เชือดไก่ให้ลิงดู? ‘Calvin Klein’ และ ‘Tommy Hilfiger’ แบรนด์แฟชั่นสหรัฐฯ ถูก ‘จีน’ ขึ้น ‘บัญชีดำ’ หนักสุดอาจโดนปิดหน้าร้านและโรงงานทั้งหมด

หลังจากที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศมาตรการ ขึ้นภาษี นำเข้าสินค้าจาก จีน 10% มายังสหรัฐฯ ทั้งหมด ซึ่งจีนก็ได้ตอบโต้โดยการกำหนดภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เพิ่ม 10-15% ล่าสุด แบรนด์แฟชั่นสัญชาติสหรัฐฯ อย่าง  PVH ได้ถูกจีนขึ้น บัญชีดำ ยิ่งย้ำถึงสงครามการค้าระหว่างสองประเทศปะทุขึ้นอีกครั้ง

ย้อนไปช่วงเดือนกันยายน 2024 ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ของจีน ได้เริ่มสอบสวน บริษัท PVH ในข้อหา ปฏิเสธที่จะจัดหาฝ้ายจากภูมิภาคซินเจียง ด้วยเหตุผลดังกล่าว ทำให้ล่าสุด รัฐบาลจีน ได้เพิ่มบริษัท PVH เจ้าของแบรนด์แฟชั่นชื่อดังอย่าง Calvin Klein และ Tommy Hilfiger ไปยังรายชื่อ หน่วยงานที่ไม่น่าเชื่อถือ หรือ บัญชีดำ ของรัฐบาลจีน ซึ่งทำให้ให้รัฐบาลจีนมีอำนาจจะ ปรับ ห้ามกิจกรรมนําเข้าและส่งออก เพิกถอนใบอนุญาตทำงาน และปฏิเสธการนำพนักงานต่างชาติเข้าประเทศ

ดังนั้น จีนสามารถบังคับให้บริษัท ปิดหน้าร้าน ที่ดําเนินงานในภูมิภาคและ ห้ามขายสินค้าให้กับผู้บริโภคชาวจีนทางออนไลน์ หรือพนักงานต่างชาติที่เข้ามาทำงานในจีน ก็มีโอกาสที่จะ ถูกเนรเทศ ได้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่าจีนจะพยายามบังคับใช้การดําเนินการกับ PVH ในเขตปกครองตนเองของฮ่องกงหรือไม่ เนื่องจาก ฮ่องกงเป็นที่ตั้งของสํานักงานใหญ่ในเอเชียแปซิฟิกของบริษัท

หลังจากมีคำสั่งดังกล่าวออกมา PVH ได้ออกแถลงการณ์ว่า “บริษัทประหลาดใจและผิดหวังอย่างสุดซึ้งต่อการตัดสินใจของกระทรวงพาณิชย์ของจีน” อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัท PVH ยังคงดําเนินธุรกิจในจีนตามปกติ

ในช่วง 20 ปีของการดําเนินงานในประเทศจีนและให้บริการผู้บริโภคของเรา PVH ยังคงปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด และดําเนินงานตามมาตรฐานและแนวปฏิบัติของอุตสาหกรรมที่กําหนดไว้ เราจะให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป และหวังว่าจะได้รับการแก้ไขในเชิงบวก” บริษัทกล่าว

ตัวเลขผลประกอบการของ PVH ในปี 2023 แสดงให้เห็นว่า ยอดขายในตลาดจีนคิดเป็นสัดส่วน 6% และคิดเป็น 16% ของรายได้ แม้ว่ายอดขายและรายได้จะไม่ได้มีสัดส่วนสูงมาก แต่บริษัทต้องพึ่งพาประเทศจีนใน การผลิต มากกว่า ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 18% ซึ่งทำให้ธุรกิจทั่วโลกมีความเสี่ยงไปด้วย

Neil Saunders กรรมการผู้จัดการและนักวิเคราะห์การค้าปลีกของ GlobalData กล่าวว่า การถูกขึ้นบัญชีดำในจีน ถือเป็นปัญหาที่ก่อกวน PVH อย่างมาก เพราะบริษัทจะต้องแย่งชิงเพื่อหาแหล่งกําลังการผลิตใหม่อย่างแน่นอน และแม้จะหาได้ทัน แต่อีกปัญหาที่ตามมาก็คือ คุณภาพ เพราะแม้ว่าบริษัทจะทํางานกับซัพพลายเออร์และโรงงานในกว่า 30 ประเทศ แต่บริษัทปักหลักอยู่ในจีนมานานถึง 20 ปี และสินค้าระดับไฮเอนด์ที่ผลิตอาจผลิตได้ยากก็ผลิตที่จีน

ในขณะที่คุณสามารถเปลี่ยนกําลังการผลิตได้อย่างง่ายดายพอสมควร แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะรับประกันคุณภาพ รับประกันกระบวนการผลิต สิ่งเหล่านั้นต้องใช้เวลาในการพัฒนาทักษะ และจีนมีทักษะเหล่านั้น เพราะ PVH ดําเนินงานที่นั่นมานานหลายศตวรรษ ในขณะที่ประเทศอื่น โรงงานผลิตอื่น อาจไม่มีทักษะเหล่านั้นในตอนนี้”

ด้าน Sam Eide รองประธานของ Asia Group บริษัทที่ปรึกษาธุรกิจผู้เชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียด้านจีน มองว่า จีนต้องการทำให้บริษัท PVH เป็นตัวอย่างแบรนด์สินค้าอุปโภคบริโภคที่ต้องเจอกับการขึ้นบัญชีดำ จากที่ก่อนหน้านี้ บริษัทที่โดนจีนขึ้นบัญชีดำส่วนใหญ่เป็นบริษัทด้านอุตสาหกรรมกลาโหมของสหรัฐฯ หรือบริษัทที่มีบทบาทในด้านเทคโนโลยีความมั่นคง

ดังนั้น มีโอกาสที่จีนจะใช้ PVH เป็นตัวต่อรองเพื่อเจรจากับทรัมป์ และใช้เป็นตัวอย่างเพื่อแสดงอํานาจที่จะเกิดให้เกิดผลเสีบต่อธุรกิจอื่น ๆ ของสหรัฐฯ ที่มีการดําเนินงานหลักและฐานลูกค้าในประเทศ เช่น Nike, Apple เป็นต้น