กรุงเทพฯ — 13 ตุลาคม 2548 — เอเอ็มดี (NYSE: AMD) รายงานตัวเลขยอดขาย 1.523 พันล้านดอลลาร์ และกำไรสุทธิ 76 ล้านดอลลาร์ หรือ 0.18 ดอลลาร์ต่อหุ้น สำหรับผลประกอบการประจำไตรมาส 3 ปี 2548 สิ้นสุดวันที่ 25 กันยายน 2548
ไตรมาส 3 ยอดขายของเอเอ็มดีเพิ่มขึ้น 23% จากไตรมาส 3 ปี 2547 และเพิ่มขึ้น 21% จากไตรมาส 2 ปี 2548 ทั้งนี้ไตรมาส 3 ปี 2547 เอเอ็มดีรายงานตัวเลขยอดขาย 1.239 พันล้านดอลลาร์ และกำไรสุทธิ 44 ล้านดอลลาร์ หรือ 0.12 ดอลลาร์ต่อหุ้น ส่วนไตรมาส 2 ปี 2548 เอเอ็มดีรายงานยอดขาย 1.260 พันล้านดอลลาร์ และกำไรสุทธิ 11 ล้านดอลลาร์ หรือ 0.03 ดอลลาร์ต่อหุ้น กำไรจากการดำเนินงานในไตรมาส 3 ปี 2548 อยู่ที่ 79 ล้านดอลลาร์เทียบกับ 68 ล้านดอลลาร์ ในไตรมาส 3 ปี 2547 และตัวเลขขาดทุนจากการดำเนินงาน 7 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 ปี 2548
“เป็นอีกหนึ่งสถิติใหม่สำหรับธุรกิจโพรเซสเซอร์ของเอเอ็มดี” โรเบิร์ต เจ ริเว็ต (Robert J. Rivet) ประธานฝ่ายการเงิน บริษัทเอเอ็มดี กล่าวและว่า “ปริมาณความต้องการผลิตภัณฑ์โพรเซสเซอร์ทั้งกลุ่มเซิร์ฟเวอร์ เดสก์ท็อป และโมบาย คือสิ่งสำคัญที่ทำให้ยอดขาย ไมโครโพรเซสเซอร์ของเราขยายตัวถึง 44% จากไตรมาส 3 ปี 2547 และ 26% จากไตรมาส 2 ปี 2548”
“ยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์เมมโมรี่ลดลง 4% จากไตรมาส 3 ปี 2547 แต่เพิ่มขึ้น 12% จากไตรมาส 2 ปี 2548 โดยได้รับปัจจัยหนุนสำคัญจากราคาและยอดขายผลิตภัณฑ์ MirrorBit Flash ลูกค้ารายใหญ่ของ MirrorBit Flash คือกลุ่มผู้ผลิตอุปกรณ์ไร้สาย ขณะที่ราคาเฉลี่ยคงที่จากดีมานด์และซัพพลายที่สมดุลย์กันตลอดไตรมาส”
ภาพรวมธุรกิจ
ตัวเลขอัตรากำไรขั้นต้นของไตรมาส 3 อยู่ที่ 41% เพิ่มขึ้นจาก 40% ของไตรมาส 3 ปี 2547 และ 39% ของไตรมาส 2 ปี 2548 หรือถ้าแยกมองระหว่างกลุ่มธุรกิจไมโครโพรเซสเซอร์และกลุ่มธุรกิจเมมโมรี่ อัตรากำไรขั้นต้นก็เพิ่มขึ้นทั้งคู่
ยอดขายของกลุ่มผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ หรือซีพีจี (Computation Product Group; CPG) อยู่ที่ 969 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 44% จาก 673 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 ปี 2547 และเพิ่มขึ้น 26% จาก 767 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 ปี 2548 กำไรจากการดำเนินงานของกลุ่มซีพีจีอยู่ที่ 209 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นจาก 89 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 ปี 2547 และ 110 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 ปี 2548 ยอดขายในไตรมาส 3 ของกลุ่มซีพีจีได้รับปัจจัยบวกจากยอดขายโพรเซสเซอร์สำหรับเซิร์ฟเวอร์ เดสก์ท็อป และโมบาย และยอดขายที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าสำหรับลูกค้ากลุ่มผู้ผลิตโออีเอ็มเทียบกับตัวเลขของไตรมาส 3 ปี 2547 ยอดขายโมบายโพรเซสเซอร์ AMD Turion 64 เพิ่มขึ้น 72% จากไตรมาส 2 ปี 2548 ในเทอมของภูมิภาค ยอดขายที่สูงในอันดับต้นๆ จะตจากตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูงๆ เช่น รัสเซีย, อินเดีย และจีน
ยอดขายของกลุ่มผลิตภัณฑ์เมมโมรี่ หรือเอ็มพีจี (Memory Products Group; MPG) อยู่ทั่ 516 ล้านดอลลาร์ ลดลง 4% จาก 538 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 ปี 2547 และเพิ่มขึ้น 12% จาก 462 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 ปี 2548 ตัวเลขขาดทุนจากการดำเนินงานของกลุ่มเอ็มพีจีลดลงเหลือ 50 ล้านดอลลาร์ จาก 90 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 ปี 2548 รายได้ที่เพิ่มสูงกว่าไตรมาส 2 ปี 2548 ได้รับปัจจัยบวกจากดีมานด์จากกลุ่มผู้ผลิตอุปกรณ์ไร้สายและผู้ผลิตโออีเอ็มอื่นๆ ยอดขาย MirrorBit Flash เพิ่มขึ้น 35% จากไตรมาส 2 ปี 2548
เหตุการณ์น่าสนใจในช่วงไตรมาส 3
-เอเอ็มดีขยายสายผลิตภัณฑ์กลุ่ม AMD64 ด้วยการแนะนำโพรเซสเซอร์ AMD Opteron, AMD Turion 64 และ AMD Athlon 64 รุ่นใหม่ออกสู่ตลาดอีกมากกว่า 20 รุ่น
-ด้วยความโดดเด่นในเรื่องสมรรถนะและสมรรถนะต่อวัตต์ในตลาด x86 เซิร์ฟเวอร์ ทำให้ธุรกิจทั่วโลกยอมรับและเลือกใช้เทคโนโลยี AMD64 มากขึ้น ปัจจุบัน 85% ของบริษัทในชาร์ต Forbes Global 2000 เลือกใช้สินค้าเอเอ็มดี ส่วนหนึ่งได้แก่ ซาอุดิอารามโก้ (Saudi Aramco), ฟิเดลลิตี้เนชั่นแนลไฟแนนเชียล (Fidelity National Financial), ลิเบอร์ตี้ มีเดีย (Liberty Media), แมนูไลฟ์ไฟแนนเชียลออฟเจแปน (Manulife Financial of Japan), เอสเคเอฟกรุ๊ป (SKF Group) และยูไนเต็ดพาร์เซิลเซอร์วิส (United Parcel Service)
– ผู้ผลิตโออีเอ็มชั้นนำของโลกเลือกใช้สินค้าเอเอ็มดีในสายผลิตภัณฑ์ของพวกเขามากขึ้น ตัวอย่างเช่น เซิร์ฟเวอร์และเวิร์คสเตชั่นในตระกูล “Galaxy” ของซันไมโครซิสเต็มส์ที่ใช้โพรเซสเซอร์ Multi-Core AMD Opteron และบริษัทฟูจิตสึซีเมนส์คอมพิวเตอร์ (Fujitsu Siemens Computers) ที่เปิดตัวเครื่องเวิร์คสเตชั่นในตระกูลใหม่ล่าสุดซึ่งใช้โพรเซสเซอร์ AMD Opteron
– ซันฯยกให้เอเอ็มดีเป็น “ซัพพลายเออร์แห่งปี” สำหรับการสนับสนุนการทำตลาดของซันฯที่มุ่งนำเสนอเทคโนโลยีคุณภาพและบริการแก่ลูกค้า
– เอเอ็มดีเปิดตัวโปรแกรม AMD Commercial Stable Image Platform (AMD CSIP) โปรแกรมที่รับรองว่าผู้ดูแลระบบไอทีจะไม่ต้องทำดิสก์อิมเมจไปนานถึง 15 เดือน ซึ่งนอกจาก จะช่วยลดจำนวนและเวลาที่ต้องใช้ในการปรับแต่งระบบแล้ว ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารระบบ, ลดค่าใช้จ่ายด้านไอที และเพิ่มโปรดักติวิตี้ด้วย
