MR. D.I.Y. ทำตลาดไทย 9 ปี มี 1,000 สาขา ขยายเร็วกว่าประเทศแม่ที่มาเลเซียใช้เวลา 18 ปี 

ตลาดสินค้าเบ็ดเตล็ดในไทยกำลังหอมหวาน มีทั้งแบรนด์ไทย และแบรนด์ต่างชาติทำตลาดกันคึกคัก ขยายสาขา พร้อมทำสินค้าให้ครอบคลุมความต้องการ แถมยังมีราคาย่อมเยา ทำให้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับสายพ่อบ้านแม่บ้านอย่างมาก

เส้นทาง 9 ปี พันสาขา

ในอดีตคนไทยจะคุ้นเคยกับร้านสินค้าเบ็ดเตล็ดจากร้านทุกอย่าง 20 บาท ไปจนถึงการเข้ามาทำตลาดของร้านจากญี่ปุ่นอย่างไดโซะ จนปัจจุบันมีทั้งแบรนด์ไทยอย่างโมชิ โมชิ และมีแบรนด์จีนอย่างมินิโซเข้ามาร่วมวงด้วย 

MR. D.I.Y. (มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย.) หนึ่งในผู้เล่นรายใหญ่ที่มีบทบาทอย่างมากในยุคปัจจุบัน ภายใต้การบริหาร บริษัท มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ด้วยการขยายสาขาที่รวดเร็ว ร้านใหญ่ สินค้าเยอะ ราคาถูก ทำให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่าย

MR. D.I.Y.

MR. D.I.Y. เป็นร้านสินค้าเบ็ดเตล็ดจากประเทศมาเลเซีย ได้เข้ามาทำตลาดในไทยครั้งแรกเมื่อปี 2559 เปิดสาขาแรกที่ซีคอนบางแค ชูจุดเด่นที่สินค้าเยอะ ราคาเริ่มต้นที่ 5 บาท ในช่วงแรกเน้นขยายสาขาตามศูนย์การค้า ไฮเปอร์มาร์เก็ต ไปหมดทั้งเซ็นทรัล เดอะมอลล์ ซีคอน บิ๊กซี โลตัส แล้วค่อยๆ เข้าตามชุมชน ตลาด อาคารสำนักงานต่างๆ 

โมเดลในการขยายสาขาจะเป็นการลงทุนเองโดยบริษัทแม่ ไม่มีการขายแฟรนไชส์ สปีดในการขยายสาขาตอนแรกไม่ได้รวดเร็วเท่าไหร่นัก แต่หลังจากช่วง COVID-19 เริ่มขยายเร็วขึ้น เปิดครบ 500 สาขาแรกเมื่อปี 2565 และ 700 สาขาเมื่อปี 2566 

และในปี 2568 ได้เปิดครบ 1,000 สาขา ปัจจุบันมี 3 ประเทศที่มีครบ 1,000 สาขาแล้ว ได้แก่ มาเลเซีย, อินโดนีเซีย และไทย โดยที่ไทยใช้เวลา 9 ปี ในการขยาย 1,000 สาขา เร็วกว่าประเทศแม่อย่างมาเลเซียที่ใช้เวลา 18 ปี 

มาเลเซียเริ่มเปิดสาขาแรกเมื่อปี 2548 เปิดครบ 500 สาขาเมื่อปี 2562 และเปิดครบ 1,000 สาขาเมื่อปี 2566 ปัจจุบันมี 1,400 สาขา 

MR. D.I.Y.

อานุภาพ คงมาลัย รองประธานบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เล่าว่า 

“ไทยเป็นประเทศแรกที่ขยายออกนอกมาเลเซีย จึงให้ความสำคัญ มีการลงทุนต่อเนื่อง มองศักยภาพเรื่องประชากรจำนวนประชากรที่มากกว่ามาเลเซียถึงสองเท่า ประชากรต่อสโตร์ก็ยังไปได้อีก รวมถึงเรื่องไลฟ์สไตล์”

ปัจจุบัน MR. D.I.Y. ทำตลาด 13 ประเทศทั่วโลก ได้แก่ มาเลเซีย ไทย บรูไน อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ สเปน ตุรกี กัมพูชา อินเดีย เวียดนาม บังกลาเทศ โปแลนด์ และกำลังเตรียมขยายไปที่ แอฟริกากลาง 

เปิดอีก 500 สาขา ใน 3 ปี เน้นสแตนด์อะโลน เข้าถึงชุมชน

MR. D.I.Y. ในประเทศไทยมีทั้งหมด 3 โมเดล แบ่งเป็น

  • MR. D.I.Y. Express พื้นที่ 700 ตารางเมตร ส่วนใหญ่อยู่ตามอาคารสำนักงาน ชุมชมต่างๆ เน้นขายสินค้าขายดี ปัจจุบันมี 30 สาขา
  • Mall พื้นที่ 700-800 ตารางเมตร อยู่ตามศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์
  • Flagship Store พื้นที่ 1,000 ตารางเมตร 

โดยในทั้งหมด 1,000 สาขา เป็นสาขาสแตนด์อะโลน 70% จะอยู่ในทำเลนอกศูนย์การค้า ในชุมชม ตึกแถวต่างๆ 

มีสินค้ารวมทั้งหมดกว่า 15,000 รายการ สินค้าโลคอล 30% และสินค้านำเข้า 70% มีแบรนด์ไทยจำหน่าย 350 แบรนด์ สินค้าแบ่งเป็น 6 กลุ่มหลัก ได้แก่ สินค้าใช้ในบ้าน 35.4% อุปกรณ์ช่าง 16.9% เครื่องใช้ไฟฟ้า 9% เครื่องเขียนและอุปกรณ์กีฬา 8.7% ของเล่น 6.6% และอื่นๆ 23.4%

ในปี 2567 ที่ผ่านมา MR. D.I.Y. มีรายได้ 16,200 ล้านบาท มีลูกค้าใช้บริการ 98.5 ล้านคน ยอดใช้จ่ายต่อบิลเฉลี่ย 175 บาท มีการซื้อเฉลี่ย 4 ชิ้น/บิล

ในปี 2568 มีแผนในการขยายสาขา 200 แห่ง ด้วยงบลงทุน 2,000 ล้านบาท มากกว่าปีที่แล้วที่มีการเปิด 193 สาขา โดยแผนระยะสั้นตั้งเป้าขยายสาขาอีก 500 แห่ง ภายใน 3 ปี หรือใช้งบลงทุนเฉลี่ยปีละ 2,000 ล้านบาท ยอดการขยายสาขาเติบโตเฉลี่ย 27.7%