โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ – ‘กมลประกันภัย’ เปิดฉากยิ่งใหญ่หลังเปลี่ยนผู้ถือหุ้นใหม่ยกเซ็ต เดินหน้ายกเครื่ององค์กร เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 100 ล้านบาท ประกาศรุกหนักตลาดประกันภัยเริ่มต้นด้วยแพ็คเกจ MY WAY พร้อมเปิดสำนักสาขาในห้างสรรพสินค้า THE MALL บางแค เป็นรายแรก เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้ายุคใหม่ ทั้งยังเลือกบริษัทไอทีรายใหญ่ ‘จีเอเบิล’ ติดตั้งระบบซอฟต์แวร์งานประกันภัย Genenal Insurance System (GIS) เสริมศักยภาพให้พร้อมแข่งขันในตลาด มูลค่า 19 ล้านบาท
นายมนัส บินมะฮมุด กรรมการผู้จัดการ บริษัท กมลประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงนโยบายภายหลังการปรับเปลี่ยนผู้บริหารชุดใหม่ว่า บริษัท กมลประกันภัย จำกัด (มหาชน) เดิมคือ บริษัท กมลสุโกศลประกันภัย จำกัด ซึ่งเมื่อต้นปี 2548 ที่ผ่านมา ได้มีการเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงโครงสร้างใหม่ทั้งหมด ผู้ถือหุ้นและคณะกรรมการบริหารก็เป็นชุดใหม่ โดยมีนายภากร โภคินภากร ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ พร้อมกับการแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด และได้มีการเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 100 ล้านบาท ภายในเดือนมิถุนายน 2548 ที่ผ่านมา
“คณะกรรมการบริหารชุดใหม่ ได้จัดทำนโยบายที่จะแก้ไขปัญหาเดิมต่างๆ ทั้งส่วนของการบริหารภายในองค์กรเอง และส่วนของลูกค้าที่สะสมมานานให้สำเร็จลุล่วงไป รวมถึงการปรับบุคลากรและระบบงานของบริษัทใหม่ เพื่อให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ซึ่งเรายังได้ปรับโฉมภายนอกใหม่ทั้งหมดด้วยเช่นกัน เพื่อเป็นการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ๆ แก่ลูกค้า ให้ลูกค้าสามารถจดจำได้เร็ว และจดจำได้นาน โดยกมลได้เปลี่ยนมาใช้ LOGO ใหม่ มีรูปแบบเป็นตัวหนังสือคำว่า “กมล” สีน้ำเงิน ล้อมรอบด้วยรูปหัวใจสีแดง พร้อมกับคำขวัญใหม่ว่า “จัดให้ ด้วยใจ” นายมนัสกล่าว
ทั้งนี้ กมลประกันภัย ยังได้คิดค้นกรมธรรม์รูปแบบใหม่ที่ยังไม่เคยมีบริษัทใดทำมาก่อนคือ My Way แผน การค้ำประกันภัยบุคคลเข้าทำงาน (สำหรับลูกจ้าง) ซึ่งเป็นรูปแบบการค้ำประกันความเสียหายที่เกิดจากการกระทำของลูกจ้างที่มีต่อนายจ้าง โดยได้นำออกให้บริการเมื่อเดือนพฤษภาคม 2548 ที่ผ่านมา เป็นบริษัทแรกในประเทศไทย
“My Way เป็นแพ็คเกจคืนกำไรสังคม มีเด็กจำนวนมากสามารถหางานทำได้ แต่ไม่มีใครค้ำประกันให้ ก็ต้องสูญเสียโอกาสตรงนั้นไป กรมธรรม์ของเราออกมาช่วยเหลือในจุดนี้ ไม่ว่าตำแหน่งงานนั้นต้องการบุคคลระดับไหนค้ำประกันให้ กรมธรรม์ของเราตอบสนองได้หมด และราคาก็ต่ำมาก ซึ่งตอนนี้มีบริษัทขนาดใหญ่หลายรายให้ความสนใจแล้ว” นายมนัสกล่าว