-แพลตฟอร์ม AMD64 ได้รับรางวัลมากมาย โพรเซสเซอร์ Dual-Core ของเอเอ็มดีได้รับรางวัล 2005 Popular Mechanics Breakthrough Award และถูกเลือกใช้ใน 10th annual Maximum PC Dream Machine นอกจากนี้เอเอ็มดียังได้รับประกาศเกียรติคุณ “Best of Show” สำหรับการสนับสนุนงานประชุมสุดยอดผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลาง (Mid-Size Enterprise Summit) ของการ์ตเนอร์กรุ๊ป (Gartner Group)
-สแปนชั่นสาธิตการทำงานของ ORNAND Flash ขนาด 1 Gb (กิกะบิต) ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี 90 นาโนเมตร
-คาสิโอฮิตาชิโมบายคอมมิวนิเคชั่นส์ (Casio Hitachi Mobile Communications) ใช้ MirrorBit NOR Flash ขนาด 512 Mb (เมกะบิต) ของสปนชั่นในผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่
-สแปนชั่นเซ็นสัญญากับทีเอสเอ็มซี (Taiwan Semiconductor Manufacturing Company; TSMC) ว่าจ้างผลิตเมมโมรี่ MirrorBit ด้วยเทคโนโลยี 110 นาโนเมตร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนเพิ่มกำลังการผลิตของสแปนชั่น
การคาดการณ์
ข้อความที่กล่าวถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในไตรมาส 4 ปี 2548 ของเอเอ็มดีเป็นเพียงการคาดการณ์จากปัจจุบันเท่านั้น สิ่งที่เกิดขึ้นจริงอาจแตกต่างไปจากที่ได้คาดการณ์ไว้ขึ้นกับภาวะตลาดและสภาพแวดล้อมอื่นๆ
– เอเอ็มดีคาดว่ายอดขายไมโครโพรเซสเซอร์ในไตรมาส 4 จะสูงกว่าไตรมาส 3 ปี 2548 ประมาณ 7%-13% หรือ 42%-50% จากไตรมาส 4 ปี 2547
– เนื่องจากเอเอ็มดีได้ยื่นแบบฟอร์ม S-1 ของสแปนชั่นให้กับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกาแล้ว ดังนั้นเอเอ็มดีจึงไม่ขอกล่าวถึงธุรกิจแฟลชเมมโมรี่อีก
การประชุมทางไกลของเอเอ็มดี
เอเอ็มดีจะจัดประชุมทางไกลขึ้นในเวลา 14:30 ตามเวลาในอเมริกาโซนแปซิฟิก เพื่อพูดคุยในรายละเอียดของรายงานผลประกอบการประจำไตรมาส ผู้สนใจสามารถรับฟังการถ่ายทอดเสียงแบบเรียลไทม์ได้จากหน้านักลงทุนสัมพันธ์ในเว็บไซต์ของเอเอ็มดีที่ www.amd.com หรือ www.streetevents.com ซึ่งไฟล์มัลติมีเดียบันทึกการประชุมจะมีให้ ดาวน์โหลดเป็นเวลา 10 วันหลังการประชุมเสร็จสิ้น
หมายเหตุ
ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ บางข้อความเป็นการคาดการณ์ถึงสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย Private Securities Litigation Reform Act of 1995 ข้อความที่เป็นการคาดการณ์จะประกอบด้วยคำ เช่น “มีแผนว่า”, “คาดว่า”, “เชื่อว่า”, “หวังว่า” หรือ “ตั้งใจว่า” นักลงทุนพึงระลึกอยู่เสมอว่าข้อความที่เป็นการคาดการณ์ซึ่งปรากฏในข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีความเสี่ยงและความไม่แน่นอน อาจเป็นหรือไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ก็ได้
