นายไพโรจน์ สัญญะเดชากุล เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยถึง ผลการจัดงาน มหกรรมสินค้าคุณภาพมาตรฐาน 36 ปี สมอ. 36 ปี การมาตรฐานไทย เมื่อวันที่ 13 -1 6 ตุลาคม 2548 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ว่ามีผู้สนใจเที่ยวชมงาน และจับจ่ายซื้อสินค้าคุณภาพมาตรฐานกว่า 30,000 ราย ซึ่งตรงตามเป้าหมายที่วางไว้ ด้านผู้ผลิต และผู้ประกอบการก็ได้นำสินค้าและผลิตภัณฑ์มาร่วมจำหน่ายและโชว์สินค้ารุ่นใหม่ล่าสุดของตนกว่า 300 ร้านค้า ทั้ง เครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ วัสดุก่อสร้าง ชิ้นส่วนยานยนต์ และรถยนต์ ฯลฯ ซึ่งนอกจากผู้ประกอบการทั้งหลายได้มีโอกาสพบปะและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ถึงการปรับปรุง และพัฒนาสินค้าของตนให้ดียิ่งขึ้นแล้วยังเป็น การต่อยอดในด้านการค้าได้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
เลขาธิการสมอ. กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการจัดงานมหกรรมสินค้าคุณภาพมาตรฐาน 36 ปี สมอ. ครั้งนี้สามารถสรุปได้ว่าทั้งประชาชน ผู้ผลิต และผู้ประกอบ ได้หันมาให้ความสนใจและความสำคัญกับเครื่องหมายรับรองคุณภาพมาตรฐานกับสินค้าเพิ่มมากขึ้น ทั้งเครื่องหมายมาตรฐานทั่วไป เครื่องหมายมาตรฐานบังคับ เครื่องหมายเฉพาะด้านความปลอดภัย เครื่องหมายเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม เครื่องหมายมาตรฐานเฉพาะด้านความเข้ากันได้ทางแม่เหล็กไฟฟ้า และเครื่องหมายมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.)
ด้านประชาชนจะก็ได้รับประโยชน์โดยตรงจากเครื่องหมายเหล่านี้ทั้งในด้านความปลอดภัย และคุณภาพของสินค้าที่ซื้อไป ด้านผู้ผลิต และผู้ประกอบการ การให้ความสำคัญกับเครื่องหมายรับรองคุณภาพเหล่านี้ จะเป็นเครื่องหมายที่การันตีถึงคุณภาพและมาตรฐานของสินค้าของตนให้มีศักยภาพสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก รวมถึงการเผยแพร่สินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น
ปัจจุบันสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ได้ประกาศกำหนดมาตรฐานแล้ว 2,480 เรื่องและได้อนุญาตให้ผู้ประกอบการใช้เครื่องหมายมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) จำนวน 14,893 ราย ตลอดจนปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เพื่อให้ระบบงานด้านการมาตรฐานมีความคล่องตัวและสอดคล้องกับแนวทางสากล รวมถึงการสนับสนุนหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ให้สามารถพัฒนาระบบการจัดการขององค์กรได้ตามมาตรฐานสากล เพื่อให้เกิดการยอมรับในระดับการค้าระหว่างประเทศ
“การเน้นบทบาทการนำงานด้านมาตรฐานมาเสริมสร้างให้อุตสาหกรรมมีศักยภาพที่จะแข่งขันได้ในทุกระดับ โดยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการและหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง นำมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมและมาตรฐานระบบการจัดการต่างๆ ไปใช้พัฒนาระบบงานและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้มีประสิทธิภาพ เป็นที่ยอมรับได้ในระดับสากล” เลขาธิการสมอ