นายมนัสกล่าวต่อว่า ภายในสิ้นปี 2548 กมลประกันภัยยังวางแผนที่จะขยายสำนักงานสาขาเพิ่มขึ้นเป็น 50 สาขา เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าอย่างทั่วถึง จากปัจจุบันที่มีอยู่ 44 สาขาทั่วประเทศ โดยล่าสุดบริษัทได้เปิดสำนักงานสาขาในรูปแบบใหม่ ก็คือ การเปิดสำนักงานสาขาในห้างสรรพสินค้า THE MALL บางแค ซึ่งสามารถให้บริการแก่ลูกค้าในทุกกรมธรรม์ และอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้ายุคใหม่ ซึ่งบริษัทมีนโยบายที่จะเปิดสำนักงานสาขาใน THE MALL ให้ครบทุกสาขาในกรุงเทพฯ ภายในต้นปี 2549
ทั้งนี้ กมลประกันภัย ได้เล็งเห็นถึงการใช้ IT เข้ามาช่วยจัดการการทำงานภายในองค์กรเพื่อให้บริการและตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ใช้บริการของทางกมลประกันภัย ทางบริษัทจึงได้คัดเลือก Software ที่สามารถเข้ามาช่วยในการทำงานได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งทางบริษัทได้ตัดสินใจโดยมอบให้บริษัท จีเอเบิล เข้ามาดำเนินการติดตั้งระบบ GIS (General Insurance System) เป็นซอฟต์แวร์ที่รองรับธุรกิจด้านประกันวินาศภัยแบบครบวงจร โดยเป็นซอฟต์แวร์แพ็คแกจที่สามารถติดตั้งได้อย่างรวดเร็ว
โดยในเบื้องต้นทางกมลประกันภัยและจีเอเบิลได้วางแผนการติดตั้งโดยแบ่งออกเป็น 2 Phase ซึ่งใน Phase แรก ประกอบด้วย ระบบงานประกันภัยรถยนต์ ระบบงานบัญชีการเงินทั้งในส่วนของการรับ / จ่ายเบี้ยประกัน ค่านายหน้า และค่าสินไหม ระบบควบคุมเช็ครับและเช็คจ่าย และส่วนควบคุมการใช้ระบบงาน ซึ่งใน Phase แรก ทางกมลได้เริ่มใช้งานจริงไปตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2548 ส่วนใน Phase ที่ 2 ประกอบด้วย ระบบงานประกันอัคคีภัย, ขนส่งทางทะเล, เบ็ดเตล็ด, อุบัติเหตุส่วนบุคคล, วิศวกรรม งานด้านประกันภัยต่อ และระบบงานบัญชีแยกประเภท ซึ่งใน Phase 2 ทางกมลได้เริ่มใช้งานจริงไปแล้วบางส่วน โดยเฉพาะในส่วนของ Product ใหม่ของทางกมล คือแผนการค้ำประกันบุคคลเข้าทำงาน
นายไตรรัตน์ ใจสำราญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีเอเบิล จำกัด Thailand IT Professional Service Company เปิดเผยว่า ปัจจุบันสถานการณ์การแข่งขันของตลาดประกันวินาศภัยเป็นไปอย่างดุดัน การลงทุนด้วยการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) เข้ามาบริหารจัดการภายในองค์กรจะช่วยเสริมศักยภาพ และความแข็งแกร่งของกระบวนการทำงาน ซึ่งเอื้อประโยชน์ให้การบริการและตอบสนองความต้องการของลูกค้าเป็นไปอย่างรวดเร็วขึ้น
“จีเอเบิล เป็นบริษัทที่พัฒนาแอพพลิเคชั่น ซอฟต์แวร์ เพื่อรองรับธุรกิจประกันวินาศภัยแบบครบวงจร เป็นระยะเวลากว่า 10 ปี เรียกว่าเราคลุกคลีอยู่ในวงการประกันวินาศภัยมาโดยตลอด ดังนั้นซอฟต์แวร์จึงถูกพัฒนาโดยทีมงานคนไทยที่มีความรู้ และประสบการณ์ทั้งในแง่ของ Insurance Business Knowledge และ Project Management Methodology สำหรับการประกันวินาศภัยในเมืองไทยโดยเฉพาะ โดยจีเอเบิลมีลูกค้าที่เป็นบริษัทประกันวินาศภัยชั้นนำของประเทศไทยมากมาย” นายไตรรัตน์กล่าว
จีเอเบิลมีความยินดีที่ได้รับความไว้วางใจจากบริษัท กมลประกันภัย จำกัด (มหาชน) ให้ติดตั้งระบบงานประกันภัย General Insurance System (GIS) มูลค่าประมาณ 19 ล้านบาท โดยประกอบไปด้วย Application Software Insurance Enterprise Solution มูลค่า 13 ล้านบาท, System Software มูลค่า 3 ล้านบาท และ เครื่องเซิร์ฟเวอร์ Sun Fire V480 มูลค่า 3 ล้านบาท
