เอชพีช่วยลูกค้าลดต้นทุนการจัดเก็บข้อมูลด้วยสตอเรจโซลูชั่นแบบชั้นรุ่นใหม่

กรุงเทพฯ 12 ธันวาคม 2548 – เอชพีเผยโฉมเทคโนโลยีดิสก์ เทป และออพติคัลสตอเรจใหม่ล่าสุด พร้อมซอฟต์แวร์การจัดการข้อมูลที่แข็งแกร่งขึ้น เพื่อช่วยขยายสายผลิตภัณฑ์โซลูชั่นสตอเรจแบบชั้น (Tiered Storage Solutions) ที่มีความหลากหลายที่สุดในอุตสาหกรรม

ทั้งนี้ เอชพีได้มอบความยืดหยุ่นในการเก็บข้อมูลทางธุรกิจ ตั้งแต่การสร้างข้อมูลไปจนกระทั่งการลบข้อมูลบนแพล็ตฟอร์มสตอเรจที่คุ้มค่าที่สุดให้กับลูกค้าทุกระดับตั้งแต่ในระดับเริ่มต้นจนถึงระดับสูง ตามความต้องการด้านประสิทธิภาพการทำงานและความน่าเชื่อถือที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ

อุปกรณ์สตอเรจพร้อมซอฟต์แวร์การจัดการข้อมูลที่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมของเอชพีช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับการเก็บข้อมูลและค่าใช้จ่ายด้านการรักษาความปลอดภัยให้เข้ากันกับมูลค่าธุรกิจของข้อมูลตลอดเวลา ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของกลยุทธ์การจัดการวงจรชีวิตของข้อมูล (Information Lifecycle Management – ILM) ของเอชพี

ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เพิ่มประสิทธิภาพขึ้นนี้ ได้แก่

• HP OpenView Data Protector เวอร์ชั่น 5.5 – ให้คุณสมบัติใหม่ ๆ กว่า 200 รายการสำหรับการจัดการข้อมูลแบบครบวงจรและคุ้มค่าในทุกชั้นของเทคโนโลยีสตอเรจ

• HP StorageWorks Modular Smart Array (MSA) 1500 cs – ให้สตอเรจแบบชั้นภายในระบบเดียวด้วยการรองรับการทำงานคู่กันของ SCSI และ Serial ATA (SATA) หลังชั้นควบคุมเดี่ยว ซึ่งถือเป็นรายแรกของอุตสาหกรรมที่นำเสนอ

• HP StorageWorks Ultrium 960 Tape Drive – ซึ่งพัฒนาบนเทคโนโลยีเทปไดรฟ์ Linear Tape-Open รุ่นที่สามและให้ประสิทธิภาพในการเขียนครั้งเดียวและอ่านได้หลายประเภทโดยใช้อัลเทรียม (Ultrium-based Write-Once Read-Many -WORM) เป็นรายแรกในอุตสาหกรรม

• HP StorageWorks Optical Jukeboxes – ให้การเก็บข้อมูลเข้า Archive ระยะยาวของการบันทึกและข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์เพื่อการปรับเข้าเกณฑ์ที่คุ้มค่า

“ลูกค้าซื้อสตอเรจเครือข่ายแบบหลายชั้นเพื่อจัดการข้อมูลในปริมาณมากได้อย่างคุ้มค่าและสร้างความพึงพอใจให้กับความต้องการด้านการเก็บข้อมูลและการปรับเข้ากับกฏเกณฑ์ในระยะยาว” มร. แฟรงค์ ฮาร์บิสต์ รองประธานและผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายการจัดการวงจรข้อมูลของเอชพีกล่าว “ไม่มีผู้ค้ารายใดที่สามารถเทียบกับเอชพีได้ในด้านสตอเรจโซลูชั่นที่สามารถทำงานได้ทั้งแนวลึกและแนวกว้าง และมีพร้อมตั้งแต่ระดับพื้นฐานไปจนถึงโซลูชั่นสำหรับระดับองค์กร และครอบคลุมทั้งเทคโนโลยีดิสก์ เทป และออพติคัลสตอเรจ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเก็บข้อมูลบน แพลทฟอร์มสตอเรจที่คุ้มค่าที่สุด ตามสภาพทางธุรกิจของวงจรชีวิตข้อมูลที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ”

