ไอบีเอ็มรายงานผลประกอบการไตรมาส 4 และผลประกอบการประจำปี 2547

อาร์มองก์, นิวยอร์ก–(บิสิเนส ไวร์)–18 ม.ค.2548 – บริษัทไอบีเอ็ม (IBM) ประกาศในวันนี้ว่า กำไรต่อหุ้นปรับลด (diluted earning per share) สำหรับไตรมาส 4 ปี 2547 อยู่ที่ 1.81 ดอลลาร์จากกิจการที่ประกอบการอยู่ตามที่รายงานไป ซึ่งคิดเป็นเพิ่มขึ้น 16 % เมื่อเทียบกับกำไรต่อหุ้นที่ 1.56 ดอลลาร์ในไตรมาส 4 ของปี 2546 ส่วนรายได้จากกิจการที่ประกอบการอยู่ในไตรมาส 4 ปี 2547 อยู่ที่ 3.1 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 12 % เมื่อเทียบกับ 2.7 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่รายรับจากกิจการที่ประกอบการอยู่สำหรับไตรมาส 4 อยู่ที่ 2.77 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 7 % เมื่อเทียบกับ 2.59 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4 ของปี 2547 (และเพิ่มขึ้น 18 % จาก 2.34 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 ของปีนี้)

นายแซมมวล เจ.พาลมิซาโน่ ประธานและซีอีโอของไอบีเอ็ม กล่าวว่า “ไอบีเอ็มมีผลประกอบการสูงในไตรมาส 4 ซึ่งสะท้อนถึงรูปแบบธุรกิจที่รวมกันของเรา และนับเป็นผลประกอบการไตรมาส 4 ที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ของไอบีเอ็มเลยทีเดียว เพราะมีกำไรสูงกว่า 3 พันล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก และงบดุลก็ยังแข็งแกร่งอยู่ เนื่องจากมีกระแสเงินสดสูงมาก และเราได้เข้าไปลงทุนในตลาดสำคัญๆ เรายังได้จ่ายผล ตอบแทนรวม 8.3 พันล้านดอลลาร์ให้กับผู้ถือหุ้นผ่านเงินปันผลและการซื้อคืนหุ้นในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดเท่าที่เราเคยทำมานับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท การดำเนินงานเชิงกลยุทธ์ที่ไอบีเอ็มนำมาปฏิบัติในปีที่แล้วได้เพิ่มความสนใจของเราต่อการมอบมูลค่าสูงให้แก่บริษัทต่างๆ ไอบีเอ็มมีความพร้อมที่จะสานต่อภารกิจของเราในการผสานความเข้าใจ, ความชำนาญ และเทคโนโลยีที่ดีที่สุดเข้าด้วยกันเพื่อช่วยลูกค้าของเราในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงธุรกิจของพวกเขา”

รายรับในไตรมาส 4 ที่เพิ่มขึ้น 7 % (หรือ 3 % เมื่อปรับตามค่าเงิน) เป็นผลมาจากการขยายตัวของธุรกิจของบริษัทในทั่วทุกภูมิภาค ในอเมริกา รายรับจากกิจการที่ยังประกอบการอยู่ในไตรมาส 4 อยู่ที่ 1.11 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 5 % (หรือ 4 % เมื่อปรับตามค่าเงิน) จากช่วงเดียวกันของปี 2546 ขณะที่รายรับจากยุโรป/ตะวันออกกลาง/แอฟริกาอยู่ที่ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 9 % (หรือ 1 % เมื่อปรับตามค่าเงิน) และรายรับในเอเชีย-แปซิฟิคเพิ่มขึ้น 6 % (หรือ 3 % เมื่อปรับตามค่าเงิน) เป็น 5.8 พันล้านดอลลาร์ ส่วนรายรับจากการรับจ้างผลิต (OEM)) เพิ่มขึ้น 10 % เป็น 787 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ของปี 2546

