นางสุดา ทรงอุดมวัฒนา ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โอทีที ฟุตแวร์ จำกัด ผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายรองเท้า ดร.มาร์ตินส์ แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดเผยว่า การนำรองเท้า ดร.มาร์ตินส์ เข้าสู่ตลาดประเทศไทยในครั้งนี้ เนื่องจากเล็งเห็นว่าในปัจจุบันผู้ชายเริ่มสนใจแฟชั่นและการแต่งตัวมากขึ้น สินค้าแฟชั่นเครื่องแต่งกายจึงมีความสำคัญและมีการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน จึงอยากนำ ดร.มาร์ตินส์ ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีคุณภาพและเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายทั่วโลกมากว่า 45 ปี เพื่อเป็นอีกทางเลือกให้กับคนไทย
“เราอยากให้ผู้ที่ใช้ ดร.มาร์ตินส์ อยู่แล้ว ได้มีโอกาสหาซื้อได้ในประเทศไทย รวมถึงผู้ที่สนใจแต่ไม่มีโอกาสหาซื้อได้ รวมทั้งการเพิ่มทางเลือกในตลาดรองเท้าผู้ชาย ที่เน้นทั้งคุณภาพ ความคลาสสิค และยังได้มีการพัฒนารูปแบบให้มีความทันสมัย และรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้ชายรุ่นใหม่มากขึ้น โดยรุ่นและแบบที่จะวางจำหน่ายในประเทศไทยจะคัดสรรเฉพาะรุ่นที่ขายดีจากทั่วโลก และได้รับความนิยมสูงสุดทั้งในตลาดยุโรป อเมริกา และเอเชีย จำนวน 30 รุ่น ซึ่งจะสามารถรองรับกลุ่มผู้บริโภคชายตั้งแต่ 18-35 ปี ที่มีไลฟ์สไตล์แตกต่างกันถึง 3 กลุ่ม คือ Smart Working, Classic และ Casual ทั้งนี้โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาเพิ่มแบบและจำนวนรุ่น เพื่อให้สามารถรองรับความต้องการได้หลากหลายยิ่งขึ้นในทุกๆ 3 เดือน โดยขณะนี้มีวางจำหน่ายแล้วที่เซ็นทรัลทั้ง 5 สาขา ได้แก่ ชิดลม ลาดพร้าว บางนา ภูเก็ตและ เซ็นทรัลเวิลด์พลาซ่า พร้อมทั้งคาดว่าในครึ่งปีแรกจะมียอดขายการจำหน่ายอยู่ที่ประมาณ 3,000 คู่ หรือคิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 5-10% ในปีแรก”
สำหรับการจัดงานเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยนั้น จะมีไฮไลท์ที่สำคัญคือ “Wear One Get One Free” โดยแฟนพันธุ์แท้ที่ใส่รองเท้า ดร.มาร์ตินส์ มาร่วมงาน 50 คนแรก รับบัตรกำนัลเพื่อแลกรับฟรีรองเท้า ดร.มาร์ตินรุ่น 8B97 ซึ่งเป็นรุ่นท๊อปของกลุ่ม Casual ในโซนเอเชีย อีก 1 คู่ และสำหรับท่านที่พลาดโอกาส 50 คนแรก หรือผู้เข้าร่วมงานทุกท่านจะได้ลุ้นรับบัตรกำนัลฟรีรองเท้าอีก 10 คู่ จากการจับรางวัลในงาน หลังจากชมแฟชั่นโชว์ชุดพิเศษ โดยงานเปิดตัวดังกล่าวจะจัดให้มีขึ้นในวันศุกร์ที่ 28 ตุลาคม 2548 เวลา 18.00 – 20.00 น. ณ บริเวณชั้น 4 แผนกรองเท้าชาย ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลชิดลม” ผู้จัดการทั่วไป กล่าว