การเคลื่อนย้ายของข้อมูลที่คุ้มค่าทั่วชั้นสตอเรจ

ซอฟต์แวร์ HP OpenView Data Protector เวอร์ชั่น 5.5 ให้คุณสมบัติใหม่และคุณสมบัติที่เพิ่มขึ้นกว่า 200 รายการ เพื่อให้ลูกค้ามีโซลูชั่นการจัดการข้อมูลที่ปรับขยายขนาดได้และสามารถสร้างระบบอัตโนมัติให้กับการสำรองข้อมูลและการกู้ข้อมูลประสิทธิภาพสูงจากดิสก์หรือเทปอย่างไม่จำกัด เพื่อช่วยสร้างความมั่นใจให้กับการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องและการเคลื่อนย้ายของข้อมูลที่คุ้มค่าการลงทุน

มร. เควิน ยอร์ค ผู้อำนวยการของระบบการเงิน สายการบินคอนติเนนตัล กล่าวว่า “สายการบินคอนติเนนตัล เชื่อมั่นในอนาคตของ HP’s OpenView Data Protector และความสามารถในการช่วยจัดการธุรกิจของเรา และจากการเปิดตัวของ Data Protector 5.5 เราได้เล็งเห็นคุณสมบัติการจัดการ Advanced Media Management แบบใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสำรองข้อมูลจากดิสก์สู่ดิสก์ ในฐานะเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดในยุคหน้าซึ่งจะลดต้นทุนการปรับขยายขนาด การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และช่วยให้สายการบินของเราบรรลุวัตถุประสงค์ด้านการปรับข้อมูลตามความต้องการได้”

คุณสมบัติและการทำงานหลักของซอฟต์แวร์ HP OpenView Data Protector เวอร์ชั่น 5.5 ได้แก่

• การสำรองข้อมูลลงดิสก์แบบก้าวหน้า (Advanced backup to disk) – ปรับปรุงกระบวนการสำรองข้อมูลด้วยการสำรองแฟ้มข้อมูลของบันทึกข้อมูลธุรกรรมอย่างต่อเนื่อง การสำรองข้อมูล slow client โดยไม่ต้องส่งข้อความไปมาพร้อม ๆ กันในช่องทางเดียวของเครือข่าย รวมถึงการเข้าถึงและการแบ่งปันข้อมูลที่ง่ายขึ้นกว่าเดิม คุณสมบัติใหม่ยังช่วยให้การทำ Virtualization ของเทปมีการแบ่งปันแหล่งการสำรองข้อมูลได้อย่างง่ายดายและสร้างความสมบูรณ์ให้กับการสำรองข้อมูลโดยตรงของ Data Protector ไว้กับเทคโนโลยีดิสก์สำหรับการสำรองข้อมูลที่ต้องทำงานตลอดเวลา การกู้ข้อมูลทันที และคลังเวอร์ชวลเทป (คลังแฟ้มข้อมูล – File Library)

• การจัดการสื่อแบบก้าวหน้า (การก๊อปปี้วัตถุ) (Advanced media management (object copy) – เสริมความแข็งแกร่งให้กับการจัดการสื่อโดยลดความต้องการในการก๊อปปี้เทปหรือดิสก์ทั้งหมดลง แต่ก๊อปปี้เพียงแค่บางส่วนที่มีการเพิ่มเติมเข้าไประหว่างช่วงที่เลือกและสามารถเพิ่มเข้าไปในตอนท้ายของเทปหรือดิสก์ที่มีการก๊อบปี้เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ การก๊อบปี้สื่อโดยจัดให้มีเนื้อที่เหลือเพียงพอแบบอัตโนมัติจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและลดต้นทุนการใช้เทปและไดรฟ์ ประสิทธิภาพใหม่ดังกล่าวยังช่วยเพิ่มความสามารถในการย้ายข้อมูลและการรวมจากดิสก์สู่เทปและระหว่างเทปต่างประเภทกัน รวมถึงการรวมเทปเข้าด้วยกันเพื่อลดการสำรองข้อมูลที่ไม่มีการป้องกัน

