่ยของรายได้ของทั้ง 2 แบรนด์ ลัคกี้สุกี้อยู่ที่ 280.5% ต่อปี ส่วนของตี๋น้อยอยู่ที่ 89% ต่อปี นั่นแปลว่าการเติบโตของลัคกี้สุกี้สูงเทียบเคียงกับเจ้าตลาดอย่างสุกี้ตี๋น้อยได้เลย”

**การคำนวณใช้สูตร AAGR โดยของลัคกี้สุกี้ไม่นับปี 2565 ส่วนของสุกี้ตี๋น้อย ไม่นับปี 2562 ซึ่งเป็นปีฐาน เนื่องจาก ไม่มีข้อมูลตัวเลขการเติบโตเปรียบเทียบ

เส้นทางเติบโต “ความเหมือนในความต่าง”

สำหรับ ลัคกี้สุกี้ และ สุกี้ตี๋น้อย มีจุดร่วมคล้ายกันหลายประการ ตั้งแต่การนำทัพด้วยผู้บริหารหญิงคนรุ่นใหม่ คือ

  • คุณแอน รสรินทร์ ติยะวราพรรณ (ลัคกี้สุกี้) มีประสบการณ์การทำร้านกาแฟเจ้าดัง “Rolling Roasters”
  • คุณเฟิร์น นัทธมน พิศาลกิจ (สุกี้ตี๋น้อย) สั่งสมประสบการณ์การทำธุรกิจสวนอาหาร “เรือนปั้นหยา” จากครอบครัว
(ซ้าย) คุณแอน รสรินทร์ ติยะวราพรรณ ผู้บริหารลัคกี้สุกี้ และ (ขวา) คุณเฟิร์น นัทธมน พิศาลกิจ ผู้บริหารสุกี้ตี๋น้อย
(ซ้าย) คุณแอน รสรินทร์ ติยะวราพรรณ ผู้บริหารลัคกี้สุกี้ และ (ขวา) คุณเฟิร์น นัทธมน พิศาลกิจ ผู้บริหารสุกี้ตี๋น้อย

ขณะที่เส้นทางการสร้างแบรนด์ก็วาง Positioning ของลัคกี้สุกี้ และสุกี้ตี๋น้อย มีทั้งความเหมือนและความต่าง อาทิ

1.รูปแบบบุฟเฟ่ต์ ที่วางกลยุทธ์ด้านราคาคุ้มค่า

ทั้ง 2 แบรนด์ ตั้งราคาเท่ากัน เริ่มต้น 219 บาท/คน (ไม่รวมรีฟิลน้ำ และ VAT 7%) ด้วย “ราคาเข้าถึงง่าย” แต่มีเมนูหลากหลาย ทำให้ผู้บริโภคเปิดใจทดลองทานได้ง่าย จนทำให้มีลูกค้าต่อคิวยาวเหยียด และประสบความสำเร็จตั้งแต่เริ่มต้นไม่นาน

2.เวลาเปิดยาวยันดึก

เวลาเปิด-ปิด เป็นหนึ่งปัจจัยสร้างความได้เปรียบของ 2 แบรนด์นี้ จากเดิมสุกี้ในตำนานร้านดัง ๆ มักเปิดในศูนย์การค้ามีเวลาเข้าใช้บริการอย่างจำกัด ตั้งแต่ 10.00-22.00 น.

ร้านสุกี้ตี๋น้อย (ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก สุกี้ตี๋น้อย)
ร้านสุกี้ตี๋น้อย (ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก สุกี้ตี๋น้อย)

แต่สุกี้ตี๋น้อย เป็นเจ้าแรก ๆ ที่ทำร้านรูปแบบกินโต้รุ่ง เปิดเวลา 11.00-05.00 น. ด้วยข้อได้เปรียบจากการเป็นสาขา Stand Alone

ส่วน ลัคกี้สุกี้ ก็เปิดประมาณ 10.30 – 02.00 น. แม้จะเปิดสาขาตามโมเดิร์นเทรดและคอมมูนิตี้มอลล์ แต่ก็เลือกสถานที่ที่ยืดหยุ่นด้านเวลาที่สามารถเปิดยันดึกได้ จึงเป็นจุดแข็งของแบรนด์ฯ

สิ่งที่อาจบอกได้ว่า 2 แบรนด์นี้แตกต่างกัน คือ โมเดลร้านค้า ที่ “สุกี้ตี๋น้อย” เน้นพื้นที่ Stand Alone มีที่จอดรถจำนวนมาก ใกล้แหล่งชุมชนหรือสถานศึกษา ส่วน “ลัคกี้สุกี้” มองตัวเองเป็นแบรนด์น้องใหม่ การเริ่มต้นเปิดไปกับห้าง/คอมมูนิตี้มอลล์ อาจจะเหมาะกว่า เพื่อให้ผู้บริโภคเห็นแบรนด์มากขึ้น และค่อย ๆ สร้างการรับรู้แบรนด์ในวงกว้าง

อย่างไรก็ตาม ปี 2568 ลัคกี้สุกี้ วางงบประมาณ 300 ล้านบาท ขยายสาขาเพิ่มทั้งลัคกี้สุกี้และลัคกี้บาร์บีคิว จำนวน 16-20 สาขา ตั้งเป้ารายได้ 2,000 ล้านบาท เติบโต 100% (YoY)

น่าสนใจว่า การเข้ามาท้าชิงของแบรนด์หน้าใหม่อย่าง “ลัคกี้สุกี้” ครั้งนี้ คงสร้างความร้อนแรงให้กับตลาดสุกี้ในไทย ที่มีมูลค่า 23,000-25,000 ล้านบาท ด้วยกำลังซื้อที่มีจำกัด และการแข่งขันของตลาดสุกี้ที่เป็นเรดโอเชี่ยนในขณะนี้…