ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ย้ำความเป็นผู้นำบ้านระดับกลาง

บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่ เป็นโครงการที่ 3 ของปี 2548 “โครงการบ้านบุรีรมย์ ศรีนครินทร์-วงแหวนฯ-สุวรรณภูมิ-เทพารักษ์” ในราคาที่เป็นเจ้าของได้เริ่มต้นเพียง 1.99-3.5 ล้านบาท รวมมูลค่าประมาณ 700 ล้านบาท พร้อมรับข้อเสนอพิเศษ สำหรับผู้ที่จองบ้านภายในงานเปิดตัวโครงการในวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 30-31 กรกฎาคม 2548

นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้ชื่อ “LALIN Property” ของบริษัทลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า หลังจากที่ประเดิมต้นปีที่ผ่านมาด้วย บ้านเดี่ยวใหม่ 2 ทำเล “บ้านบุรีรมย์” ใน 2 ทำเลศักยภาพ วงแหวน-ปิ่นเกล้า และพระราม 2-เอกชัย ไปแล้ว และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ในโอกาสนี้จึงเดินหน้าเปิดโครงการใหม่เป็นโครงการที่ 3 ในปีนี้ ได้แก่

โครงการบ้านบุรีรมย์ ศรีนครินทร์-วงแหวนฯ-สุวรรณภูมิ-เทพารักษ์ มูลค่าโครงการประมาณ 700 ล้านบาท ขนาดโครงการ 49 ไร่ รวม 300 ยูนิต ในราคาเพียง 1.99-3.5 ล้านบาท

สำหรับบ้านในโครงการ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่
บ้านแนวคิดใหม่ ประกอบด้วยแบบบ้าน 2 แบบ ได้แก่ แบบบ้านลิลลี่ และ แบบบ้านอออคิด : 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, ที่จอดรถ 1 คัน, พื้นที่ใช้สอย 115 ตารางเมตร
บ้านเดี่ยว ขนาด 50 ตารางวา ประกอบด้วย แบบบ้าน 2 แบบ ได้แก่ แบบบ้านแคทลียา และ แบบบ้านทิวลิป : 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, ที่จอดรถ 1 คัน, พื้นที่ใช้สอย 130 ตารางเมตร
บ้านเดี่ยว ขนาด 54 ตารางวา ประกอบด้วยแบบบ้าน 2 แบบ ได้แก่ แบบบ้านแวนด้า และ แบบบ้านคาร์เนชั่น : 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ, ที่จอดรถ 2 คัน, พื้นที่ใช้สอย 150 และ 160 ตารางเมตรตามลำดับ

โครงการใหม่บ้านบุรีรมย์ ตั้งอยู่ในทำเลพื้นที่โซนตะวันออก เพียง 4 กิโลเมตรจากแยกเทพารักษ์ มีจุดเด่นของทำเลที่ตั้ง คือ ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ เพียง 7 กิโลเมตร ติดวงแหวนรอบนอกตะวันออก ใกล้ทางด่วนดินแดงบางนา และโครงการทางด่วนขั้นที่ 3 แสดงให้เห็นถึงการเดินทางที่สะดวกสบายในอนาคต ร่วมถึงบรรยากาศโครงการที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่ร่มรื่นสไตล์ รีสอร์ท ครบครันด้วยระบบสาธารณูปโภค คลับเฮ้าส์ สระว่ายน้ำ-ห้องออกกำลังกาย สวนส่วนกลางและสวนสาธารณะที่สวยงามที่มีพื้นที่มากกว่า 2 ไร่ มีทะเลสาบ ตกแต่งด้วยบรรยากาศที่อบอุ่น ทั้งนี้ยังอยู่ใกล้กับสถานที่อำนวยความสะดวกอีกมากมาย อาทิเช่น ห้างโลตัส, คาร์ฟู, แม็คโครศรีนครินทร์, บิ๊กซีบางพลี, โรงเรียนสาธิตบางนา, โรงเรียนเซ็นโยเซฟบางนา, โรงเรียนเซ็นโยเซฟทิพย์วัล, โรงเรียนอัสสัมชันสำโรง, โรงพยาบาลศิครินทร์ โรงพยาบาลวชิรปราการ เป็นต้น

ทั้งนี้ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ได้จัดงานเปิดตัวโครงการใหม่บ้านบุรีรมย์ ศรีนครินทร์-วงแหวนฯ-สุวรรณภูมิ-เทพารักษ์ ขึ้นในวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ 30-31 กรกฎาคม 2548 นี้ และยังได้มอบข้อเสนอสุดพิเศษจองบ้านภายในงาน ได้แก่
1. ดาวน์เพียง 50,000 บาท
2. ส่วนลดพิเศษ มูลค่า 200,000 – 500,000 บาท
3. จัดสวนสวยฟรี! สำหรับแบบบ้านแนวคิดใหม่และบ้านเดี่ยว มูลค่า 300,000 – 500,000 บาท (จำนวนจำกัด)

