บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) เดินหน้าสานต่อการสรรหาบริการพิเศษให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดตัว เอไอเอส การ์ด ความพิเศษที่ตรงใจ โดยมอบสิทธิพิเศษมากมายให้ลูกค้าเลือกบริการและผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับความต้องการเฉพาะของลูกค้าแต่ละคนอย่างแท้จริง
นายกฤษณัน งามผาติพงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานการตลาด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เอไอเอส การ์ด เกิดขึ้นจากการวางกลยุทธ์ทางการตลาดแบบ customization คือการมอบเฉพาะสิ่งที่ลูกค้าต้องการตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน เพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันของลูกค้าแต่ละราย ซึ่งเป็นแนวทางการเข้าถึงลูกค้าแบบที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน
“เอไอเอส การ์ด เป็นความพยายามของเอไอเอสในการตอบสนองความต้องการและเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้าเอไอเอสมากกว่า 15 ล้านรายที่ใช้ระบบจีเอสเอ็ม แอดวานซ์ จีเอสเอ็ม 1800 และวัน-ทู-คอล! การเปิดตัวในวันนี้สอดรับกับแผนงานในปีหน้าของเราที่จะเปิดเกมการตลาดเชิงรุกแบบที่เรียกว่า customization และ customer-on-demand ระดับ Mass ซึ่งจะเป็นการบุกตลาดด้วยกลยุทธ์ที่ท้าทายแบบนี้เป็นรายแรกของประเทศ”
เอไอเอส การ์ด เป็นบัตรสิทธิประโยชน์สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการของเอไอเอส ครบ 6 เดือนขึ้นไป สำหรับลูกค้าระบบจีเอสเอ็ม แอดวานซ์ และจีเอสเอ็ม 1800 เอไอเอสจะจัดส่งบัตรให้ทางไปรษณีย์โดยไม่ต้องสมัคร สำหรับลูกค้าที่ใช้ระบบวัน-ทู-คอล! สามารถสมัครขอรับบัตรโดยกรอกใบสมัครได้ที่สำนักงานบริการเอไอเอสทุกสาขาทั่วประเทศ โดยผู้ถือบัตรนี้จะได้รับสิทธิประโยชน์หลายระดับที่สามารถตอบสนองความต้องการในชีวิตประจำวัน โดยเอไอเอส ร่วมมือกับพันธมิตรในแวดวงธุรกิจต่างๆ มากกว่า 400 ร้านค้าเพื่อมอบบริการที่หลากหลายให้ลูกค้าได้เลือกสรรด้วยตัวเองเพื่อให้ลูกค้าได้รับประโยชน์สูงสุดอย่างแท้จริง
ลูกค้าสามารถเลือกว่าร้านค้าใดที่ลูกค้าต้องการได้รับสิทธิประโยชน์ ผ่าน 4 ช่องทางได้แก่ เอสเอ็มเอส แว็พ โมบายไลฟ์ เว็บไซต์ของเอไอเอส และสำนักงานบริการเอไอเอส ทุกสาขา ทั่วประเทศ โดยทางเอไอเอสจะจัดส่งสิทธิประโยชน์และข่าวสารให้ลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ
การที่ลูกค้าเป็นผู้เลือกเองว่าต้องการสิทธิพิเศษใด จะทำให้ลูกค้าได้รับเฉพาะในสิ่งที่ต้องการเท่านั้น เพราะเอไอเอสได้ศึกษาแล้วว่า การที่ลูกค้าเป็นผู้เลือกสิ่งที่ต้องการด้วยตัวเองจะทำให้ลูกค้าทำให้เกิดความพึงพอใจสูงสุดและใช้บริการของบริษัทฯ ตลอดไป