ทางด้าน มิสเอสเตอร์ ลอว์ ผู้จัดการทั่วไป และผู้จัดการฝ่ายการตลาด เอเชีย บริษัท ดร.มาร์ตินส์ แอร์แวร์ สิงคโปร์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ ดร.มาร์ตินส์ ได้เข้าสู่ตลาดในเอเชีย ในปี พ.ศ. 2540 โดยเริ่มใน 4 ประเทศ คือ ฮ่องกง ญี่ปุ่น เกาหลี และ สิงคโปร์ และได้ขยายสาขาในประเทศต่างๆโดยปัจจุบันมีสาขารวมกว่า 10 ประเทศ ทั่วภูมิภาคเอเชียแล้วนั้น ถือว่าได้รับการตอบรับจากชาวเอเชียเป็นอย่างดี โดยมีอัตราการเจริญเติบโต อย่างต่อเนื่อง ในช่วง 3 ปี ที่ผ่านมา เฉลี่ยปีละ 30 % จึงได้วางแผนขยายตลาดต่อเนื่องโดยเลือกประเทศไทยเป็นประเทศที่ 11
“ประเทศไทยถือเป็นประเทศหนึ่งที่มีศักยภาพ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไลฟ์สไตล์ของคนไทย โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ถือว่ามีความทันสมัย ก้าวทันกระแสแฟชั่นไม่แพ้ประเทศอื่น กอปรกับการที่รัฐบาลไทยมุ่งพัฒนาให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองแห่งแฟชั่น และที่สำคัญคือไทยก็มีกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบ ดร.มาร์ตินส์ อยู่จำนวนหนึ่ง จากองค์ประกอบดังกล่าว จึงน่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่ ดร.มาร์ตินส์จะได้มาทำความรู้จักกับคนไทยเพิ่มมากขึ้น และมั่นใจว่าการเข้ามาครั้งนี้จะได้รับการต้อนรับจากผู้บริโภคชาวไทยอย่างแน่นอน” มิสเอสเตอร์ กล่าว
เกี่ยวกับรองเท้า ดร.มาร์ตินส์
ดร.มาร์ตินส์ ริเริ่มโดย ดร.เคลาส์ มาร์ตินส์ โดยเริ่มจากการออกแบบรองเท้าในระบบพื้น Air Cushioned Soles ที่ช่วยพยุงและรองรับน้ำหนักของเท้า และหลังจากการพัฒนาจนเริ่มการผลิตรองเท้าบู๊ทคู่แรก เมื่อวันที่ 1 เดือนเมษายน ปี ค.ศ. 1960 ซึ่งเป็นที่มาของรองเท้าที่เป็นเอกลักษณ์รุ่น 1460 จนถึงปัจจุบัน รองเท้า ดร.มาร์ตินส์ ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง โดยมี สำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศอังกฤษ และมีสาขาทั้งยุโรป อเมริกา และเอเชีย กว่า 60 ประเทศทั่วโลก
ดร.มาร์ตินส์ ในปัจจุบันนอกจากจะคงความคลาสสิคแล้ว ยังพัฒนาให้มีความทันสมัยมากขึ้น สามารถตอบรับกับทุกไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ แต่ยังคงเอกลักษณ์ความทนทานของ ดร.มาร์ติน อย่างการเย็บขอบด้วยด้ายเหลืองระหว่างตัวรองเท้าและพื้นรองเท้า และเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพเท้าอย่าง Air Cushioned หรือ Bouncing Soles ที่เป็นเทคนิคการใช้ความร้อนหลอมเส้นขอบหนังให้ประกบพื้นรองเท้ากับฐานรองเท้า โดยให้มีอากาศอยู่ภายใน เพื่อช่วยพยุงและรองรับน้ำหนักของเท้า ทำให้เกิดความรู้สึกนุ่มสบายและเด้งได้เวลาเดิน (อันเป็นที่มาของการจดเครื่องหมายการค้า Bouncing Soles) รวมไปถึงคุณภาพที่ได้มาตรฐานเดียวกันทั่วโลก