หลังจากที่ ศาลสหรัฐฯ มีคำตัดสินให้ Google มีความผิดในคดี ผูกขาดธุรกิจโฆษณาออนไลน์ (Ad Tech) หลังจากก่อนหน้านี้เคยแพ้คดีการ ผูกขาดตลาด Search Engine ไปแล้วครั้งหนึ่ง ส่งผลให้รัฐบาลกลางจะพิจารณาบังคับให้ Google ขายเบราว์เซอร์ Chrome บางส่วน และเปิดเผยข้อมูลบางส่วนให้กับคู่แข่ง
แน่นอนว่า Google ยังไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ โดยมีแผนจะ ยื่นอุทธรณ์คำตัดสินเรื่องการผูกขาด อย่างไรก็ตาม หากหน่วยงานต่อต้านการผูกขาดสามารถบังคับให้ Alphabet ขายเบราว์เซอร์ Chrome นี้ ก็มีคนจ้องจะซื้อแล้วก็คือ OpenAI เจ้าของ ChatGPT เพราะการเข้าถึงข้อมูลแบบเรียลไทม์ของ Google จะช่วยให้ OpenAI สร้างผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้น และเร็วขึ้น
โดยทางกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ที่ต้องการให้ Google ขาย Chrome ก็เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการฟื้นฟูการแข่งขันในตลาด Search engine เนื่องจากอัยการแสดงความกังวล ว่า การผูกขาดของ Google ในการตลาด Search engine อาจทำให้บริษัทได้เปรียบในการแข่งขันด้าน AI เพราะ Google อาจใช้ AI เป็นอีกช่องทางในการนำผู้ใช้กลับไปที่เครื่องมือค้นหาของตัวเอง
นอกจากนี้ ในส่วนข้อเสนอที่ต้องการให้ Google แบ่งปันข้อมูลการค้นหากับคู่แข่ง ก็จะช่วยเร่งการพัฒนา ChatGPT ให้ดีขึ้นได้ โดย Nick Turley หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ ChatGPT ได้ระบุว่า การค้นหาเป็นองค์ประกอบสำคัญของ ChatGPT ในการตอบคำถามของผู้ใช้ให้เป็นปัจจุบัน และแม่นยำ ทั้งนี้ ChatGPT ยังห่างไกลจากเป้าหมายที่จะสามารถใช้เทคโนโลยีการค้นหาของตนเองตอบคำถามได้ถึง 80%
โดย Nick Turley ได้ให้การในศาลว่า Google ได้ ปฏิเสธข้อเสนอของ OpenAI ที่ต้องการใช้เทคโนโลยีค้นหาของ Google ใน ChatGPT โดย Google ให้เหตุผลว่า การให้สิทธิ์นั้นจะเกี่ยวข้องกับคู่แข่งจำนวนมากเกินไป
“เรามองว่าการมีพันธมิตรหลายราย โดยเฉพาะการใช้ API ของ Google จะช่วยให้เราสามารถมอบผลิตภัณฑ์ที่ดีกว่าให้แก่ผู้ใช้ได้” Nick Turley กล่าว
ย้อนไปเมื่อเดือนสิงหาคม 2024 ผู้พิพากษาเขต Amit Mehta ตัดสินว่า Google ปกป้องสถานะการผูกขาดของตนผ่านการทำข้อตกลงแบบผูกขาดกับบริษัทต่าง ๆ เช่น Samsung Electronics และผู้ผลิตสมาร์ทโฟน Android อื่น ๆ เพื่อให้ติดตั้งเครื่องมือค้นหาของ Google เป็นค่าเริ่มต้นในอุปกรณ์ใหม่ รวมถึงแอป Gemini AI และเบราว์เซอร์ Chrome ด้วย
อย่างไรก็ตาม แทนที่จะทำข้อตกลงแบบผูกขาดเพิ่มเติม Google ได้ผ่อนปรนข้อตกลงล่าสุดกับ Samsung, Motorola รวมถึงผู้ให้บริการเครือข่าย AT&T และ Verizon โดยอนุญาตให้ติดตั้งเครื่องมือค้นหาคู่แข่งในอุปกรณ์ได้ นอกจากนี้ Google ยังส่งจดหมายยืนยันว่า ข้อตกลงของบริษัทไม่ได้ห้ามบริษัทเหล่านั้นติดตั้งผลิตภัณฑ์ AI อื่น ๆ บนอุปกรณ์ใหม่