ภาคอสังหาริมทรัพย์ ยังคงชะลอตัว สะท้อนจากข้อมูลจาก ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) พบว่า ยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศ ไตรมาส 2 ปี 2568
- จำนวน 77,343 หน่วย ลดลง 10.9% (YoY)
- มูลค่า 210,056 ล้านบาท ลดลง 13.6% (YoY)
หากพิจารณาตามประเภท พบว่า
- บ้าน มียอดโอนฯ 5.3 หมื่นหน่วย ลดลง 7.7% มูลค่า 1.56 แสนล้านบาท ลดลง 9.3% (YoY)
- คอนโดมิเนียม มียอดโอนฯ 2.3 หมื่นหน่วย ลดลง 17.5% มูลค่า 5.3 หมื่นล้านบาท ลดลง 24.1% (YoY)
ดังนั้น ในช่วงครึ่งปีแรก 2568 จึงมียอดโอนฯ รวม 142,619 หน่วย ลดลง 10.7% มูลค่า 391,601 ล้านบาท ลดลง 13.3% (YoY)
สำหรับ ตลาดที่อยู่อาศัยไทยในกลุ่มชาวต่างชาติ พบว่า มียอดโอนฯ คอนโด จำนวน 3,248 หน่วย ลดลง 2.2% คิดเป็นมูลค่า 12,318 ล้านบาท ลดลง 16.9% (YoY)
โดยชาวต่างชาติที่มีมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั่วประเทศสูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่
- จีน
- เมียนมา
- รัสเซีย
- ไต้หวัน
- ฝรั่งเศส
- สหรัฐอเมริกา
- สหราชอาณาจักร
- เยอรมัน
- อินเดีย
- ญี่ปุ่น
“จีน” มีแนวโน้มการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดลดลงต่อเนื่อง โดยในไตรมาสนี้ มีจำนวน 899 หน่วย ลดลง -28.8% และมีมูลค่า 3,391 ล้านบาท ลดลง -39.4% และคาดว่ากำลังซื้อชาวจีนมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังปี 2568
ขณะที่ “เมียนมา” มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดจำนวน 533 หน่วย เพิ่มขึ้น 119.3% มีมูลค่า 1,347 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.9% และคาดว่ากำลังซื้อมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ทำให้ที่อยู่อาศัยในพม่าได้รับความเสียหาย
อย่างไรก็ดี ตลาดที่อยู่อาศัยไทย มีปัจจัยเสี่ยงน่าจับตาหลายด้าน ดังนี้
- เศรษฐกิจไทยช่วงครึ่งปีหลัง 2568 น่าจะชะลอตัวกว่าครึ่งปีแรก จากภาษีสหรัฐฯ ทำกำลังซื้ออ่อนลง
- ผู้ประกอบการอสังหาเปิดโครงการน้อยลง ส่วนผู้บริโภคความสามารถในการกู้สินเชื่อลดลงเช่นกัน
- ผู้ประกอบการรายกลาง-เล็กเสี่ยงสภาพคล่อง
- นักท่องเที่ยวลดลง
- ปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา
ฉะนั้น REIC ประเมินแนวโน้มทั้งปี 2568 คาดว่า จะมียอดโอนกรรมสิทธิ์รวม 343,678 หน่วย ลดลง 1.2% และมูลค่า 964,027 ล้านบาท ลดลง 1.7% (YoY)
ส่วนสินเชื่อที่อยู่อาศัยปล่อยใหม่ ทั่วประเทศ ในปี 2568 คาดจะมีมูลค่าประมาณ 582,800 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปี 2567 ซึ่งมีมูลค่า 584,843 ล้านบาท