นอกจากนี้ รายรับในกลุ่มธุรกิจทั้ง 5 กลุ่มของไอบีเอ็มมีการขยายตัวในไตรมาส 4 ด้วย โดยกลุ่มสื่อสารขยายตัวมากที่สุด ขณะที่กลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมก็มียอดขายเพิ่มขึ้นด้วย รายรับจากกลุ่มบริการทั่วโลก ซึ่งรวมการซ่อมบำรุง เพิ่มขึ้น 10 % (หรือ 6% เมื่อปรับตามค่าเงิน) สู่ 1.26 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4 ส่วนรายรับของกลุ่มบริการทั่วโลก ซึ่งไม่รวมการซ่อมบำรุง เพิ่มขึ้น 11 % (หรือ7 % เมื่อปรับตามค่าเงิน) และไอบีเอ็มได้เซ็นสัญญาบริการคิดเป็นมูลค่ารวม 1.27 หมื่นล้านดอลลาร์ และยังมีบริการเป็นจำนวนมากซึ่งได้แก่การจ้างบริการจากหน่วยงานอื่น (Strategic Outsourcing), บริการให้คำปรึกษาธุรกิจ, บริการเทคโนโลยีแบบครบวงจร และการซ่อมบำรุง โดยมีมูลค่า 1.11 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4 ปีที่แล้ว

รายรับจากกลุ่มฮาร์ดแวร์จากกิจการที่ยังประกอบการเพิ่มขึ้น 4 % (หรือ 1 % เมื่อปรับตามค่าเงิน) สู่ 9.5 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4 เทียบกับไตรมาส 4 ของปี 2546 ขณะที่รายรับจากกลุ่มระบบและเทคโนโลยีมีมูลค่ารวม 5.9 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4 เพิ่มขึ้น 5 % เนื่องจากรายรับจากเซิร์ฟเวอร์ eServer ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งรวมถึงเซิร์ฟเวอร์ xSeries ที่เพิ่มขึ้น 25 % และเซิร์ฟเวอร์ pSeries UNIX ที่เพิ่มขึ้น 15 % อย่างไรก็ดี รายรับจากเครื่องเมนเฟรม zSeries ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีรายได้สูงมาก ขณะที่การประมวลผลคำสั่ง (millions of instruction per second: MIPS) เพิ่มขึ้น 6 % และรายรับสำหรับเครื่องเซิร์ฟเวอร์แบบ midrange iSeries และระบบจัดเก็บข้อมูล (Storage Systems) ลดลงอย่างมากเนื่องจากการเปลี่ยนไปใช้สินค้าใหม่ๆ ส่วนรายรับจากเทคโนโลยี OEM เพิ่มขึ้น ขณะที่กลุ่มระบบส่วนบุคคลมีรายรับเพิ่มขึ้น 2 % เป็น 3.5 พันล้านดอลลาร์ และในไตรมาส 4 ที่ผ่านมา ไอบีเอ็มได้ประกาศข้อตกลงขายแผนกคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลของกลุ่มระบบส่วนบุคคลแล้ว

รายรับจากกลุ่มซอฟท์แวร์อยู่ที่ 4.5 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 7 % (หรือ 3 % เมื่อปรับตามค่าเงิน) เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ของปี 2546 ส่วนรายรับจากสินค้าในกลุ่ม middleware ของไอบีเอ็มซึ่งได้แก่ WebSphere, DB2, Rational, Tivoli และ Lotus อยู่ที่ 3.7 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 8 % เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ของปี 2546 และรายรับจากระบบปฏิบัติการเพิ่มขึ้น 1 % สู่ 693 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ของปี 2546

รายรับจากซอฟท์แวร์ WebSphere ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถจัดการกับความหลากหลายของขั้นตอนธุรกิจโดยใช้มาตรฐานแบบเปิดเพื่อเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่น, ข้อมูลและระบบปฏิบัติการเข้าด้วยกันนั้นเพิ่มขึ้น 18 % ส่วนรายรับสำหรับการจัดการข้อมูลเพิ่มขึ้น 8 % ซึ่งรวมถึงรายรับสำหรับซอฟท์แวร์ฐานข้อมูล DB2 ซึ่งเพิ่มขึ้น 15 % ด้วย ขณะที่รายรับจากซอฟท์แวร์ Tivoli (ซึ่งเป็นซอฟท์แวร์พื้นฐานที่ทำให้ลูกค้าสามารถจัดการเครือข่ายและการจัดเก็บข้อมูลเป็นส่วนกลาง) เพิ่มขึ้น 25 % และรายรับสำหรับซอฟท์แวร์ Lotus ซึ่งทำให้ลูกค้าสามารถสื่อสาร, ทำงานร่วมกัน และเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มขึ้น 5 % ส่วนรายได้จาก Rational (อุปกรณ์พัฒนาซอฟทแวร์แบบเบ็ดเสร็จ) เพิ่มขึ้น 8 % เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ของปี 2546