สำหรับ Application Software Insurance Enterprise Solution ซึ่งเป็นส่วนสำคัญและมีมูลค่ามากที่สุดในครั้งนี้ พัฒนาโดยทีมงานที่เป็นคนไทยซึ่งมีความชำนาญอยู่ในวงการประกันวินาศภัยเมืองไทย ประกอบไปด้วยผลิตภัณฑ์ General Insurance System (GIS) ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่รองรับธุรกิจด้านประกันวินาศภัยแบบครบวงจร
โดย GIS จะแบ่งออกเป็นส่วนงานด้านประกันภัย (Front Office) ได้แก่ประกันภัยรถยนต์, อัคคีภัย, ขนส่งทางทะเล, เบ็ดเตล็ด, อุบัติเหตุส่วนบุคคล, วิศวกรรม และงานด้านประกันภัยต่อ และอีกส่วนคือ ส่วนงานด้านการเงิน (Back Office) ได้แก่ ระบบการเงิน, เช็ครายรับ – จ่าย, บัญชีแยกประเภท และส่วนควบคุมการใช้ระบบ
นายไตรรัตน์กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกเหนือไปจากการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดประกันวินาศภัยแล้ว การแข่ง ขันในตลาดไอทีที่พัฒนาระบบประกันภัยก็เป็นไปอย่างเข้มข้นเช่นกัน จีเอเบิลจึงต้องจัดวางกลยุทธ์สำหรับการรับมือและการรุกตลาดด้วยการจัดทำ Application Software GIS, eCMS และ Web Imaging ช่วยในการปรับกระบวนการทำงาน (Business Process) และระบบงานที่เป็น Web Base Application (100%) สามารถเชื่อมต่อสาขากับสาขา, Business Partner เช่น Agent / Broker, อู่ซ่อมรถ, ร้านอะไหล่, Surveyor หรือแม้กระทั่งลูกค้า
จีเอเบิลสามารถรองรับงานบริการทางด้านไอทีอย่างครบวงจร ในลักษณะ One Stop Service แล้ว ยังสามารถช่วยวาง IT Roadmap ให้กับลูกค้าในการกำหนด Direction ของ IT ทั้งในระยะกลาง และระยะยาวเพื่อให้สามารถลงทุนได้ผลอย่างคุ้มค่า
“บริษัท จีเอเบิล เป็น IT Solution Provider ที่ดำเนินธุรกิจมานานกว่า 17 ปี มีความเชี่ยวชาญและมีการศึกษาความต้องการของธุรกิจลูกค้า ทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นความมั่นคง และเป็นภาพลักษณ์ของจีเอเบิล เนื่องจากเราไม่ใช่ดูแลแค่ลูกค้าเท่านั้น แต่กลยุทธ์หลักก็คือ การดูแลลูกค้าของลูกค้าเราให้ได้รับความสะดวกสบายจากบริการที่เรานำเสนอให้ ทำให้เราโดดเด่นและได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ” นายไตรรัตน์กล่าว
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีบริษัทประกันวินาศภัยที่ใช้ระบบงานประกันภัยและบริการที่พัฒนาโดยจีเอเบิล มีดังนี้ บริษัท ไทยศรีซูริค ประกันภัย จำกัด, บริษัท แอล เอ็ม จี ประกันภัย จำกัด (เดิมคือ บริษัท นารายณ์สากลประกันภัย จำกัด), บริษัท ไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) , บริษัท ธนชาติประกันภัย จำกัด, บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน), บริษัท ไทยรับประกันภัยต่อ จำกัด (มหาชน) , บริษัท ธนสินประกันภัย จำกัด (มหาชน) , บริษัท ทิสโก้ ลีสซิ่ง จำกัด, บริษัท กมลประกันภัย จำกัด (มหาชน) และบริษัท บีที ประกันภัย จำกัด