ความเสี่ยง ได้แก่ ความเป็นไปได้ที่ภาวะเศรษฐกิจจะแย่ลงและยอดขายในไตรมาส 4 ปี 2548 อาจต่ำกว่าที่คาดไว้, กลยุทธ์ราคา โปรแกรมการตลาด การจัดแพ็คเกจผลิตภัณฑ์ การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ และกิจกรรมอื่นๆของบริษัทอินเทล ที่มีเป้าหมายที่ธุรกิจโพรเซสเซอร์ อาจส่งผลให้ยอดขายของเอเอ็มดีไม่เป็นไปตามเป้าที่วางไว้, ปริมาณความต้องการพีซีและปริมาณความต้องการโพรเซสเซอร์อาจต่ำกว่าที่คาดไว้, การยอมรับในเทคโนโลยี AMD64 ของผู้ผลิตพีซีชั้นนำและลูกค้าอาจไม่เป็นไปตามคาด, ดีมานด์สำหรับแฟลชเมมโมรี่อาจต่ำกว่าที่ คาดไว้, กลยุทธ์ราคา โปรแกรมการตลาด การจัดแพ็คเกจผลิตภัณฑ์ การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ และกิจกรรมอื่นๆของบริษัทอินเทล อาจส่งผลกระทบต่อราคา NOR Flash, บรรดาผู้ผลิตอาจเลือกใช้ NAND Flash มากกว่า NOR Flash, ฐานลูกค้า MirrorBit อาจไม่เพิ่มขึ้น, เอเอ็มดีอาจไม่สามารถตอบสนองดีมานด์ที่เกิดขึ้นได้, เอเอ็มดีอาจไม่บรรลุผลสำเร็จตามกำหนดการในแผนผลิตภัณฑ์ปัจจุบันและเทคโนโลยีที่เปิดตัว, เอเอ็มดีอาจมีทุนไม่พอสำหรับการสร้างสรรค์นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำ และโซลูชั่นโพรวายเดอร์อาจไม่สามารถจัดเตรียมโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงระบบปฏิบัติการและแอพพลิเคชั่น ซึ่งซัพพอร์ตเทคโนโลยี AMD64 ได้ทันตามกำหนด
เราแนะนำให้นักลงทุนพิจารณารายละเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอน จากรายงานที่บริษัทฯส่งให้กับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา (Securities and Exchange Commission) รวมไปถึงรายงานผลการดำเนินงานประจำปี แบบฟอร์ม 10-K สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 26 ธันวาคม 2547, รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาส แบบฟอร์ม 10-Q สำหรับไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 26 มิถุนายน 2548
ข้อมูลเกี่ยวกับ AMD
เอเอ็มดี (NYSE:AMD) คือผู้ออกแบบและผลิตไมโครโปรเซสเซอร์, แฟลชเมมโมรี่ และโลว์เพาเวอร์โปรเซสเซอร์สำหรับระบบคอมพิวเตอร์, อุปกรณ์สื่อสาร และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เอเอ็มดีคือผู้นำเสนอโซลูชั่นมาตรฐานที่มุ่งตอบสนองทุกๆความต้องการของผู้ใช้เทคโนโลยีทุกระดับ ตั้งแต่องค์กรธุรกิจและหน่วยงานรัฐบาล ไปจนถึงผู้บริโภคระดับคอนซูเมอร์ทั่วไป ข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.amd.com