รายได้จากกลุ่มโกลบอล ไฟแนนซิ่ง (Global Financing) ลดลง 10 % (หรือ 13 % เมื่อปรับตามค่าเงิน) ในไตรมาส 4 สู่ 657 ล้านดอลลาร์ ส่วนรายรับจากการลงทุนในธุรกิจ/อื่นๆ ซึ่งรวมถึงโซลูชั่นไอทีที่ใช้เฉพาะกับอุตสาหกรรมเช่นซอฟท์แวร์ที่จัดการวงจรสินค้าเพิ่มขึ้น 1 % (แต่ลดลง 2 % เมื่อปรับตามค่าเงิน) สู่ 365 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ของปี 2546

ไอบีเอ็มมีอัตราส่วนกำไรขั้นต้น (gross profit margin) ทั้งหมดจากกิจการที่ประกอบการอยู่ 39.2 % ในไตรมาส 4 ปี 2547 เทียบกับ 38.4 %ในไตรมาส 4 ของปี 2546

ในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว รายจ่ายทั้งหมดและรายได้อื่นๆจากกิจการที่ประกอบการอยู่เพิ่มขึ้น 6 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมาอยู่ที่ 6.5 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่รายจ่ายจากการขาย, รายจ่ายทั่วไป และรายจ่ายด้านบริหารเพิ่มขึ้น 9 % สู่ 5.3 พันล้านดอลลาร์ และรายจ่ายด้านการวิจัย, การพัฒนาและการวิศวกรรมเพิ่มขึ้น 8 % สู่ 1.5 พันล้านดอลลาร์ ส่วนรายได้จากทรัพย์สินทางปัญญาและการพัฒนา custom เพิ่มขึ้นสู่ 298 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับ 281 ล้านดอลลาร์เมื่อ 1 ปีก่อน (รายได้) และรายจ่ายอื่นๆ อยู่ที่ 4 ล้านดอลลาร์ของรายได้สุทธิ ในไตรมาส 4 ของปี 2547 เทียบกับรายจ่ายสุทธิ 124 ล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

อัตราภาษีที่ใช้ในการคำนวณ (effective tax rate) ของไอบีเอ็มจากการดำเนินงานในไตรมาส 4 ปีที่แล้วอยู่ที่ 30.0 % ซึ่งเท่ากับช่วงเดียวกันของปี 2546

การซื้อคืนหุ้นคิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 2.9 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4 และจำนวนหุ้นสามัญที่ปรับลดคงเหลือจากการเฉลี่ยโดยวิธีถ่วงน้ำหนักในไตรมาส 4 อยู่ที่ 1.69 พันล้านหุ้น เทียบกับ 1.75 พันล้านหุ้นในช่วงเดียวกันของปี 2546

ผลการดำเนินงานประจำปี 2547

สำหรับงวดปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.2547 รายได้จากกิจการที่ประกอบการอยู่ ซึ่งรวมถึงการคิดค่าธรรมเนียมก่อนหักภาษี 320 ล้านดอลลาร์ครั้งเดียวเพื่อยุติการเรียกร้องเงินบำนาญนั้น อยู่ที่ 8.4 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 11 % เมื่อเทียบกับ 7.6 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปี 2546 ส่วนกำไรต่อหุ้นปรับลดจากกิจการที่ยังประกอบการอยู่นั้นอยู่ที่ 4.94 ดอลลาร์ เทียบกับ 4.34 ดอลลาร์ต่อหุ้นปรับลดสำหรับงวดปี 2546 เพิ่มขึ้น 14 % ขณะที่รายรับจากกิจการที่ประกอบการอยู่มีจำนวนรวม 9.65 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 8 % เมื่อเทียบกับ 8.91 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2546

