โคโลนี่ แคปิตอล เข้าทำสัญญาซื้อโรงแรมหรู 41 แห่งจากแรฟเฟิลส์ โฮลดิ้งส์

สิงคโปร์–(บิสิเนส ไวร์)–17 ก.ค. 2548 โคโลนี่ แคปิตอล แอลแอลซี (Colony Capital, LLC) บริษัทเงินทุนระหว่างประเทศชั้นนำ ด้วยประสบการณ์มากกว่า 15 ปีด้านการลงทุนในสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับโรงแรมระดับโลก ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทได้เข้าทำสัญญาซื้อหุ้นโรงแรมทั้งหมดของแรฟเฟิลส์ โฮลดิ้งส์ ลิมิเต็ด (Raffles Holdings Limited) ซึ่งประกอบด้วยโรงแรมแรฟเฟิลส์ โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท (Raffles Hotels & Resorts) 15 แห่ง และ สวิสโซเทล โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท (Swissotel Hotels & Resorts) 26 แห่งใน 35 จุดหมาย คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

การดำเนินการในครั้งนี้ ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในสิ้นปีนี้และต้องได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นนั้น รวมถึงแรฟเฟิลส์ โฮเทล สิงคโปร์ อันโด่งดัง ซึ่งเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับโรงแรมที่สำคัญที่สุดของโลกและเป็นเสาหลักของอุตสาหกรรมโรงแรมของสิงคโปร์

โทมัส เจ. บาร์แรค ประธานกรรมการและซีอีโอของโคโลนี่ แคปิตอล กล่าวว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติที่จะได้เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบหนึ่งในเครือโรงแรมที่เยี่ยมที่สุดของโลก และเป็นทรัพย์สมบัติแห่งชาติของชาวสิงคโปร์อย่างแท้จริง”

“ความสำเร็จของโรงแรมเหล่านี้มาจากการอุทิศตัวและความเป็นมืออาชีพของคณะผู้บริหารและทีมงาน โคโลนี่ตระหนักดีถึงความจำเป็นที่จะรักษาทีมบริหารและพนักงานที่มีความสามารถและประสบการณ์เอาไว้ และเราตั้งตารอที่จะได้ร่วมงานกับพวกเขา เราให้ความเคารพต่อความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของแรฟเฟิลส์ โฮเทล สิงคโปร์ และมองว่าการปกป้องคุ้มครองมรดกชิ้นนี้เป็นความรับผิดชอบของเรา เรายินดีที่เจนนี่ ฉั่ว ตกลงเป็นประธานกรรมการของแรฟเฟิลส์ โฮเทล สิงคโปร์ต่อไป เพื่อความต่อเนื่องและการสนับสนุนความพยายามต่างๆของเรา”

ขณะที่แกรนท์ แอล. เคลลีย์ ซีอีโอของโคโลนี่ แคปิตอล เอเชีย กล่าวว่า “กลยุทธ์ในการทำธุรกิจของเราเกี่ยวข้องกับการจัดวางตำแหน่งและการขยายแบรนด์โดยพื้นฐาน สิ่งที่สำคัญเป็นอันดับแรกของเราก็คือการเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบแบรนด์แรฟเฟิลส์ จากนั้น เราก็จะมุ่งมั่นสานต่อการเติบโตของแบรนด์แรฟเฟิลส์และสวิสโซเทลตลอดหลายปีข้างหน้า ตลอดจนส่งเสริมพันธะสัญญาของโรงแรมเหล่านี้ในการก้าวไปสู่มาตรฐานระดับโลกของผลิตภัณฑ์และบริการที่ไม่มีใครเทียบเท่า”

โคโลนี่ระบุว่า บริษัทมีแผนที่จะดำเนินกิจการทั้งหมดต่อไปภายใต้สัญลักษณ์ในปัจจุบัน และมองหาโอกาสต่างๆที่จะทำให้แฟรนไชส์นี้ขยายตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเอเชีย

วิลกี ฟาร์ แอนด์ กัลลาเกอร์ แอลแอลพี (Willkie Farr & Gallagher LLP) และ ไวท์ แอนด์ เคส แอลแอลพี (White and Case LLP) จะรับหน้าที่เป็นที่ปรึกษากฎหมาย ส่วนซีไอบีซี เวิลด์ มาร์เก็ต (CIBC World Markets) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้แก่โคโลนี่

เกี่ยวกับโคโลนี่ แคปิตอล
โคโลนี่ แคปิตอล แอลแอลซี คือบริษัทด้านการลงทุนระหว่างประเทศที่ดำเนินงานโดยเอกชน ซึ่งให้ความสนใจในด้านสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์และบริษัทที่กำลังดำเนินการเป็นหลัก นับตั้งแต่ปี 2534 โคโลนี่ แคปิตอล ลงทุนมากกว่า 1.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ในสินทรัพย์มากกว่า 8,000 รายการผ่านทางการซื้อขายองค์กรธุรกิจและอสังหาริมทรัพย์แบบคอมเพลกซ์ที่หลากหลาย บริษัทเป็นเจ้าของสถานที่พักตากอากาศที่เป็นตำนานอย่างคอสตา สเมราลด้า (Costa Smeralda) ในซาร์ดีเนีย ประเทศอิตาลี และโรงแรม โฮเทล กัวนาฮานี (Hotel Gusnahani) ในเซนต์ บาร์ต การลงทุนอื่นๆของโคโลนี่ที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจและสันทนาการระดับเอ็กซ์คลูซีฟ ได้แก่ เครือโรงแรมอามันรีสอร์ท (Amanresorts), ซาวอย กรุ๊ป (Savoy Group) ในลอนดอน, ดิ ออคิด (the Orchid) ที่มัวนา ลานี บนเกาะบิ๊ก ไอส์แลนด์ ของฮาวาย, เดอะ สแตนโฮป โฮเทล (The Stanhope Hotel) ในนิวยอร์ก ซิตี้, the “W” ในโฮโนลูลู, รีสอร์ท อินเตอร์เนชั่นแนล (Resorts International) ในแอตแลนติก ซิตี้, แอตแลนติก ซิตี้ ฮิลตัน (Atlantic City Hilton), ลาสเวกัส ฮิลตัน (Las Vegas Hilton) และแอคคอร์ คาสิโน (Accor Casinos) ในยุโรป

โคโลนี่มีพนักงานมากกว่า 110 คน และมีสำนักงานใหญ่อยู่ในลอสแองเจลิส พร้อมด้วยสำนักงานสาขาในนิวยอร์ก บอสตัน ฮาวาย ปารีส ลอนดอน มาดริด โรม เบรุต ฮ่องกง โตเกียว ไทเป เซี่ยงไฮ้ และโซล โคโลนี่นำโดยผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการ โทมัส เจ. บาร์แรค จูเนียร์ และในเอเชีย นำโดย แกรนท์ แอล. เคลลีย์ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาดูที่ www.colonyinc.com