ฟิล มิคเคลสันคว้าแชมป์พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ

คาร์ลสแบด, แคลิฟอร์เนีย–(บิสิเนส ไวร์)–15 ส.ค.2548 แม้ว่าจะต้องเลื่อนการแข่งขันเนื่องจากพายุฝนและแสงสว่าง หรือต้องเจอกับการระเบิดฟอร์มสุดแรงในรอบสุดท้ายของ 4 นักกอล์ฟ ก็ไม่สามารถหยุดยั้ง ฟิล มิคเคลสัน จากการคว้าแชมป์พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพในวันนี้ได้ โดยหลังจากที่การแข่งขันต้องเลื่อนออกไปเนื่องจากพายุฝนที่เป็นอุปสรรคต่อการแข่งในรอบสุดท้ายของวันอาทิตย์ มิคเคลสันก็ได้กลับคืนสู่สนามบัลตัสโรล กอล์ฟ คลับในเช้าวันนี้เพื่อจบรอบการแข่งที่เขายังเล่นค้างอยู่ โดยเขาทำเบอร์ดี้ที่หลุม 72 เพื่อปิดรอบที่ 72 ด้วยสกอร์รวม 4 อันเดอร์พาร์ 276 นำโธมัส บียอร์นและสตีฟ เอลคิงตัน โปรกอล์ฟที่ใช้อุปกรณ์ของคัลลาเวย์เหมือนกันอยู่ 1 สโตรค ชัยชนะในเมเจอร์สุดท้ายของปีครั้งนี้ทำให้มิลเคลสันครองแชมป์รายการเมเจอร์เป็นครั้งที่ 2 ใน 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา และนับเป็นชัยชนะครั้งที่ 4 ของเขาในปีนี้ รวมทั้งเป็นชัยชนะในรายการเมเจอร์ แชมเปี้ยนชิพครั้งที่ 5 ของปีสำหรับไดรฟ์เวอร์รุ่น เอฟที-3 รวมทั้งเป็นชัยชนะในรายการเมเจอร์ของปีนี้เป็นครั้งที่ 4 สำหรับลูกกอล์ฟรุ่นเอชเอ็กซ์ ทัวร์

เช่นเดียวกับชัยชนะทุกครั้งที่ผ่านมาในปีนี้ มิคเคลสันเลือกใช้ไดรฟ์เวอร์รุ่น บิ๊ก เบอร์ท่า ฟิวชั่น เอฟที-3, หัวเหล็กรุ่น คัลลาเวย์ กอล์ฟ เอ็กซ์-ทัวร์ (3-PW), ฟอร์จ+เวดจ์ของคัลลาเวย์ กอล์ฟ (แบบ 52, 56 และ 60 องศา), เบลด พัตเตอร์รุ่น โอดิสซีย์ พีเอ็ม โปรดตไทป์และลูกกอล์ฟรุ่น เอชเอ็กซ์ ทัวร์ 56 มิคเคลสันยังสวมรองเท้าของคัลลาเวย์ กอล์ฟ ขณะที่บียอร์นได้ใช้ไดรฟ์เวอร์รุ่น บิ๊ก เบอร์ท่า ไททาเนียม 454, หัวไม้เบอร์ 4 รุ่นบิ๊ก เบอร์ท่า สตรอง, หัวไม้เบอร์ 7 รุ่นบิ๊ก เบอร์ท่า, หัวเหล็กรุ่นเบน โฮแกน เอเพ็กซ์ เอฟทีเอ็กซ์ (3-9), ฟอร์จ+เวดจ์ของคัลลาเวย์ กอล์ฟ, พัตเตอร์รุ่นโอดิสซีย์ ทีเอชเอ็กซ์3 และลูกกอล์ฟรุ่นเอชเอ็กซ์ ทัวร์ 56

มิคเคลสันได้แก่อุปสรรคมากมายของเลย์เอาท์ในสนามบัลตัสโรล คันทรี คลับขนาด 7,392 หลา ด้วยการขึ้นนำเป็นจ่าฝูงด้วยคะแนนนำสูงใน 2 รอบแรกที่สกอร์ 67 และ 65 ทำให้มีคะแนนรวม 8 อันเดอร์พาร์ และจากนั้นก็รอให้จบรอบด้วยการเล่นเกมเร็ว และใช้วิธีจู่โจมก็ต่อเมื่อเขาเป็นผู้เปิดรอบนั้น และโอกาสสุดท้ายก็มาถึงในหลุมสุดท้ายของการแข่งขันเมื่อมิคเคลสันได้ตีลูกตกลงกลางแฟร์เวย์และทำเบอร์ดี้ซึ่งทำให้คว้าชัยชนะในทัวร์นาเมนต์นี้มาครองได้