รายรับทั้งปีที่เพิ่มขึ้น 8 % (หรือ 4 % เมื่อปรับตามค่าเงิน) มีสาเหตุมาจากการขยายตัวของธุรกิจในทุกภูมิภาค โดยในอเมริกา รายรับทั้งปีอยู่ที่ 4.01 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 5 % (หรือ 4 % เมื่อปรับตามค่าเงิน) จากปี 2546 ส่วนรายรับจากยุโรป/ตะวันออกกลาง/แอฟริกาอยู่ที่ 3.21 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 10 % (1 % เมื่อปรับตามค่าเงิน) และรายรับในเอเชีย-แปซิฟิคเพิ่มขึ้น 11 % (หรือ 5 % เมื่อปรับตามค่าเงิน) สู่ 2.15 หมื่นล้านดอลลาร์ และรายรับจาก OEM เพิ่มขึ้น 10 % (หรือ 9 % เมื่อปรับตามค่าเงิน) สู่ 2.9 พันล้านดอลลาร์

รายรับในกลุ่มธุรกิจทั้ง 5 กลุ่มของไอบีเอ็มเพิ่มขึ้นในปีที่แล้ว และยอดขายในกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน รายรับจากกลุ่มบริการทั่วโลกในปีที่แล้วมีจำนวนรวม 4.6 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 9 % (หรือ 4 % เมื่อปรับตามค่าเงิน) เทียบกับปี 2546 และรายรับจากกลุ่มฮาร์ดแวร์อยู่ที่ 3.12 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 10 % (หรือ 7 % เมื่อปรับตามค่าเงิน) ขณะที่รายรับจากกลุ่มซอฟท์แวร์มีจำนวนรวม 1.51 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 5 % (หรือ 1 % เมื่อปรับตามค่าเงิน) และรายรับจากกลุ่มโกลบอล ไฟแนนซิ่งมีจำนวนรวม 2.6 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 8 % (หรือ 12 % เมื่อปรับตามค่าาเงิน) รายรับจากการลงทุนในธุรกิจ/อื่นๆเพิ่มขึ้น 9 % (หรือ 5 % เมื่อปรับตามค่าเงิน) สู่ 1.2 พันล้านดอลลาร์

สำหรับผลการดำเนินงานทั้งหมด, รายได้สุทธิ รวมทั้งผลขาดทุนจากกิจการที่หยุดประกอบการแล้วซึ่งมีมูลค่ารวม 18 ล้านดอลลาร์นั้น อยู่ที่ 8.4 พันล้านดอลลาร์ หรือ 4.93 ต่อหุ้นสามัญปรับลด เทียบกับรายได้สุทธิ 7.6 พันล้านดอลลาร์ในปี 2546 หรือ 4.32 ดอลลาร์ต่อหุ้นปรับลด ซึ่งรวมถึงผลขาดทุนจากกิจการที่หยุดประกอบการซึ่งมีมูลค่า 30 ล้านดอลลาร์

ไอบีเอ็มมีเงินสดกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์และมีหนี้ในระดับต่ำสำหรับธุรกิจที่ไม่ใช่ financing ณ สิ้นปี 2547 โดยงบดุลบริษัทยังคงแข็งแกร่งและบริษัทมีความพร้อมที่จะฉวยประโยชน์จากโอกาสต่างๆ

การซื้อคืนหุ้นมีมูลค่ารวมประมาณ 7.3 พันล้านดอลลาร์ในปี 2547 ขณะที่จำนวนหุ้นสามัญที่ปรับลดยังเหลืออยู่จากการเฉลี่ยโดยวิธีถ่วงน้ำหนักในปี 2547 อยู่ที่ 1.71 พันล้านหุ้น เทียบกับ 1.76 พันล้านหุ้นในช่วงเดียวกันของปี 2546 และ ณ วันที่ 31 ธ.ค.2547 มีหุ้นสามัญคงเหลือ 1.65 พันล้านหุ้น

สำหรับหนี้สิน ซึ่งรวมถึงกลุ่มโกลบอล ไฟแนนซิ่ง มีจำนวนรวม 2.29 หมื่นล้านดอลลาร์ เทียบกับ 2.36 หมื่นล้านดอลลาร์ ณ สิ้นปี 2546 และจากความเห็นของฝ่ายบริหาร สัดส่วนหนี้ต่อทุน (debt-to-capitalization) ของธุรกิจที่ไม่ใช่ financing อยู่ที่ 2.2 % ณ สิ้นปี 2547 และหนี้สินในกลุ่มโกลบอล ไฟแนนซิ่งลดลง 944 ล้านดอลลาร์จากสิ้นปี 2546 มาอยู่ที่ 2.23 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งส่งผลให้อัตราส่วนหนี้ต่อทุนอยู่ที่ 6.9 ต่อ 1

