ดั๊บเบิ้ล เอ ลุยเอเชี่ยนทัวร์ปลายปีก่อนถึงแมทช์ปิดท้ายเตรียมให้นักกอล์ฟล่าเงินรางวัลอีก 12 ล้าน

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ – การตลาด ดั๊บเบิ้ล เอ กล่าวว่า ดั๊บเบิ้ล เอ ได้เซ็นสัญญากับ นายแพททริก ยัง (Mr. Patrick Young) Director – Tour Development เอเชี่ยน ทัวร์ เพื่อจัดการแข่งขันกอล์ฟ “ดั๊บเบิ้ล เอ อินเตอร์เนชั่นแนล โอเพ่น” (Double A International Open) ระหว่างวันที่ 14 – 20 พฤศจิกายน 2548 (แข่งขันจริงเริ่มวันที่ 17) ในประเทศไทย โดยมีนักกอล์ฟ 60 อันดับแรกของอันดับเงินรางวัลสะสมร่วมแข่งขัน ซึ่งในเบื้องต้นมีผู้ตอบรับเข้าร่วมการแข่งขันแล้ว อาทิ “โปรเล็ก” ถาวร วิรัตน์จันทร์ อันดับ 1 ของตารางทำเงินในเอเชียขณะนี้, “ไอ้หนุ่มเทอร์โบ” ประหยัด มากแสง และ “โลมายักษ์” พรหม มีสวัสดิ์ นอกจากนี้ก็มีนักกอล์ฟชาวต่างชาติที่อยู่ในอันดับเงินรางวัลของเอเชี่ยนทัวร์ อาทิ โจติ รันดาวา จากอินเดีย, สก็อต บาร์, เทอรรี่ พิลกาดาริส จากออสเตรเลีย, เจมส์ คิงสตั้น จากแอฟริกาใต้ และ ไซมอน เยตส์ จาก สก็อตแลนด์ เป็นต้น โดยมีบริษัท ลีดดิ้ง เอดจ์ สปอร์ต จำกัด เป็นผู้ประสานงาน

“สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ที่ดั๊บเบิ้ล เอ ได้จัดขึ้น ถือเป็นการร่วมสนับสนุนกีฬาในระดับสากลเพื่อให้สอดคล้องกับคอนเซปท์ของกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ คือ No Jam No Stress และสอดคล้องกับนโยบายในการสร้างโกลบอล แบรนด์หรือสร้างแบรนด์ไทยสู่สากล โดยเฉพาะในเอเชียซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ ประสบความสำเร็จในการทำตลาดเป็นอย่างมาก โดยขณะนี้ดั๊บเบิ้ล เอ มีการสร้างแบรนด์ในต่างประเทศแล้วถึง 8 ประเทศ อาทิ มาเลเซีย ฮ่องกง สิงคโปร์ ไต้หวัน เกาหลี จีน ออสเตรเลีย และเนเธอร์แลนด์ รวมทั้งส่งออกไปกว่า 60 ประเทศทั่วโลก อีกเหตุผลหนึ่งคือดั๊บเบิ้ล เอ ต้องการจะส่งเสริมให้นักกีฬากอล์ฟไทยได้เข้าแข่งขันในระดับอาชีพมากขึ้น และกีฬากอล์ฟถือเป็นจุดดึงดูดสำคัญอันหนึ่งของการท่องเที่ยวไทย เพราะสนามกอล์ฟของไทยอยู่ในทำเลที่ดี มีมาตรฐาน มีบริการและความสะดวกสบายครบครัน ดังนั้นการแข่งขันครั้งนี้จะเป็นการประชาสัมพันธ์ที่ดีให้กับการท่องเที่ยวของไทยและช่วยสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยอีกทางหนึ่ง” นายชาญวิทย์ กล่าว

ทางด้านโปรเล็ก ถาวร วิรัตน์จันทร์ นักกอล์ฟอันดับ 1 ของตารางทำเงินในเอเชีย กล่าวว่า ดั๊บเบิ้ล เอ ถือเป็นบริษัทเอกชนคนไทยเป็นแห่งแรกที่เข้ามาสนับสนุนการจัดการแข่งขันกอล์ฟในระดับนานาชาติเป็นครั้งแรก จึงนับว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ทำให้วงการกอล์ฟมีความคึกคักอยู่อย่างต่อเนื่อง และการที่ภาคธุรกิจเข้ามามีส่วนในการสนับสนุนการแข่งขันกอล์ฟในระดับนี้ ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาอนาคตของคนไทยและเยาวชนในการที่จะสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ และคาดว่าในการแข่งขันครั้งนี้จะสามารถคว้าแชมป์มาได้เช่นเดียวกัน เพราะการได้แข่งขันในประเทศทำให้รู้สึกมั่นใจและเล่นได้ดี ซึ่งสำคัญมากในการชิงตำแหน่งนักกอล์ฟหมายเลขหนึ่งของเอเชียในช่วงปลายปีนี้

นายชาญวิทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การแข่งขันดั๊บเบิ้ล เอ อินเตอร์เนชั่นแนล โอเพ่น ในครั้งนี้จะมีการถ่ายทอดผ่านรายการสตาร์ สปอร์ต ทางยูบีซี และสถานีโทรทัศน์โดยเฉพาะช่องกีฬาของประเทศต่างๆ อาทิ รายการสตาร์ สปอร์ต ในประเทศจีน เกาหลี ฟิลิปปินส์ ฮ่องกง มาเก๊า เวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย บรูไน ปาปัวนิวกินี เนปาล บังคลาเทศ และไต้หวัน รวมทั้งสกายเน็ตเวิร์ค ที่ประเทศนิวซีแลนด์ และฟอกซ์สปอร์ต ในประเทศออสเตรเลีย และมีการแจ้งความคืบหน้าของการแข่งขันเป็นระยะๆ ต่อไป