“เนื่องด้วยทางโครงการมีการบริหารชุมชนหลังการขายด้วยระบบกองทุนสาธารณูปโภคทำให้ชุมชนมีสาธารณูปโภคที่ดีตั้งแต่ปัจจุบันจนถึงอนาคต และผมจึงเชื่อมั่นว่า ผู้บริโภคที่มี Life Style สอดคล้องกับผู้บริหารรุ่นใหม่ที่ซื้อบ้านในโครงการของลลิล พร็อพเพอร์ตี้แล้วจะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่สมบูรณ์แบบกับสังคมคุณภาพ ในราคาที่สมเหตุสมผลอย่างแน่นอนครับ” นายไชยยันต์กล่าวในที่สุด

ประเด็นข่าวเพิ่มเติม
– ภายในปีนี้จะเปิดโครงการใหม่อย่างน้อย 1 โครงการ เป็นแนวราบ มูลค่าพอๆ กับที่บุรีรมย์ ศรีนครินทร์ วงแหวน เทพารักษ์
– ตั้งเป้าเติบโตทั้งปี 15-20% และถ้าดูผลประกอบการถึง ณ ปัจจุบัน อยู่ในเกณฑ์ที่สามารถทำให้ถึงเป้าได้แน่นอน ส่วนตลาดรวมโต 10-15 %
– ภาพรวมของบริษัท ผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 และ 4 ดีกว่าไตรมาสที่ 1-2
– ปัจจัยที่ทำให้บริษัท สามารถรักษายอดขายได้ในภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน คือ การวางกลยุทธ์ในการบริหารที่ดี การสร้างผลิตภัณฑ์ได้ตรงใจลูกค้า และมีกองทุนที่ดูแลเรื่องบริการหลังการขาย
– ตอนนี้บริษัทมีโครงการที่ดำเนินการขายอยู่ 14 โครงการ มีสต๊อกบ้าน 500-600 ยูนิต คิดว่าขายได้เดือนละ 100 ยูนิตก็น่าจะอยู่ได้
– ตอนนี้บ้านราคาต้นทุนเดิมยังมีพอขายไปจนหมดไตรมาส 3 แต่บ้านต้นทุนใหม่ก็มีการก่อสร้างไปบ้างแล้ว ราคาต้นทุนก่อสร้างปรับขึ้นประมาณ 5-7 %
– นโยบายของบริษัท จะสร้างบ้านให้เสร็จ 80-90 % ก่อนแล้วค่อยเปิดโครงการขาย
– สำหรับโครงการบ้านบุรีรมย์ ศรีนครินทร์ วงแหวน เทพารักษ์ เป็นบ้านสร้างเสร็จก่อนขาย จะมีบ้านในล๊อตแรกที่สร้างเสร็จพร้อมโอนได้ในไตรมาส 3 จำนวน 50-60 ยูนิต
– ภาพรวมอสังหาฯ ยังมีการเติบโตอยู่ แต่จะมีความต้องการที่แท้จริงเพิ่มมากขึ้น ในส่วนของผู้ประกอบการเป็นมืออาชีพ รายเล็กๆ ไม่ค่อยมีแล้ว การแข่งขันจะวัดกันที่ตัวสินค้า ศักยภาพของทำเล และราคาที่เหมาะสม ส่วนเรื่องของสินเชื่อ แบงก์มีการเข้มงวดมากขึ้น เพราะเค้ามีบทเรียนแล้ว ต้องเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น
– ตลาดบ้านระดับกลาง-ล่าง และคอนโดไม่เกิน 1 ล้าน ขายดี ปิดการขายได้เร็ว
– กำลังซื้อระดับกลางอาจจะกระทบจากราคาน้ำมันที่ขึ้นราคา ทำให้ผู้บริโภคใส่ใจในการเลือกที่อยู่อาศัยมากขึ้น เป็นโอกาสดีของลลิลฯ เพราะสร้างบ้านได้คุณภาพ และราคาที่เหมาะสมอยู่แล้ว
– 6 เดือนที่เหลือ ลลิลฯ ไม่เน้นการลดแลกแจกแถม แต่จะเน้นที่ตัวสินค้าที่ตรงใจผู้บริโภคมากกว่า
– ระยะเวลาการตัดสินใจของผู้บริโภคช้าลง เดิมใช้เวลา 7 วัน ถึง 1 เดือน ตอนนี้ใช้เวลา 2-3 เดือน
– ในภาวะดอกเบี้ยขึ้น คิดว่าน่าจะมีการวางแผนจับมือกับแบงก์ออกแคมเปญพิเศษอีกครั้ง
– การทำการตลาด จะทำแบบคืนกำไรให้กับผู้บริโภค ใช้งบการตลาดประมาณ 3% ซึงถือว่าน้อยลง โดยจะเอาบางส่วนไปคืนกำไรให้กับผู้บริโภค