แถลงการณ์เกี่ยวกับการคาดการณ์ในอนาคตและแถลงการณ์เตือน

นอกเหนือจากข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ในอดีตและคำพูดที่ปรากฏอยู่ในเอกสารฉบับนี้ ข้อความต่างๆ ที่อยู่ในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้อาจเป็นแถลงการณ์เกี่ยวกับการคาดการณ์ในอนาคตภายในกรอบความหมายของกฎหมายปฏิรูปการฟ้องร้องคดีหลักทรัพย์ส่วนบุคคล พ.ศ.2538 (Safe Harbor Statement under Private Securities Litigation Reform Act of 1995) ดังนั้นแถลงการณ์เหล่านี้จะเกี่ยวข้องกับความเสี่ยง, ความไม่แน่นอน และปัจจัยอื่นๆ ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลที่แท้จริงที่จะแตกต่างไปจากแถลงการณ์นี้ตามที่ได้ระบุไว้ในแบบยื่นรายการต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ของสหรัฐฯ

การนำเสนอข้อมูลในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้

เพื่อทำให้นักลงทุนได้รับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของบริษัทตามที่กำหนดโดยมาตรฐานบัญชีสากล (GAPP) ในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ บริษัทยังได้เปิดเผยข้อมูลที่ไม่เกี่ยวกับ GAPP ดังต่อไปนี้ ซึ่งฝ่ายบริหารเชื่อว่าจะทำให้นักลงทุนได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์:

– ปรับตามค่าเงิน
เหตุผลสำหรับการใช้เกณฑ์ที่ไม่ใช่ GAPP ของฝ่ายบริหารถูกบรรจุรวมไว้ให้เป็นส่วนหนึ่งของข้อมูลเสริมพิเศษที่ถูกนำเสนอไว้ในรายงานผลประกอบการไตรมาส 4 ซึ่งรายงานดังกล่าวมีการเผยแพร่ไว้ในส่วนลูกค้าสัมพันธ์ไอบีเอ็มที่เว็บไซต์ www.ibm.com/investor และจะถูกรวมไว้ในแบบยื่นรายการ Form 8-K ที่ยื่นต่อก.ล.ต.สหรัฐฯ

– การประชุมทางไกลและการถ่ายทอดผ่านเว็บ
ไอบีเอ็มจะจัดการประชุมทางไกลแถลงผลประกอบการประจำไตรมาส 4 ในเวลา 16.30 น.ตามเวลาท้องถิ่นในวันนี้ ซึ่งนักลงทุนอาจมีส่วนรวมได้ด้วยการชมการประชุมผ่านเว็บ (Webcast) ที่ www.ibm.com/investor/4q04

ผลการดำเนินงานที่แนบมาด้วย

บริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล บิสซิเนส แมชชีน คอร์ปอเรชั่น
ผลการดำเนินงานเชิงเปรียบเทียบ
(หน่วยเป็นล้านดอลลาร์ยกเว้นตัวเลขต่อหุ้น)
(ยังไม่สอบทานยกเว้นปี 2546)
รอบ 3 เดือน รอบ 12 เดือน
สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.
เปอร์เซนต์ เปอร์เซนต์
2547 2546 เปลี่ยนแปลง 2547 2546 เปลี่ยนแปลง
——- ——- ——- ——- ——- ——-
รายรับ กลุ่มบริการทั่วโลก $12,605 $11,448 10.1% $46,423 $42,635 8.9%
อัตรากำไรเบื้องต้น 25.1% 24.8% 24.9% 25.2%
กลุ่มฮาร์ดแวร์ 9,495 9,121 4.1% 31,154 28,239 10.3%
อัตรากำไรเบื้องต้น 33.0% 31.0% 29.6% 27.8%
กลุ่มซอฟท์แวร์ 4,549 4,250 7.0% 15,094 14,311 5.5%
อัตรากำไรเบื้องต้น 89.0% 88.8% 87.3% 86.5%
กลุ่มโกลบอล ไฟแนนซิ่ง 657 734 -10.4% 2,608 2,826 -7.7%
อัตรากำไรเบื้องต้น 59.7% 52.2% 60.0% 55.8%
การลงทุนในธุรกิจ/อื่นๆ 365 360 1.4% 1,224 1,120 9.3%
อัตรากำไรเบื้องต้น 32.8% 41.7% 40.3% 43.4%
รวมรายรับ 27,671 25,913 6.8% 96,503 89,131 8.3%
กำไรเบื้องต้น 10,852 9,975 8.8% 36,032 33,018 9.1%
อัตรากำไรเบื้องต้น 39.2% 38.4% 37.3% 37.0%
รายจ่ายและรายได้อื่นๆ S,G&A 5,290 4,874 8.5% 19,384 17,852 8.6%
% ของรายรับ 19.1% 18.8% 20.1% 20.0%
R,D&E 1,461 1,349 8.2% 5,673 5,077 11.7%
% ของรายรับ 5.3% 5.2% 5.9% 5.7%