สิทธิประโยชน์จากร้านค้าและพันธมิตรที่เข้าร่วมรายการนั้นมีมากมาย ซึ่งครอบคลุมทุกด้านของชีวิตสมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการใช้บริการร้านอาหาร ท่องเที่ยวเดินทาง ซื้อของ ดูแลสุขภาพ คอร์สเสริมความรู้ และความบันเทิงหลากรูปแบบ และเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของผู้บริโภค
ตัวอย่างสิทธิประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับจากรายชื่อพันธมิตรที่เข้าร่วมโครงการเอไอเอส การ์ด ในระยะแรก ได้แก่ ส่วนลดค่าอาหาร 5% จากภัตตาคารบุฟเฟต์อาหารญี่ปุ่นโออิชิ และโออิชิ เอ็กซ์เพรส และส่วนลด 10% จากโออิชิ ซูชิ บาร์ ส่วนลดค่าอาหาร 10% และบัตรกำนัล 400 บาท เมื่อรับประทานอาหาร 1,000 บาทขึ้นไป จากล็อกโฮม ส่วนลด 5% สำหรับคอร์สเรียนภาษาอังกฤษกับ อีเอฟ อิงลิช เฟิส ส่วนลด 10% ที่เมเจอร์ โบวล์และคาราโอเกะ ส่วนลด 10% สำหรับบริการภายในร้าน ชลาชล ฮิพ ซาลอน ส่วนลด 10% สำหรับค่าห้องและ 5% สำหรับค่ายา เมื่อเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพระราม 9 รวมทั้งส่วนลดจากพันธมิตรอื่นๆ เช่น โรงแรมในเครือดุสิตธานี ร้านสีฟ้า จิออร์ดาโน และร้านแมงป่อง
นอกเหนือจากส่วนลดร้านค้าและสินค้าแบรนด์ดังที่ลูกค้าสนใจแล้ว เอไอเอส ยังสรรหาสิทธิประโยชน์ที่อยู่ในความสนใจของผู้บริโภคในขณะนั้นหรืออยู่ในแต่ละช่วงเทศกาลเพื่อมอบกำนัลแด่ลูกค้าของเอไอเอส ซึ่งขณะนี้ เอไอเอส การ์ด ร่วมกับ อะเมซซิ่ง ฟัน พาร์ค มอบสิทธิประโยชน์แก่ลูกค้าเอไอเอส โดยเข้าชมและเล่นเครื่องเล่น Roller Coster ฟรี เพียงแสดงเอไอเอส การ์ด ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 9 มกราคม 2548
ยิ่งกว่านั้นลูกค้ายังสามารถรับสิทธิพิเศษและส่วนลด 5 – 45% จากร้านค้าในสยามดิสคัพเวอรี่ เซ็นเตอร์ สยามเซ็นเตอร์ และสยามสแควร์ ที่มีสัญลักษณ์เอไอเอสการ์ด ตั้งแต่วันนี้ถึง 15 มีนาคม 2548
“เอไอเอส การ์ดมอบสิทธิพิเศษที่ครอบคลุมการใช้ชีวิตแบบคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์นำสมัยอย่างแท้จริง เพียงคุณมีเอไอเอส การ์ด คุณก็ใช้ชีวิตได้อย่างมีสีสันในทุกวัน” นายกฤษณันกล่าวสรุป
เอไอเอส เริ่มต้นด้วยการเปิดตัวที่สยามเซ็นเตอร์ซึ่งเป็นบริเวณที่พันธมิตรของบริษัทฯ ในระยะแรกดำเนินธุรกิจอยู่ ในอนาคตจะมีขยายเครือข่ายการให้สิทธิประโยชน์นี้ไปทั่วประเทศเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า ในส่วนของสมาชิกเครือข่ายเอไอเอสระยะแรก สิทธิประโยชน์ทั้งหมดจะมอบให้กับสมาชิกที่เป็นบุคคลธรรมดา หลังจากนี้จะมีการขยายขอบเขตการมอบสิทธิประโยชน์ให้กับนิติบุคคลต่อไป