โนเกีย ยังคงรักษาความเป็นผู้นำในตลาดอุปกรณ์สื่อสารไร้สายในปี 2547 ด้วยสถิติใหม่ จำหน่ายโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ไร้สายถึง 66.1 ล้านเครื่องในไตรมาสสุดท้ายของปี ผลักดันส่วนแบ่งตลาดรวมทั้งปีเพิ่มเป็น 32%ทำให้ผลประกอบการทะยานต่อเนื่องในทุกธุรกิจ มั่นใจปี 2548 จะยังคงเติบโตต่อเนื่อง
มร. จอร์มา โอลลิลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โนเกีย กล่าวว่า “ปี 2547 เป็นปีที่เราได้เห็นสถิติใหม่ในด้านยอดจำหน่ายอุปกรณ์สื่อสารไร้สายของทั้งตลาด ซึ่งทำให้ตลาดอุปกรณ์สื่อสารไร้สายและระบบเครือข่ายมีการขยายตัวมาก และจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือทั่วโลกก็เพิ่มขึ้นอย่างมากเป็น 1,700 ล้านราย”
”สำหรับโนเกียเอง ปริมาณอุปกรณ์สื่อสารไร้สายที่เราจำหน่ายเติบโตเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ทั้งในไตรมาสที่ 4 และทั้งปี 2547 เนื่องจากมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในตลาดใหม่ เช่น อเมริกาใต้ รัสเซีย อินเดีย และ จีน นอกจากนี้ ยอดจำหน่ายของโทรศัพท์ที่มีจอสีและกล้องก็เพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน”
ผลประกอบการประจำไตรมาสสุดท้ายของปี 2547 นั้น โนเกียเปิดเผยว่า ยอดขายโดยรวมของโนเกียเติบโตมากกว่าที่คาดเนื่องจากยอดจำหน่ายอุปกรณ์สื่อสารไร้สายสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 66.1 ล้านเครื่อง ทำให้มียอดขายโทรศัพท์มือถือ 283,000 ล้านบาท* (5,660 ล้านยูโร) ราคาขายโทรศัพท์มือถือที่ค่อนข้างคงที่ และยอดขายด้านระบบเครือข่ายที่เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยธุรกิจมัลติมีเดียมียอดขายสูง 61,500 ล้านบาท (1,230 ล้านยูโร) เพิ่มขึ้น 29% ธุรกิจโซลูชั่นสำหรับองค์กรมียอดขาย 14,000 ล้านบาท (280 ล้านยูโร) เพิ่มขึ้น 122% และธุรกิจเน็ตเวิร์คมียอดขาย 95,300 (1,906 ล้านยูโร) เติบโตขึ้น 12%
เมื่อรวมทั้งปี โนเกียมีผลประกอบการที่แข็งแกร่งมากในทุกธุรกิจ ได้แก่
– ธุรกิจโทรศัพท์มือถือ มียอดขายรวมทั้งปี 925,350 ล้านบาท (18,507 ล้านยูโร) และมียอดจำหน่าย 207.7 ล้านเครื่อง
– ธุรกิจมัลติมีเดีย มียอดขายรวม 182,950 ล้านบาท (3,659 ล้านยูโร) เพิ่มขึ้น 46%
– ธุรกิจโซลูชั่นส์สำหรับองค์กร มียอดขายรวม 41,500 ล้านบาท (830 ล้านยูโร) เพิ่มขึ้น 57%
– ธุรกิจเน็ตเวิร์ค มียอดขาย 318,350 ล้านบาท (6,367 ล้านยูโร) เพิ่มขึ้น 13%
* อัตราแลกเปลี่ยน 1 ยูโร = 50 บาท
มร. โอลลิลา กล่าวเสริมว่า “ในปี 2547 โนเกียมีส่วนแบ่งในตลาดอุปกรณ์สื่อสารไร้สาย 32% จากจำนวนเครื่องที่จำหน่ายทั้งหมดในตลาดประมาณ 643 ล้านเครื่อง เราพอใจมากกับส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว ด้วยยอดจำหน่ายอุปกรณ์ไร้สายประมาณ 193 ล้านเครื่องในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้เรามีส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 34% ในไตรมาสที่ 4 เนื่องจากเรามีส่วนแบ่งตลาดสูงมากในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก จีน ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา”
“ในไตรมาสที่ 4 เราได้เริ่มจำหน่ายโนเกีย 6630 ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟน 3G รุ่นล่าสุด และได้รับการตอบรับที่ดีมาก โดยมีผู้ให้บริการระบบที่ให้บริการ 3G แล้วกว่า 30 รายที่เสนอแพ็คเกจที่รวมโนเกีย 6630 ไว้ด้วย ส่วนในยุโรปตะวันตก โนเกีย 6230 เป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดในตลาดในไตรมาสที่ 4 ซึ่งเป็นครั้งแรกของตลาดโทรศัพท์มือถือที่มีกล้องดิจิตอลในตัว ในปีที่ผ่านมา เราเปิดตัวอุปกรณ์ไร้สายไปทั้งหมด 36 รายการ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรุ่นที่ติดตั้งกล้องในตัว และเกือบทั้งหมดมีจอสี นอกจากนี้เรายังเปิดตัวโทรศัพท์แบบพับอีก 10 รุ่น และโนเกีย 9300 สมาร์ท โฟนสำหรับองค์กร ตลอดปีที่ผ่านมา เราเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งในตลาดโทรศัพท์มือถือระบบจีเอสเอ็มที่มีกล้องล้านพิกเซล และตลาดสมาร์ทโฟนซึ่งเป็นการรวมเอาคุณสมบัติของคอมพิวเตอร์แบบพกพากับโทรศัพท์มือถือเข้าไว้ด้วยกัน”