รายได้จากทรัพย์สินทางปัญญาและการพัฒนา custom
รายได้ (298) (281) 6.1% (1,169) (1,168) 0.2%
(รายได้) อื่นๆ และรายจ่าย (4) 124 nm (23) 238 nm
รายจ่ายดอกเบี้ย 39 31 25.8% 139 145 -4.6%
รวมรายจ่ายและรายได้อื่นๆ 6,488 6,097 6.4% 24,004 22,144 8.4%
% รายรับ 23.4% 23.5% 24.9% 24.8%
รายได้จากกิจการที่ประกอบการอยู่ ก่อนหักภาษีเงินได้ 4,364 3,878 12.5% 12,028 10,874 10.6%
กำไรเบื้องต้นก่อนหักภาษี 15.8% 15.0% 12.5% 2.2%
เงินสำรองสำหรับภาษีเงินได้ 1,309 1,162 12.7% 3,580 3,261 9.8%
อัตราภาษีที่ใช้ในการคำนวณ 30.0% 30.0% 29.8% 30.0%
รายได้จากกิจการที่ประกอบการอยู่ $3,055 $2,716 12.5% $8,448 $7,613 11.0%
กำไรสุทธิ 11.0% 10.4% 8.8% 8.5%
ผลขาดทุนจากกิจการ ที่หยุดประกอบการแล้ว 15 7 18 30
รายได้สุทธิ $3,040 $2,709 12.2% $8,430 $7,583 11.2%

====== ====== ====== ====== กำไร/(ขาดทุน)ต่อหุ้น ของหุ้นสามัญ
การคาดการณ์การปรับลด
กิจการที่ประกอบการอยู่ $1.81 $1.56 16.0% $4.94 $4.34 13.8%
กิจการที่หยุดประกอบการ (0.01) (0.00) (0.01) (0.02)
—— —— —— ——
รวม $1.80 $1.55* 16.1% $4.93 $4.32 14.1%
====== ====== ====== ======
พื้นฐาน กิจการที่ประกอบการอยู่ $1.84 $1.59 15.7% $5.04 $4.42 14.0%
กิจการที่หยุดประกอบการ (0.01) (0.00) (0.01) (0.02)
—— —— —— ——
รวม $1.83 $1.59 15.1% $5.03 $4.40 14.3%
====== ====== ====== ======
จำนวนหุ้นสามัญ คงเหลือจากการ เฉลี่ยด้วยวิธีถ่วง น้ำหนัก
การคาดการณ์ การปรับลด 1,691.6 1,745.7 1,708.9 1,756.1
พื้นฐาน 1,659.0 1,708.5 1,675.0 1,721.6 nm – ไม่สำคัญ * ยังไม่รวมทั้งหมดเนื่องจาก rounding