• การสำรองข้อมูลให้เหมือนต้นฉบับทุกอย่าง (Backup Mirroring) – สื่อสำเนาข้อมูล (Mirror Media) ที่อยู่ในเนื้อที่ที่ไม่จำกัดให้ประสิทธิภาพการทำงานสูงสุดผ่านหน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน ช่วยให้สามารถเตรียมการกู้หายนะที่เกิดกับศูนย์ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพง่ายขึ้นและยังช่วยให้การเก็บข้อมูลระยะยาวทางไกลผสมผสานกับการเข้าถึงเทปในพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย

HP StorageWorks Data Protector เวอร์ชั่น 5.5 มีวางจำหน่ายแล้ว ราคาในท้องตลาดสำหรับชุดเริ่มต้นอยู่ที่ 70,000 บาทสำหรับระบบปฏิบัติการวินโดวส์? และ 300,000 บาทสำหรับระบบปฏิบัติการยูนิกซ์? (1)

สตอเรจแบบเป็นชั้นในระบบเดียว

HP StorageWorks Modular Smart Array (MSA) 1500 cs คือ ชั้นควบคุม 2U ที่มี Fibre Channel SAN ขนาด 2 กิกะไบต์ คือ Disk Array ตัวแรกในอุตสาหกรรมที่เสริมการจัดเก็บข้อมูลที่เกิดขึ้นพร้อมกัน ของทั้ง กล่องดิสก์ SCSI และ SATA ข้างหลังชั้นควบคุมเดี่ยว

การรวมฮาร์ดไดรฟ์และกล่อง SATA ประสิทธิภาพสูงซึ่งมีต้นทุนถูกเข้ากับกล่องไดรฟ์ SCSI ทำให้ MSA 1500 cs สามารถมอบความยืดหยุ่น การจัดการที่ง่ายดาย และความคุ้มค่าของโซลูชั่นที่ให้สตอเรจแบบหลายชั้นในระบบเดียวและมุมมองการจัดการเดียวให้กับลูกค้าได้ โดยประสิทธิภาพเฉพาะตัวดังกล่าวช่วยให้ลูกค้าสามารถแยกเก็บข้อมูลที่สำคัญเป็นอันดับแรกและรองลงมาตามความต้องการด้านประสิทธิภาพการทำงานและความน่าเชื่อถือ รวมถึงความเกี่ยวข้องของข้อมูลและความถี่ในการใช้ข้อมูลได้

MSA 1500 cs สามารถสนับสนุนกล่อง SATA ที่เสริมเข้ามาได้ถึงแปดกล่องโดยมีประสิทธิภาพขั้นต้นถึง 24 เทราไบต์ (ใช้ดิสก์ไดรฟ์ SATA ตั้งแต่ 96 ถึง 250 กิกะไบต์) หากธุรกิจต้องการประสิทธิภาพการทำงานและความน่าเชื่อถือของไดรฟ์ SCSI สามารถเสริมกล่อง SCSI ได้ถึงสี่กล่องเพื่อประสิทธิภาพในขั้นต้นถึง 16 เทราไบต์ (ใช้ดิสก์ SCSI ตั้งแต่ 36 ถึง 300 กิกะไบต์)

HP StorageWorks MSA 1500 cs มีวางจำหน่ายแล้ววันนี้โดยมีราคาประมาณ 350,000 บาท(1)

สามารถเป็นเจ้าของได้ มีคุณภาพสูงในการเก็บสำรองข้อมูลเข้าที่เก็บเอกสาร และการปรับเข้ากัน

HP StorageWorks Ultrium 960 Tape Drive คือ ฟอร์แม็ตเทปไดรฟ์ Linear Tape-Open (LTO) รุ่นที่สาม ที่มีประสิทธิภาพสูงและมาพร้อมกับดาต้าคาร์ททริดจ์ทั้งแบบเขียนซ้ำได้และเขียนซ้ำไม่ได้ รวมถึงแบบที่เขียนครั้งเดียวและอ่านได้หลายประเภท (WORM)

