วสุพล ตั้งสมบัติวิสิทธิ์ ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาดและฝ่ายขายในประเทศ บริษัท หยั่น หว่อ หยุ่น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด เจ้าของแบรนด์ “เด็กสมบูรณ์” กล่าวว่า ตลาดซีอิ๊วในไทยกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านสำคัญ ไม่ใช่แค่เรื่องรสชาติ แต่คือ “พฤติกรรมการเลือกซื้อ” ที่กำลังแบ่งชัดเจนขึ้นเป็นสองขั้ว
ซีอิ๊วพรีเมียมโตตามเทรนด์สุขภาพ สวนทางกลุ่มระดับกลางกำลังซื้อชะลอตัว
ฝั่งหนึ่งคือ “เทียร์ 1” กลุ่มพรีเมียม ที่ยอมจ่ายเพื่อคุณภาพและสุขภาพ เช่น ไม่มีน้ำตาล คีโต เป็นรูปแบบพรีเมียมฟังก์ชันนัลที่ดีต่อร่างกาย แม้มีสัดส่วนเพียง 10-15% ของตลาดรวม แต่มีโอกาสเติบโตสูง
อีกฝั่งคือ “เทียร์ 3” ราคาประหยัด ที่ตอบโจทย์เศรษฐกิจชะลอตัว ส่วนหนึ่งเป็นอานิสงส์จากผู้บริโภคระดับกลางใช้จ่ายน้อยลง และเปลี่ยนมาใช้สินค้าราคาย่อมเยาแทน
“ตอนนี้กลุ่มเทียร์ 2 ระดับกลาง ตลาดค่อนข้างชะลอตัวลงมาก ผู้บริโภคถ้าไม่อัปเกรดขึ้นไปใช้พรีเมียมรับกระแสรักสุขภาพ ก็หันลงไปใช้กลุ่มราคาประหยัดไปเลย”
รุกฟังชันนอลพรีเมียม-ซีอิ๊วสุขภาพ
จากกระแสรักสุขภาพ และผู้บริโภคกำลังซื้อสูงหันใช้ของพรีเมียมที่ตอบโจทย์สุขภาพ ทำให้เด็กสมบูรณ์พยายาม ทำสินค้าที่มีความฟังก์ชันนอลมากขึ้น เช่น ซีอิ๊วเม็ด สามารถนำไปผัดได้ทันที เป็นต้น ซึ่งสามารถเพิ่มยอดขายให้บริษัทฯ ได้ราว 2%
ขณะเดียวกัน เด็กสมบูรณ์ มีแผนทำซอสเพื่อสุขภาพ แต่ยังคงอร่อย ไม่ใช่รสจืด ๆ แบบภาพจำของอาหารสุขภาพ รวมถึงการเข้าไปคอแลบส์กับแบรนด์อื่น ๆ สร้างการรับรู้ว่าซีอิ๊ว สามารถนำไปทำได้หลายเมนู ไม่จำกัดแค่อาหารคาว
ความท้าทายปี 68 ผู้เล่นหน้าใหม่จากจีนบุกตลาด
นอกจากนี้ หนึ่งในความท้าทายใหญ่ของปี 2568 คือ “คู่แข่งจากจีน” ที่เริ่มเข้ามาทำตลาดในไทยมากขึ้น แต่ ‘เด็กสมบูรณ์’ มีจุดแข็งคือการเข้าใจพฤติกรรมการบริโภค และความต้องการของคนไทย
ฉะนั้น ช่วงที่ผ่านมา เด็กสมบูรณ์จึงพยายามสื่อสารกับผู้บริโภคโดยตรง ผ่านการขายสินค้าออนไลน์ แรกเริ่มขายขวดละ 50 บาท แต่เจอค่าส่งสูงถึง 120 บาท ทำยอดขาย 5-6 หมื่นบาท/เดือน ขณะที่ต้องแบกต้นทุนค่า GP ในแอปฯ ทำให้ต้องดีลกับแพลตฟอร์ม เพื่อให้สามารถบริหารต้นทุนได้
ปี 2569 แนะอย่าประมาท-เข้มกระแสเงินสด
แม้ธุรกิจจะยังมีหวัง แต่ยังคงต้องระมัดระวังในการทำธุรกิจ โดยเรื่องที่สำคัญมากสุด คือ กระแสเงินสด
“กระแสเงินสด เปรียบเสมือนเลือดของธุรกิจ ถ้านิ้วขาดยังอยู่ได้ แต่ถ้าเลือดไหลหมดตัว ทุกอย่างก็จบ”
นั่นคือเหตุผลที่ “เด็กสมบูรณ์” เลือกปรับกลยุทธ์ให้เดินหน้าอย่างระมัดระวัง ควบคุมต้นทุน เข้าถึงลูกค้าโดยตรง และมองหาช่องทางใหม่ ๆ ให้แบรนด์แข็งแรงกว่าที่เคย