อินเตอร์เนชั่นแนล บิสิเนส แมชชีนส์ คอร์ปอเรชั่น
งบการเงินรวม ณ (หน่วยเป็นล้านดอลลาร์) วันที่ 31 วันที่ 31 ธ.ค. เปอร์เซนต์
2547 2546* เปลี่ยนแปลง
(ยังไม่สอบทาน)
———– ———– ——-
สินทรัพย์
เงินสด, รายการเทียบเท่าเงินสดและทรัพย์ที่เปลี่ยนมือได้ $10,570 $7,647 38.2%
จำนวนเงินค้างรับจากลูกหนี้ – สุทธิ, สินค้าคงคลัง, รายจ่ายที่ชำระล่วงหน้า 36,400 37,015 -1.7%
โรงงาน, เครื่องจักรเช่า, และทรัพย์สินอื่น – สุทธิ 15,175 14,689 3.3%
การลงทุนและสินทรัพย์อื่นๆ 47,038 45,106 4.3%
——– ——–
รวมสินทรัพย์ $109,183 $104,457 4.5%
======== ========
หนี้สินและหุ้นของผู้ถือหุ้น
หนี้ระยะสั้น $8,099 $6,646 21.9%
หนี้ระยะยาว 14,828 16,986 -12.7%
——– ——–
รวมหนี้ 22,927 23,632 -3.0%

บัญชีเจ้าหนี้, ภาษี และเงินค้างรับค้างจ่ายในบัญชี 31,699 31,254 1.4%
หนี้สินอื่นๆ 24,810 21,707 14.3%
——– ——–
รวมหนี้สิน 79,436 76,593 3.7%
หุ้นของผู้ถือหุ้น 29,747 27,864 6.8%
——– ——–
รวมหนี้สินและหุ้นของผู้ถือหุ้น $109,183 $104,457 4.5%
======== ========
* จัดประเภทใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับการนำเสนอในปี 2547

อินเตอร์เนชั่นแนล บิสิเนส แมชชีนส์ คอร์ปอเรชั่น
กลุ่มธุรกิจข้อมูล
ไตรมาส 4 ปี 2547 (ยังไม่สอบทาน)
———————————————
รายได้ก่อนหักภาษี
(ขาดทุน)
จาก (หน่วยเป็นล้านดอลลาร์)
——– รายรับ —————-
กิจการที่ประ กำไรก่อน ภายนอก ภายใน รวม กอบการอยู่ หักภาษี
——– ——– ——- ———- ——-
กลุ่มธุรกิจ บริการทั่วโลก $12,605 $819 $13,424 $1,420 10.6%
เปลี่ยนแปลงเป็น % 10.1% 8.9% 10.0% 24.8%
กลุ่มระบบและเทคโนโลยี 5,869 274 6,143 1,075 17.5%
เปลี่ยนแปลงเป็น % 4.9% -0.4% 4.7% -1.7%
กลุ่มระบบส่วนบุคคล 3,542 58 3,600 92 2.6%
เปลี่ยนแปลงเป็น % 1.8% 20.8% 2.1% nm
ซอฟท์แวร์ 4,549 514 5,063 1,718 33.9%
เปลี่ยนแปลงเป็น % 7.0% 10.3% 7.4% 17.6%
โกลบอล ไฟแนนซิ่ง 656 412 1,068 421 39.4%
เปลี่ยนแปลงเป็น % -10.4% -4.6% -8.2% 31.2%
การลงทุนในธุรกิจ 379 2 381 (34) -8.9%
เปลี่ยนแปลงเป็น % 11.5% 100.0% 11.7% 22.7%
รวมกลุ่มธุรกิจที่สามารถรายงานได้ 27,600 2,079 29,679 4,692 15.8%
เปลี่ยนแปลงเป็น % 6.8% 5.3% 6.7% 17.9%
การหักออก/อื่นๆ 71 (2,079) (2,008) (328)
งบรวมของไอบีเอ็ม $27,671 $0 $27,671 $4,364 15.8%
เปลี่ยนแปลงเป็น 6.8% 6.8% 12.5% nm – ไม่สำคัญ

ไตรมาส 4 ปี 2546 (ยังไม่ได้สอบทาน)
———————————————
รายได้ก่อนหักภาษี
(ขาดทุน)
จาก (หน่วยเป็นล้านดอลลาร์)
——– รายรับ —————-
กิจการที่ประ กำไรก่อน ภายนอก ภายใน รวม กอบการอยู่ หักภาษี
——– ——– ——- ———- ——-
กลุ่มธุรกิจ บริการทั่วโลก $11,448 $752 $12,200 $1,138 9.3%
กลุ่มระบบและเทคโนโลยี* 5,594 275 5,869 1,094 18.6%
กลุ่มระบบส่วนบุคคล 3,478 48 3,526 9 0.3%
ซอฟท์แวร์ 4,250 466 4,716 1,461 31.0%
โกลบอล ไฟแนนซิ่ง 732 432 1,164 321 27.6%
การลงทุนในบริษัท 340 1 341 (44) -12.9%
รวมกลุ่มธุรกิจที่ สามารถรายงานได้ 25,842 1,974 27,816 3,979 14.3%
การหักออก /อื่นๆ 71 (1,974) (1,903) (101)
งบรวมของไอบีเอ็ม $25,913 $0 $25,913 $3,878 15.0%
* ผลการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีและระบบในปี 2546 ถูกปรับประเภทใหม่ให้สอดคล้องกับโครงสร้างการรายงานในปัจจุบัน

