ปีที่ผ่านมา ยังคงเป็นปีทองของ “ภูเก็ต” สะท้อนจาก ยอดนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าภูเก็ตกว่า 8.65 ล้านคน ในปี 2567 เพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY)
โดยนับตั้งแต่ปี 2549 จำนวนผู้โดยสารเข้าภูเก็ตเติบโตเฉลี่ย 7% ต่อปี
บิล บาร์เน็ตต์ กรรมการผู้จัดการ C9Hotelworks กล่าวว่า การท่องเที่ยวภูเก็ตขยายตัวสูง ขับเคลื่อนตลาดเช่าคอนโดในภูเก็ต ให้กลายเป็นโมเดล Residential-led Hospitality อย่างเต็มรูปแบบ โดยแบ่งเป็น
- การเช่าระยะสั้น (1 – 6 เดือน) สัดส่วน 46%
- การเช่าระยะยาว สัดส่วน 54%
โดยมีกลุ่มผู้ซื้อจากรัสเซีย ไทย สิงคโปร์ และฮ่องกง เป็นกำลังหลักที่ขับเคลื่อนการเติบโตตอนนี้ ส่วนโซนยอดนิยมยังเป็นบางเทา และเชิงทะเล ที่มีไลฟ์สไตล์คล้ายทองหล่อในกรุงเทพฯ
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดภูเก็ตร้อนแรงขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากการเคลื่อนย้ายที่อยู่ของชาวต่างชาติในสิงคโปร์ ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีและอากรแสตมป์ในอัตราสูงในกลุ่มบ้าน
โดยชาวต่างชาติในสิงคโปร์ได้รับผลกระทบมากสุด เพราะเมื่อซื้ออสังหาในสิงคโปร์ทุกประเภท ต้องเสียภาษีในอัตรา 60% (จากเดิม 30%)
ขณะที่ภูเก็ตมีจุดแข็งราคาย่อมเยามากกว่าสิงคโปร์ในหลายด้าน เช่น
- เงิน 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 67 ล้านบาท) ในไทยสามารถซื้อวิลล่า 5 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 779 ตร.ม. ส่วนสิงคโปร์จะซื้อได้เพียงคอนโด 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 58 ตร.ม. เท่านั้น
- รร.นานาชาติ ในภูเก็ตมีค่าเทอมเพียง 20,500 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 6.9 แสนบาท) ต่างจาก รร. นานาชาติ ที่สิงคโปร์ มีค่าเทอมสูงถึง 35,500 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.19 ล้านบาท)
“เราคาดว่าแนวโน้มการย้ายถิ่นฐานทั้งในระดับโลกและภูมิภาคจะยังเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของตลาดอสังหาฯ เพื่อการลงทุน โดยในภาวะที่ตลาดมีความผันผวน การโยกย้ายการลงทุนมายังประเทศไทยในฐานะ ‘เซฟโซน’ กลายเป็นทางเลือกระยะยาวที่น่าสนใจ ผู้คนเริ่มมองหาผลตอบแทนที่มั่นคงและสม่ำเสมอจากการปล่อยเช่าระยะยาว” บาร์เน็ตต์ กล่าวเสริม

กระแสความสนใจในอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยเชิงไลฟ์สไตล์ที่เพิ่มขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการอสังหา Lan Kwai Fong (LKF) Group (กลุ่มลานไควฟง) จากฮ่องกง เตรียมเปิดตัวแบรนด์ใหม่ “สุดารา (Sudara)” ในย่านบางเทา เพื่อตอบรับความต้องการที่พุ่งสูง
เจสัน ธีเลน ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการขายและการตลาด สุดารา เรสซิเดนซ์ กล่าวว่า สุดารา โครงการที่อยู่อาศัยมูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท รูปแบบคอนโดจำนวน 500 ยูนิต กำหนดแล้วเสร็จทั้งโครงการ ปี 2570

เบื้องต้น เฟสแรก เปิดตัว 220 ยูนิต มูลค่า 4,500 ล้านบาท ขนาดตั้งแต่ 52 – 144 ตารางเมตร พร้อมตัวเลือกยูนิตที่มีสระว่ายน้ำส่วนตัว ราคาเริ่มต้น 10.1-27 ล้านบาท/ยูนิต
ภูเก็ตกำลังได้รับความสนใจอย่างมากจากนักลงทุนชาวสิงคโปร์ โดยโครงการ Sudara Residences Phuket มียอดขายกว่า 40% จากสิงคโปร์ สะท้อนเทรนด์ที่ขับเคลื่อนปัจจัยด้านความคุ้มค่าในการลงทุน และความสะดวกในการเดินทาง
“ราคาค่าเช่าคอนโดในภูเก็ต เพิ่มขึ้นสูง 20-30% หนุนกลุ่มซื้อลงทุนเข้ามาในไทยด้วย”






