นายสุรนันท์ วงศ์วิทยกำจร เลขาธิการคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) เปิดเผยว่า สำนักงาน กทช.กำหนดให้วันที่ 28 กรกฎาคม 2548 นี้ เป็นวันระดมความคิดเห็น เรื่องแผนจัดสรรเลขหมายโทรคมนาคม และหากเรื่องลักษณะใบอนุญาตประเภทสามผ่านความเห็นชอบจากการประชุมบอร์ด กทช.(เมื่อ15 ก.ค.48) จะจัดระดมความคิดเห็นในวันเดียวกับแผนเลขหมายฯ ใช้เวลาในช่วงครึ่งวันเช้า ซึ่งขณะนี้เรื่องเลขหมายมีความชัดเจนแน่นอนว่าจะร่วมกับตัวแทนจากทุกหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องโดยตรง ประมาณ 25-30 ราย ตั้งแต่เวลา 13.30-16.30 น. ณ อาคารหอประชุมชั้น 2 สำนักงาน กทช. ถนนพหลโยธินชอย 8 สามเสนใน พญาไท กรุงเทพฯ
พร้อมกันนี้ กทช.ได้เตรียมจัดระดมความคิดเห็นเรื่อง แนวทางการแข่งขันโดยเสรีและเป็นธรรมและเรื่องการกระจายบริการด้านโทรคมนาคมให้ทั่วถึงและเท่าเทียมกันทั่วประเทศ (USO) ภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้เช่นเดียวกัน
ในระหว่างนี้ทีมงานตรียมการทำประชาพิจารณ์ (แผนเลขหมายโทรคมนาคม) เร่งจัดส่งหนังสือเชิญและเอกสารประกอบการระดมความคิดเห็นให้แก่ผู้ประกอบการและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งเอกสารดังกล่าวจะประกอบด้วย ร่างแผนเลขหมายโทรคมนาคม หลักเกณฑ์การจัดสรรและอนุญาตฯ การคิดอัตราค่าธรรมเนียมเลขหมายฯ และร่างเอกสารรับฟังความคิดเห็นฯ ส่วนกรณีของประชาชนทั่วไป และกลุ่มองค์กรอิสระอื่นๆ สามารถแสดงความคิดเห็นผ่านเว็บไซด์ของ กทช.ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนถึงสิ้นเดือน
“ขณะนี้การจัดส่งเอกสารประกอบการประชาพิจารณ์ทั้งหมดสามารถจัดส่งได้ทันภายในระยะเวลาที่กำหนด ทั้งนี้ สำนักงาน กทช. ได้จัดส่งเอกสารล่วงหน้าเพื่อให้เวลาแก่ผู้เกี่ยวข้องในทุกภาคส่วนมีเวลาศึกษาข้อมูลร่างแผนเลขหมายโทรคมนาคม หลังจากเปิดรับฟังความคิดเห็นอย่างเป็นทางการแล้ว ทีมงานจัดทำแผนดังกล่าวจะเร่งสรุปผล ซึ่งใช้เวลาอีกประมาณ 1 สัปดาห์ จึงจะนำแผนที่ปรับปรุงแล้วเข้าสู่ที่ประชุมบอร์ด กทช. เพื่อให้ความเห็นชอบอีกครั้ง” เลขาธิการกทช.กล่าว
เมื่อผ่านความเห็นชอบ จากการประชุมบอร์ด กทช.อีกรอบ จะส่งร่างประกาศฉบับปรับปรุงแก้ไขส่งไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษา คาดว่าจะแล้วเสร็จในราวเดือนกันยายน 2548 และมีผลบังคับใช้ประมาณต้นปี 2549
ทั้งนี้ระหว่างที่ยังไม่มีผลบังคับตามกฎหมาย กทช. ได้ให้เวลาแก่ผู้ประกอบการ ผู้ให้บริการ มีเวลาเตรียมตัวปรับปรุงระบบข้อมูลเรื่องเลขหมายเป็นระยะเวลาประมาณ 45 วัน นอกจากนี้กทช.ยังต้องเร่งทำความเข้าใจกับประชาชนให้ทราบล่วงหน้า ว่าภายหลังประกาศใช้แผนเลขหมายโทรคมนาคมแล้ว หมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้กันอยู่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งระบบมือถือและโทรศัพท์พื้นฐาน
อย่างไรก็ตามแผนเลขหมายโทรคมนาคมฉบับใหม่ ได้เสนอกรอบการจัดสรรเพื่อให้มีผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด ต้องไม่ก่อให้เกิดภาระต่อผู้ประกอบการ ทั้งผู้ให้บริการ โทรศัพท์ประจำที่ เคลื่อนที่ และผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่มากเกินความจำเป็น รวมถึงต้องสนับสนุนให้เกิดการแข่งขันด้านการให้บริการกิจการโทรคมนาคมอย่างเป็นธรรม ส่งเสริมเรื่องสิทธิการคงเลขหมายได้ ต้องสามารถรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆได้ และต้องมีจำนวนมากพอที่จะรองรับการใช้งานได้ในอีก 30 ปีข้างหน้า
