เอไอเอส นำโด่งในธุรกิจบริการเสริม “โมบายไลฟ์” มาวินเติบโตต่อเนื่อง ผ่านไปครึ่งปีแรก รายได้เป็นไปตามเป้า พร้อมยอดผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของ Wap portal และ GPRS อยู่ที่กว่า 4 ล้านราย ครึ่งปีหลังเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าที่ยังไม่เคยใช้บริการกว่า 11 ล้านคน ด้วยการจับมือร้านเทเลวิซ พัฒนาโครงการ “โมบายไลฟ์ สปิริต” ติวเข้มเรื่องบริการเสริมและเทคนิคการขาย ปั้นพนักงานขายหน้าร้าน เป็น “ทูตโมบายไลฟ์” กว่า 500 คนประจำที่ร้านเทเลวิซทั่วประเทศ พร้อมให้คำแนะนำบริการกับลูกค้าในระดับท้องถิ่นแบบใกล้ชิด ด้านผู้รับสิทธิร้านเทเลวิซต่างขานรับนโยบาย เน้นขายบริการเสริมโมบายไลฟ์ เป็นแหล่งรายได้ใหม่ที่มีการเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี ทดแทนการขายซิมการ์ดและมือถือที่มีอัตราลดลง
นายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ส่วนงานธุรกิจสื่อสารไร้สาย เอไอเอส เปิดเผยว่า “ นับตั้งแต่ต้นปี 2548 ที่เอไอเอสเน้นทำตลาดบริการเสริมเติบโตต่อเนื่อง ด้วยกลยุทธ์ 3A คือ Availability : บริการที่หลากหลาย, Affordability : ค่าบริการที่เหมาะสม และ Accessibility : การเข้าถึงบริการได้ง่ายนั้น พบว่าโมบายไลฟ์ประสบความสำเร็จเป็นไปตามเป้าที่วางไว้เป็นอย่างดี โดยในครึ่งปีแรก สามารถทำรายได้ถึงประมาณ 4,900 ล้านบาท และมียอดผู้ใช้บริการโมบายไลฟ์พลาซ่า และ GPRS อยู่ที่ 4 ล้านราย ทั้งนี้จะเห็นได้ว่ายังมีลูกค้าอีกกว่า 11 ล้านราย ที่ยังไม่เคยใช้บริการ จึงเป็นโอกาสทางการตลาดให้เอไอเอสสามารถเข้าไปแนะนำประโยชน์ของบริการเสริมให้ลูกค้ารู้จักและเกิดการใช้งานเพิ่มขึ้นได้อีกมาก”
“ดังนั้น ในครึ่งปีหลัง เราจึงเน้นพัฒนาความสะดวกของช่องทางในการเข้าถึงบริการให้เข้มข้นยิ่งขึ้น เพื่อเน้นกลุ่มลูกค้าที่ยังไม่เคยใช้บริการมาก่อน โดยเอไอเอสได้ร่วมกับร้านเทเลวิซทั่วประเทศ พัฒนาโครงการ “โมบายไลฟ์ สปิริต” ขึ้น เพื่อรวมพลังพันธมิตรร้านเทเลวิซกว่า 500 ร้านทั่วประเทศ ช่วยกันสร้างทีมขายที่แข็งแกร่งเพื่อส่งมอบบริการโมบายไลฟ์ในถึงมือลูกค้าแบบลงลึกถึงระดับท้องถิ่น ด้วยการสร้างทีม “โมบายไลฟ์ แอมบาสเดอร์” หรือ ทูตโมบายไลฟ์ โดยเชิญตัวแทนพนักงานร้านเทเลวิซเข้ามาฝึกอบรมหลักสูตรความรู้เกี่ยวกับบริการเสริม, เทคนิคการขาย และการดูแลลูกค้า เพื่อพัฒนาความสามารถของพนักงานขายทั่วไป ให้กลายเป็นโมบายไลฟ์ แอมบาสเดอร์ ทำหน้าที่คอยให้คำแนะนำ, สอนวิธีการใช้งาน ตลอดจนเชิญชวนให้ลูกค้าใช้บริการ นอกจากนี้ รวมถึงถ่ายทอดความรู้ให้กับเพื่อนๆ ในร้าน แล้วให้เข้ามาสอบวัดผลเป็นทูตโมบายไลฟ์ได้อีกด้วย โดยได้เริ่มฝึกอบรมตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2547 จำนวนทั้งหมด 27 รุ่น และขณะนี้มีทูตโมบายไลฟ์จำนวน 500 คนกระจายอยู่ทั่วประเทศ”