เทปไดรฟ์ Ultrium 960 ออกแบบมาสำหรับความต้องการการเก็บสำรองข้อมูลที่แนบมาโดยตรงและการจัดเก็บข้อมูลสำหรับลูกค้าระดับกลางและระดับองค์กร เทปไดรฟ์ Ultrium 960 มีประสิทธิภาพที่มากกว่าถึงสองเท่าและประสิทธิภาพการทำงานมากกว่าเทปไดรฟ์ Ultrium รุ่นก่อนหน้านี้ของเอชพีมากกว่าสองเท่า

ประสิทธิภาพที่มากขึ้นช่วยลดต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันข้อมูลเนื่องจากใช้ดาต้าคาร์ททริดจ์เพื่อการสำรองข้อมูลที่สมบูรณ์จำนวนน้อยลง นอกจากนี้ประสิทธิภาพการทำงานที่เพิ่มขึ้นยังช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับขนาดประสิทธิภาพในการสำรองข้อมูลโดยไม่ต้องเพิ่มหน้าต่างสำรองข้อมูลอีกด้วย

นอกจากนี้ เทปไดรฟ์ Ultrium 960 ยังเป็นเทปไดรฟ์ Ultrium ตัวแรกในอุตสาหกรรมที่สนับสนุนดาต้าคาร์ททริดจ์แบบ WORM อีกด้วย และประสิทธิภาพนอกเหนือจากนี้ของ WORM ยังช่วยให้ลูกค้าเอชพีมีวิธีการที่ปลอดภัย ง่าย และคุ้มค่ามากขึ้นในการเก็บสำรองข้อมูลเพื่อตอบสนองความต้องการด้านการเก็บรักษาข้อมูลและการปรับเข้ากับกฏเกณฑ์ในระยะยาวอีกด้วย โดยเทป WORM ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเก็บข้อมูลที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้หลายเพตะไบต์สำหรับการเก็บข้อมูลนอกสถานที่อย่างปลอดภัยในราคาเพียงส่วนเสี้ยวของดิสก์สตอเรจ

เทปไดรฟ์ Ultrium 960 ยังมอบความพิเศษให้กับการใช้งานด้วยฟังก์ชั่น HP One-Button Disaster Recovery (OBDR) เพื่อลดเวลาในการกู้ข้อมูลในช่วงที่เกิดวิกฤติ การป้องกันข้อมูลบนเฟิร์มแวร์และคุณสมบัติในการกู้วิกฤติที่อาศัยการใช้เทปไดรฟ์ Ultrium 960 เดี่ยวและดาต้าคาร์ททริดจ์ ทำให้สามารถกู้ระบบทั้งระบบ รวมถึงระบบปฏิบัติการ การคอนฟิกกูเรชั่น แอพพลิเคชั่น ไดรฟเวอร์ และไฟล์ข้อมูล

เอชพียังได้มอบอัตราข้อมูลพิเศษที่มีคุณสมบัติเข้ากันกับเทปไดรฟ์ Ultrium 960 คุณสมบัติดังกล่าวทำให้เทปไดรฟ์สามารถปรับอัตราการส่งข้อมูลให้เท่ากับความเร็วของระบบแม่ข่ายได้อย่างทรงพลังและต่อเนื่อง การจับคู่อัตราข้อมูลทำให้มีการ “ส่งผ่าน” ข้อมูลไปยังไดรฟ์อย่างต่อเนื่องและลดความจำเป็นในการกรอเทปกลับไปกลับมาเพื่อรอแม่ข่าย คุณสมบัติดังกล่าวเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ถึงขีดสุดและลดความเสียหายและการสึกหรอของไดรฟ์เพื่อความน่าเชื่อถือที่เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ เทปไดรฟ์ HP StorageWorks Ultrium 960 ยังมาพร้อมกับสิทธิภาพของ HP StorageWorks Data Protector เวอร์ชั่น 5.5 เซิร์ฟเวอร์เดี่ยวเพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกของโซลูชั่นเดี่ยวสำหรับความต้องการด้านการสำรองข้อมูลและสตอเรจ WORM