นอกจากนี้ มร. โอลลิลา กล่าวต่อว่า ยอดขายระบบเครือข่ายและอัตรากำไรในไตรมาสที่ 4 ยังอยู่ในระดับที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากในปีที่ผ่านมา ผู้ให้บริการระบบมีการลงทุนเพิ่มเติมมาก และโนเกียสามารถนำผลิตภัณฑ์ของเราออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น อัตรากำไรที่แข็งแกร่ง เป็นผลมาจากความสำเร็จด้านความสามารถในการส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการให้กับลูกค้า และการมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายครบวงจร รวมทั้งการเป็นผู้นำในตลาดระบบ 3G WCDMA ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ธุรกิจเครือข่ายของโนเกียก็ประสบความสำเร็จมากในปี 2547 เช่นกัน โนเกียรุกตลาดรัสเซียและอินเดีย รวมทั้งตลาดใหม่ๆ ในตะวันออกกลาง และแอฟริกาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในครึ่งปีหลัง มีการเปิดตัวบริการ 3G เพิ่มขึ้นมากในตลาดที่พัฒนาแล้วหลายแห่ง และมีจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือเพิ่มขึ้นอีกกว่า 16 ล้านรายในตอนปลายปี อีกทั้งโนเกียยังจำหน่ายระบบเครือข่าย 3G ให้กับผู้ให้บริการระบบ 28 รายจากทั้งหมด 63 ราย
“ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่มีการเปลี่ยนแปลงมาก ดังนั้นเราจึงได้ให้ความสำคัญสูงสุดในเรื่องความสัมพันธ์กับลูกค้า ผลิตภัณฑ์ ประสิทธิภาพของการวิจัยและพัฒนา การบริหารอุปสงค์และอุปทาน และความสามารถในการนำเสนอโซลูชั่นครบวงจร โนเกียมีการพัฒนาที่ดีในด้านเหล่านี้ และเชื่อว่าขณะนี้เราอยู่ในฐานะที่แข็งแกร่ง พร้อมที่จะรับมือกับอนาคต” มร. โอลลิลากล่าว
“ผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาสที่ 4 ของเราสะท้อนให้เห็นได้ชัดเจนถึงความสามารถของทีมงาน ในการปรับตัวได้อย่างรวดเร็วและสนองความต้องการของตลาดที่มีการเติบโตมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ผมขอขอบคุณพนักงานโนเกียทุกคนที่ได้ร่วมกันสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า และนำพาโนเกียให้ก้าวไปไกลกว่าที่เราคาด” มร. โอลลิลาสรุป
สำหรับในปี 2548 โนเกียคาดว่าตลาดอุปกรณ์สื่อสารไร้สายจะยังคงเติบโตต่อเนื่องในอัตราประมาณ 10% ทั้งในด้านยอดจำหน่ายตัวเครื่องจาก 643 ล้านเครื่องในปีที่ผ่านมา และในด้านมูลค่า อันเป็นผลมาจากการขยายตัวของตลาดทดแทน ในตลาดที่มีการพัฒนาแล้ว รวมถึงคุณสมบัติการใช้งานใหม่ๆ บริการ และกล้อง ตลอดจนจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือที่เติบโตเพิ่มขึ้นในตลาดใหม่ และการเริ่มให้บริการในระบบ 3G ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้
ในด้านระบบเครือข่าย โนเกียคาดว่าตลาดโดยรวมในปี 2548 จะมีการขยายตัวเพิ่มเติมจากปีก่อนในด้านมูลค่า เนื่องจากผู้ให้บริการระบบจะขยายพื้นที่ให้บริการ และเพิ่มความสามารถในการให้บริการเพื่อรองรับปริมาณผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการขยายเครือข่าย 2G ในหลายๆ ตลาด เครือข่าย 3G ที่มีความสามารถและความเร็วสูงในตลาดที่มีความก้าวหน้ามากๆ จะยังคงเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้เกิดการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
โนเกียคาดการณ์ว่าการแข่งขันในตลาดอุปกรณ์สื่อสารไร้สายจะยังคงเข้มข้นต่อไป เนื่องจากการเติบโตจะช้าลงเล็กน้อย
โนเกีย เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการสื่อสารไร้สายในหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และเป็นผู้พัฒนาและจำหน่ายเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ที่เต็มไปด้วยความสร้างสรรค์ ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคในประเทศต่างๆ ประมาณ 20 ประเทศ ทั่วภูมิภาค
โนเกีย เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการสื่อสารไร้สายของโลกที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนของธุรกิจด้านการสื่อสาร โนเกียมุ่งมั่นที่ช่วยให้ผู้คนสื่อสารกันและเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานง่ายและสร้างสรรค์มากมายอาทิ โทรศัพท์มือถืออุปกรณ์ไร้สายและโซลูชั่นด้านภาพดิจิตัล เกม สื่อไร้สาย โซลูชั่นสำหรับองค์กรต่างๆ โนเกียเป็นผู้สร้างสรรค์ลำนำเสนออุปกรณ์ โซลูชั่น และบริการให้แก่ ผู้ให้บริการระบบและองค์กรชั้นนำ
ผู้สนใจสามารถชมเว็บไซต์เพื่อเรียกดูข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ http://www.nokia.com
