ไม่ว่าจะ “พี่เฟิร์นป่วย งดไลฟ์”, “พี่เฟิร์น OK ลูกค้าพกน้ำจิ้มมาเอง” หรือ “ตี๋น้อยชวนพี่เฟิร์นไปสาขาอุดร” ทุกคอนเทนต์พี่เฟิร์นคือปรากฏการณ์ Personal Branding บนสื่อโซเชียลที่มีแรงส่งช่วยผลักดันแบรนด์สุกี้ขวัญใจมหาชนอย่าง “สุกี้ตี๋น้อย” ให้สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ใกล้ชิดสนิทสนมอย่างแตกต่าง จนล่าสุด ยอดผู้ติดตามเพจสุกี้ตี๋น้อยบนเฟซบุ๊กเพิ่มขึ้นทะลุ 1.1 ล้านฟอลโลเวอร์ไปแล้วเมื่อ 16 ก.ค. 68 หลังจากที่มีโพสต์ระบุว่า “ตี๋น้อยโดนพี่เฟิร์นดุ” โทษฐานยอด FC ติดตามไม่ถึง 1 ล้านคนทั้งที่เปิดร้านมาแล้ว 8 ปี
ถามว่าทำไมจึงต้องมี “พี่เฟิร์น” เหตุผลที่สุกี้ตี๋น้อยหยิบชื่อเล่นของ “นัทธมน พิศาลกิจวนิช” ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ BNN Restaurant Group Co., Ltd. บริษัทแม่ของร้านสุกี้ตี๋น้อย มาเล่นเพื่อสื่อสารกับเฟนคลับหลักล้านคน เป็นเพราะการสร้างแบรนด์ส่วนบุคคล หรือ Personal Branding มีพลังตอบโจทย์การตลาดในยุคดิจิทัล เนื่องจากผู้คนในยุคนี้ต้องการความใกล้ชิดจากแบรนด์มากขึ้น และการใช้ชื่อเล่นของบุคคลจริง นั้นมีมนต์ขลังเรื่องสื่อสารได้ดีกว่าการใช้โลโก้ธรรมดา ที่อาจดูเย็นชาไร้ชีวิตจิตใจ
Personal Branding ยังสร้างความน่าเชื่อถือให้แบรนด์ผ่านบุคลิกภาพของบุคคลนั้น สำหรับลุคของพี่เฟิร์นที่เป็น “นักธุรกิจรุ่นใหม่มากฝีมือ” นั้นทำให้แบรนด์สุกี้ตี๋น้อยดูมีชีวิตชีวาและน่าเชื่อถือมากขึ้น ซึ่งในอนาคตพี่เฟิร์นอาจจะช่วยให้สุกี้ตี๋น้อยลดต้นทุนการโฆษณาได้ด้วย เพราะแทนที่จะจ้างดาราโฆษณา พี่เฟิร์นสามารถเป็นพรีเซ็นเตอร์ของแบรนด์ตัวเอง ไม่ต่างกับผู้พันแซนเดอร์ หรือ Colonel Sanders ของ KFC ผู้ก่อตั้งที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ไก่ทอดชื่อดัง รวมถึง Steve Jobs ผู้ก่อตั้ง Apple ที่กลายเป็นหน้าตาของแบรนด์แม้ในเวลาที่เสียชีวิตไปแล้ว และยังมี Elon Musk ของ Tesla ผู้ใช้ Personal Brand ขับเคลื่อนแบรนด์องค์กร
ภาพจาก Shutterstock
แต่ที่แตกต่างคือพี่เฟิร์นถูกชูขึ้นมาในสไตล์ที่เป็นกันเองและใกล้ชิดกับลูกค้า ทำให้พี่เฟิร์นของตี๋น้อยเป็นอีกกรณีศึกษาเรื่อง Personal Branding ที่ทำได้ดีจนสามารถสร้างความแตกต่าง และความผูกพันที่แข็งแกร่งได้
ถอดรหัสพลังพี่เฟิร์น
ท่ามกลางสมรภูมิธุรกิจร้านอาหารประเภทชาบู-สุกี้ที่มีการแข่งขันร้อนระอุในประเทศไทย แบรนด์สุกี้ตี๋น้อยประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วและกลายเป็น Top of Mind ในตลาดหม้อไฟราคาประหยัด เบื้องหลังความสำเร็จนี้คือ “เฟิร์น-นัทธมน พิศาลกิจวนิช” ผู้บริหารหญิงรุ่นใหม่ที่มองธุรกิจอาหารอย่างจริงจังในระดับอุตสาหกรรม ไม่ใช่แค่ ร้านบุฟเฟต์ที่ทำราคาให้ใครก็เข้าถึงได้