อินเตอร์เนชั่นแนล บิสิเนส แมชชีนส์ คอร์ปอเรชั่น
กลุ่มธุรกิจข้อมูล
รอบ 12 เดือนปี 2547 (ยังไม่สอบทาน)
———————————————
รายได้ก่อนหักภาษี
(ขาดทุน)
จาก (หน่วยเป็นล้านดอลลาร์)
——– รายรับ —————-
กิจการที่ประ กำไรก่อน ภายนอก ภายใน รวม กอบการอยู่ หักภาษี
——– ——– ——- ———- ——-
กลุ่มธุรกิจ บริการทั่วโลก $46,423 $3,131 $49,554 $4,657 9.4%
เปลี่ยนแปลงเป็น % 8.9% 10.4% 9.0% 3.5%
กลุ่มระบบและเทคโนโลยี 17,916 1,051 18,967 2,265 11.9%
เปลี่ยนแปลงเป็น % 8.8% 21.5% 9.4% 23.9%
กลุ่มระบบส่วนบุคคล 12,794 173 12,967 162 1.2%
เปลี่ยนแปลงเป็น % 12.4% 1.2% 12.2% nm
ซอฟท์แวร์ 15,094 1,805 16,899 4,541 26.9%
เปลี่ยนแปลง % 5.5% 11.9% 6.1% 19.2%
โกลบอล ไฟแนนซิ่ง 2,607 1,287 3,894 1,494 38.4%
เปลี่ยนแปลงเป็น % -7.8% -1.0% -5.6% 26.4%
การลงทุนในธุรกิจ 1,180 8 1,188 (187) -15.7%
เปลี่ยนแปลงเป็น % 10.8% 60.0% 11.0% 25.8%
รวมธุรกิจที่สามารถ รายงานได้ 96,014 7,455 103,469 12,932 12.5%
% change 8.3% 9.8% 8.4% 18.1%
การหักออก/อื่นๆ 489 (7,455) (6,966) (904)
งบรวมของไอบีเอ็ม $96,503 $0 $96,503 $12,028 12.5%
เปลี่ยนแปลง % 8.3% 8.3% 10.6% nm – ไม่สำคัญ

รอบ 12 เดือนปี 2546
—————————-
รายได้ก่อนหักภาษี
(ขาดทุน)
จาก (หน่วยเป็นล้านดอลลาร์)
——– รายรับ —————-
กิจการที่ประ กำไรก่อน
ภายนอก ภายใน รวม กอบการอยู่ หักภาษี
——– ——– ——- ———- ——-
กลุ่มธุรกิจ บริการทั่วโลก $42,635 $2,837 $45,472 $4,499 9.9%
กลุ่มระบบและเทคโนโลยี* 16,469 865 17,334 1,828 10.5%
กลุ่มระบบส่วนบุคคล 11,387 171 11,558 (118) -1.0%
ซอฟท์แวร์ 14,311 1,613 15,924 3,808 23.9%
โกลบอล ไฟแนนซิ่ง 2,827 1,300 4,127 1,182 28.6%
การลงทุนในบริษัท 1,065 5 1,070 (252) -23.6%
รวมกลุ่มที่สามารถรายงานได้88,694 6,791 95,485 10,947 11.5%
การหักออก/อื่นๆ 437 (6,791) (6,354) (73)
งบรวมของไอบีเอ็ม $89,131 $0 $89,131 $10,874 12.2%
* ผลการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีและระบบในปี 2546 ถูกปรับประเภทใหม่ให้สอดคล้องกับโครงสร้างการรายงานในปัจจุบัน

ติดต่อ: ไอบีเอ็ม
เอ็ดเวิร์ด บาร์บินี่ , โทร. 914/499-6565
[email protected]