“ตอนที่ผมต้องตีลูกให้ลงแฟร์เวย์ในหลุมสุดท้าย ผมมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นและทำได้จริงๆ” มิคเคลสัน โปรกอล์ฟวัย 35 กล่าว “การตีครั้งสุดท้ายที่หลุม 18 ในวันนี้มีความสำคัญ และผมก็ระเบิดลูกออกไป สถิติไม่ได้สะท้อนว่าผมตีได้ดีแค่ไหนเมื่อผมจำเป็นต้องทำจริงๆ นั่นเป็นสิ่งสำคัญต่อทั้งสัปดาห์นี้สำหรับความสามารถกำหนดทิศทางของการตีอย่างที่ผมต้องการ และการมีโอกาสได้ทำเบอร์ดี้อย่างเหมาะสม”

“ไดรฟ์เวอร์รุ่น เอฟที-3 ทำให้ลูกกอล์ฟอยู่ในตำแหน่งที่เอื้อให้ผมตีจากแท่นทีออฟได้ เพราะระบบน้ำหนักภายในช่วยให้ผมไม่ต้องเล่นด้านขวา ผมจึงเหลือเรื่องที่ต้องกังวลอยู่เรื่องเดียวคือปัญหาในฝั่งซ้าย เพราะแฟร์เวย์ที่ผมตีพลาด ส่วนใหญ่อยู่ในฝั่งซ้าย ซึ่งช่วยทำให้ผมรู้ ผมจึงไม่ต้องกังวลกับปัญหานี้อีก”

ทางด้านบียอร์นซึ่งพัตเบอร์ดี้ที่หลุม 18 ทำให้เขาต้องไปดวลเพลย์ออฟกับมิคเคลสัน รู้สึกพอใจกับผลงานของตัวเองในครั้งนี้ โดยเขาใช้หัวเหล็กเบอร์ 9 ทำเบอร์ดี้ที่หลุม 17 ภายในระยะ 10 ฟุต และระเบิดฟอร์มตีลูกให้ไปตกในตำแหน่งที่สมบูรณ์แบบในหลุมสุดท้ายด้วยไดรฟ์เวอร์รุ่น บิ๊ก เบอร์ท่า 454 ของเขา

“ผมรู้สึกเหมือนว่า ผมติดอยู่ตรงนั้นและพยายามอย่างมาก” บียอร์นกล่าว “ผมใช้ความพยายาม 110% และขยับขึ้นมาเล็กน้อย ผมตีลูกดีๆได้หลายลูก แต่มันก็ยังไม่ใช่ ผู้ที่คว้าชัยชนะในรายการนี้มีคะแนนนำมาตั้งแต่วันแรก และเมื่อคุณมีคะแนนนำตั้งแต่วันแรก ก็เท่ากับว่าคุณยืนพร้อมถือถ้วยรางวัลอยู่ในมือแล้ว คุณสมควรชนะจริงๆ”

ด้วยพันธะสัญญาที่มั่นคงต่อการคิดค้นพัฒนาสินค้าใหม่ๆ คัลลาเวย์ กอล์ฟสร้างสรรค์สินค้าและบริการที่มีเป้าหมายเพื่อทำให้นักกอล์ฟทุกคนกลายเป็นนักกอล์ฟที่ดีขึ้น บริษัทคัลลาเวย์ กอล์ฟ ผลิตและจำหน่ายชุดไม้กอล์ฟและลูกกอล์ฟ รวมทั้งจำหน่ายอุปกรณ์เสริมเกี่ยวกับกอล์ฟ ภายใต้แบรนด์ คัลลาเวย์ กอล์ฟ, ท็อป-ไฟลท์, โอดีสซี่ย์ และเบน โฮแกน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัท คัลลาเวย์ กอล์ฟ สามารถดูได้ที่เว็บไซต์ www.callawaygolf.com