“นอกจากนี้ยังได้สร้างรูปแบบของการคิดส่วนแบ่งค่าตอบแทนจากการขายบริการเสริมให้กับเจ้าของร้านเทเลวิซ เพื่อเป็นแหล่งรายได้ใหม่ให้กับร้านเทเลวิซอีกด้วย” นายสมชัยกล่าว
นายตุลย์ สมสมาน, ผู้อำนวยการสำนักบริหารช่องทางการตลาด เอไอเอส กล่าวเพิ่มเติมในมุมมองของผู้ที่มีหน้าที่ในการดูแลตัวแทนจำหน่ายว่า “ ทางด้านตัวแทนจำหน่ายผู้รับสิทธิร้านเทเลวิซต่างยินดีให้ความร่วมมือกับโครงการ “โมบายไลฟ์ สปิริต” เป็นอย่างมาก เพราะโครงการดังกล่าวนอกจากจะเป็นการฝึกอบรมให้พนักงานร้านเทเลวิซทุกคนมีความรู้ และความเชี่ยวชาญ พร้อมที่จะแนะนำการใช้งานบริการเสริมต่างๆ ของ mobileLIFE ให้แก่ผู้ใช้บริการได้อย่างถูกต้องแล้ว ยังถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางใหม่ที่จะสร้างโอกาส , ความก้าวหน้าและรายได้ให้กับร้านเทเลวิซทั่วประเทศซึ่งปัจจุบันมีอยู่กว่า 500 แห่งอีกด้วย”
“โดยเอไอเอสได้จัดแคมเปญมากมาย เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้ผู้รับสิทธิและพนักงานร้านเทเลวิซที่เป็นโมบายไลฟ์แอมบาสเดอร์ ได้รับสิทธิประโยชน์และผลตอบแทนจากการแนะนำบริการเสริมให้แก่ลูกค้าในโครงการ “โมบายไลฟ์ สปิริต” ไม่ว่าจะเป็นการสมัครแพ็คเกจบริการเสริมแบบรายเดือน (mobileLIFE Top Up) ให้แก่ลูกค้า เช่น แพ็คเกจ GPRS, SMS, MMS, M2G, Infotainment และบริการ Calling Melody เป็นต้น , การดาวน์โหลดโลโก้, ริงโทน, วอลล์เปเปอร์ ฯลฯ ผ่าน IVR ให้แก่ลูกค้า , การแนะนำซอฟแวร์ โดยเฉพาะเกมส์ต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าดาวน์โหลดได้ง่ายๆ , โครงการส่งเสริมการขายต่างๆ ที่เอไอเอสจัดขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อเป็นการขอบคุณและมอบโชคให้แก่ลูกค้า รวมไปถึงโครงการ mobileLIFE Championship Reward และกิจกรรมที่เข้ามากระตุ้นและส่งเสริมการขายให้แก่ผู้รับสิทธิร้านเทเลวิซ เช่น โครงการ “เทเลวิซ เทโชค” ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าที่สมัครบริการเสริม mobileLIFE Top Up ต่างๆ ที่ร้านเทเลวิซ รวมทั้งพนักงานร้านเทเลวิซสามารถร่วมลุ้นรับโชคได้ เป็นต้น”
ทั้งนี้ นายตุลย์กล่าวเพิ่มเติมว่า “เอไอเอสเชื่อมั่นว่าโครงการ “โมบายไลฟ์ สปิริต” ที่สร้างให้พนักงานของร้านเป็นเสมือนทูตโมบายไลฟ์นั้น เป็นโครงการที่มีประโยชน์ในการช่วยพัฒนาความรู้ และความสามารถของบุคลากรร้านเทเลวิซให้สามารถมอบบริการที่ตรงใจให้กับผู้ใช้บริการ ซึ่งก็สอดคล้องกับนโยบายด้านการให้บริการของเอไอเอสเอง อีกทั้งเป็นการช่วยส่งเสริมการดำเนินธุรกิจของพันธมิตรร้านตัวแทนจำหน่ายให้เข้มแข็ง และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นต่อไป” นายตุลย์ กล่าวสรุป