ทำงานให้ฉลาดตามสไตล์ ‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’ เพราะความสำเร็จไม่ได้มาจาก ‘ปริมาณ’ แต่มาจาก ‘คุณภาพ’ ของสิ่งที่ทำ

‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’ เป็นหนึ่งในนักลงทุนที่ชื่อเสียงของโลกและผู้ก่อตั้ง Berkshire Hathaway ที่ติดอันดับมหาเศรษฐีโลก ด้วยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1.54 แสนล้านเหรียญสหรัฐ จากการจัดอันดับในปี 2025 ของ Forbs ซึ่งเขาขึ้นชื่อในการเป็นคนที่ Productive มากคนหนึ่ง

 

โดยบัฟเฟต์แนะนำว่า ‘ความสำเร็จจะเกิดขึ้นหรือไม่ ขึ้นอยู่กับคุณภาพของสิ่งที่ทำ ไม่ใช่ปริมาณงาน ดังนั้น คุณจงมุ่งมั่นในสิ่งที่ทำ ให้ผลงานออกมาดีและมีประสิทธิภาพ มากกว่าจะเน้นทำงานให้หนักขึ้น’

 

คำแนะนำดังกล่าวของเขา มีผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดเข้ามาสนับสนุน พบว่า การทำงานหนัก ไม่ได้การันตีว่า งานที่ทำออกมาจะดีเสมอไป โดยเมื่อพนักงานทำงานมากกว่า 50 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ จะมีประสิทธิภาพในการทำงานลดลง และพนักงานที่ทำงานเกิน 70 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ก็ไม่ได้มีประสิทธิภาพการทำงานดีหรือมากกว่าคนที่ทำงาน 50 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เลย

 

แล้วบัฟเฟตต์มีวิธีทำงานอย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร ?

 

ให้ความสำคัญกับเวลา

 

“ผมสามารถซื้อทุกอย่างบนโลกใบนี้ได้ ยกเว้นเวลา” เป็นคำพูดของบัฟเฟต์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า เขาให้ความสำคัญกับเวลาเป็นอย่างมาก ซึ่งแต่ละวันเขาจะมีการบริหารจัดการเวลาและรักษาตารางเวลาที่ดีมาก โดยหลีกเลี่ยงการประชุมหรือนัดหมายที่ไม่จำเป็น

 

เริ่มจาก ‘การลำดับความสำคัญ’ ไม่ว่าแต่ละวันจะมีงานเข้ามาวุ่นวายแค่ไหน แต่ความเร่งด่วนจะไม่เหมือนกัน เขาจึงวางแผนการทำงาน และมีตารางเวลางานชัดเจน งานไหนเร่งด่วน งานไหนรอได้ และงานไหนต้องประสานหลายฝ่าย เพื่อให้เห็นภาพรวม เพราะเมื่อเห็นภาพรวมแล้ว จะช่วยให้ใช้ความสามารถทั้งหมดได้อย่างเต็มที่ หรือทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง

 

เรียนรู้และพัฒนาตัวเองตลอดเวลา

 

แต่ละวันบัฟเฟต์ จะใช้เวลาส่วนใหญ่กว่า 80% ไปกับการอ่าน รวมๆ แล้ว 500 หน้าต่อวัน เพื่อเป็นช่วงเวลาของการแสวงหาความรู้และชอบพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะยุคปัจจบันที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

 

แยกเวลางานและเวลาพักผ่อน

 

บัฟเฟต์ จะแบ่งเวลาทำงานและเวลานอนอย่างชัดเจน โดยเขาให้ความสำคัญกับการนอนมาก ๆ และต้องนอนให้ครบ 8 ชั่วโมงต่อวัน เพราะการนอนจะช่วยให้ร่างกายได้พักและทำให้การตัดสินใจเฉียบคมมากขึ้น ซึ่งเขาจะเข้านอนประมาณ 22.00 น. หรือ 23.00 น. และตื่นนอนราว 6.45 น.

 

เลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง

 

คนที่ Productive จะรู้ดีว่า ตัวเองชอบหรือไม่ชอบอะไร และจะเลือกทำในสิ่งที่รักและดีที่สุดให้กับตัวเอง เช่นเดียว กับบัฟเฟต์ และเขายังสอนลูกด้วยว่า ให้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก อย่าใช้เวลาไปกับสิ่งอื่นที่ไม่ได้รัก และพยายามหาสิ่งที่รักให้เจอ เพราะเมื่อได้ทำสิ่งที่ตัวเองชอบ จะทำให้เราสามารถทำงานได้ออกมาดี