เทปไดรฟ์ HP StorageWorks Ultrium 960 และดาต้า คาร์ททริดจ์ HP StorageWorks Ultrium ขนาด 800 กิกะไบต์มีวางจำหน่ายแล้วทั้งในฟอร์แม็ตที่เขียนซ้ำได้และแบบ WORMราคาเริ่มต้นในตลาดสำหรับเทปไดรฟ์ Ultrium 960 จะอยู่ที่ประมาณ 210,000 บาท(1)

สตอเรจการเก็บข้อมูลที่คุ้มค่าสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก

ปัจจุบันสายผลิตภัณฑ์ตู้ชุดอุปกรณ์เก็บข้อมูล Ultra Density Optical (UDO) ของเอชพีมีผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่ ตู้ชุดอุปกรณ์เก็บข้อมูล HP StorageWorks Optical 700ux และ 1100ux

ตู้ชุดอุปกรณ์เก็บข้อมูลขั้นต้นดังกล่าวช่วยให้ลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมมีสตอเรจที่คุ้มค่าและสามารถโยกย้ายได้สำหรับการเก็บข้อมูลที่ปลอดภัยในระยะยาวของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์เพื่อช่วยตอบสนองความต้องการด้านการรักษาข้อมูลและการปรับเข้ากับกฏเกณฑ์ เมื่อเปรียบเทียบกับ แมกนิโต ออพติคัล ไดรฟ์แล้ว ไดรฟ์แบบ UDO ให้ประสิทธิภาพมากกว่าถึงสามเท่าที่ 30 กิกะไบต์ต่อแผ่นและประหยัดต้นทุนต่อกิกะไบต์ได้มากกว่าร้อยละ 75

นอกจากนี้ ลูกค้ายังได้รับประโยชน์จากประสิทธิภาพการทำงานที่เพิ่มขึ้นและลดต้นทุนด้วยการถ่ายโอนข้อมูลที่ไม่ค่อยมีการใช้งานจากเซิร์ฟเวอร์ในปัจจุบันหรือสตอเรจขั้นต้นไปยังโซลูชั่นสตอเรจที่มีต้นทุนต่อกิกะไบต์ต่ำกว่า

ตู้ชุดอุปกรณ์เก็บข้อมูลให้การแนบแฟ้มข้อมูลโดยตรงหรือความสามารถในการเชื่อมต่อ Fibre สำหรับสตอเรจการเก็บข้อมูลขนาดตั้งแต่ 720 กิกะไบต์ถึง 1.1 เทราไบต์ ไม่ว่าจะอยู่ในฟอร์แม็ตแบบ WORM หรือเขียนซ้ำได้ ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพภายในตู้เดียวกันสำหรับการป้องกันการลงทุนเพิ่มขึ้น

HP StorageWorks Optical 700ux และ 1100ux Jukeboxes มีวางจำหน่ายแล้ว ราคาในตลาดอยู่ที่ประมาณ 300,000 บาท (1)

ท่านสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมและข้อเสนอจาก HP StorageWorks รวมถึงผลิตภัณฑ์ข้างต้นที่ www.hp.com/go/storage.

เกี่ยวกับเอชพี

เอชพีเป็นผู้นำระดับโลกในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี โซลูชั่น และการให้บริการแก่ลูกค้าระดับคอนซูเมอร์และองค์กรธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ครอบคลุมโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล และอุปกรณ์ต่อพ่วง การให้บริการครอบคลุมทั่วโลก และผลิตภัณฑ์ภาพและการพิมพ์ โดยสิ้นไตรมาสที่สี่ ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2547 เอชพีมีรายได้รวมทั้งสิ้น 79,900 ล้านเหรียญสหรัฐ ผู้สนใจสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอชพี ได้ที่ http://www.hp.com

(1) ราคาที่แท้จริงอาจแตกต่างไปจากนี้