นางกานดา ชีวีวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทเวศประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ผลประกอบการไตรมาสสองของปี 2548 บริษัทฯ มีรายได้ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปี 2547 และมีผลกำไรลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณร้อยละ 26 โดยบริษัทฯ มีรายได้เบี้ยประกันภัยรับรวม 1,495 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการประกันภัยเบ็ดเตล็ดจำนวน 870 ล้านบาท, การประกันภัยรถยนต์จำนวน 443 ล้านบาท, การประกันอัคคีภัยจำนวน 129 และการประกันภัยทางทะเลและขนส่ง 53 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 76 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 6.33 บาท”
นางกานดา กล่าวต่อไปว่า “การที่ผลการดำเนินงานโดยรวมของบริษัทในช่วงไตรมาส 2 ลดลงนั้น เนื่องจากบริษัทมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น จากการนำเงินไปใช้ในการลงทุนในระยะยาวของการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) ของบริษัทฯ เป็นจำนวนเงินกว่า 40 ล้านบาท โดยเป็นการลงทุนระยะยาวสำหรับการสร้างนวัตกรรมระบบ IT ที่ทันสมัย ที่พร้อมรองรับการให้บริการที่เป็นเลิศให้ลูกค้าของเทเวศประกันภัยมากขึ้น และเพื่อให้สอดคล้องกับแผนการตลาดของบริษัทฯ ที่จะขยายกลุ่มลูกค้ารายย่อยเพิ่มขึ้นในตลาดประกันภัยรถยนต์ บริษัทจึงได้เพิ่มจำนวนพนักงานเพื่อรองรับการให้บริการที่คล่องตัวต่อลูกค้า ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา จึงส่งผลให้บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ในไตรมาส 2 นี้”
นางกานดากล่าวในที่สุด “การลงทุนทางด้านการพัฒนาระบบไอที และ การเพิ่มจำนวนบุคลากรของบริษัท เป็นการเพิ่มศักยภาพ และ ความแข็งแกร่งขององค์กรในระยะยาว เพื่อให้บริการที่สะดวก รวดเร็ว และ ครบวงจรทุกด้าน อีกทั้งเป็นการสร้างความเติบโต และ ผลตอบแทนที่ดีต่อผู้ถือหุ้น และ นักลงทุนในระยะยาว”
บมจ.เทเวศประกันภัย เปิดดำเนินการเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2490 โดยมีวัตถุประสงค์ในระยะแรกคือ การประกันอัคคีภัยทรัพย์สินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ต่อมา ได้ขยายกิจการเพิ่มขึ้น คือ รับประกันภัยอัคคีภัยทั่วไป รับประกันภัยทางทะเลและขนส่ง รับประกันภัยเบ็ดเตล็ด ซึ่งมีแบบกรมธรรม์ที่สามารถให้ความคุ้มครองอย่างกว้างขวางแก่ทุกประเภทของภัย และประกันภัยรถยนต์ บริษัทฯเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในปี 2533 และแปรสภาพมาเป็นบริษัทมหาชนในปี 2537