ท่องเที่ยวสมุย…คึกคัก : คาดปี’48 รายได้สะพัด 1.4 หมื่นล้านบาท

สมุยเป็นแหล่งท่องเที่ยวชายทะเลแห่งหนึ่งของไทยที่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยในปี 2547 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไปเที่ยวสมุยจำนวน 775,765 คน สร้างรายได้ด้านการท่องเที่ยวให้สมุยคิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 10,319 ล้านบาท เมื่อรวมกับนักท่องเที่ยวคนไทยที่เดินทางเข้าไปเที่ยวสมุยจำนวน 161,998 คน ซึ่งสร้างรายได้ให้สมุยคิดเป็นมูลค่า 996 ล้านบาทแล้ว โดยรวมในปี 2547 สมุยจึงมีรายได้ด้านการท่องเที่ยวสะพัดในพื้นที่รวมทั้งสิ้น 11,315 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดสึนามิเมื่อปลายปี 2547 เป็นต้นมา ปรากฏว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนไม่น้อยที่เปลี่ยนเป้าหมายปลายทางการท่องเที่ยวพักผ่อนจากแหล่งท่องเที่ยวชายทะเลแถบอันดามัน และหันมาเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวชายทะเลฝั่งอ่าวไทยกันมากขึ้น โดยเฉพาะเกาะสมุย เกาะช้าง หัวหิน และชะอำซึ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

จากแนวโน้มดังกล่าวเมื่อผนวกกับปัจจัยสำคัญหลายประการที่ช่วยเกื้อหนุนการท่องเที่ยวสมุย ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเที่ยวสมุยจำนวนมากตลอดทั้งปี 2548 ไม่เฉพาะในช่วงฤดูท่องเที่ยวของสมุย คือ ระหว่างเดือนมกราคม-พฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงที่คลื่นลมสงบเหมาะแก่การท่องเที่ยว ทำให้สมุยไม่มีช่วงนอกฤดูท่องเที่ยวเช่นที่ผ่านมา ปัจจัยเกื้อหนุนการท่องเที่ยวสมุยที่สำคัญ ได้แก่

– การเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงต่อเนื่องติดต่อกันหลายครั้งในบริเวณใกล้เคียงกับที่เกิดสึนา มิเมื่อปลายปี 2547 ทำให้นักท่องเที่ยวที่นิยมเที่ยวชายทะเลบางส่วนหลีกเลี่ยงแหล่ง ท่องเที่ยวชายทะเลแถบฝั่งอันดามันที่เกิดสึนามิ เพราะยังหวั่นเกรงอันตรายจากแผ่น
ดินไหวและสึนามิ
– เหตุการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ตอนล่างส่งผลกระทบตลาดนักท่องเที่ยวมาเลเซียและสิงคโปร์ ที่ส่วนใหญ่นิยมเดินทางโดยรถยนต์เข้ามาเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวในแถบชายแดนภาคใต้ของไทย ทำให้มีนักท่องเที่ยวจากตลาดดังกล่าวบางส่วนหันมาเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวอื่นของไทยแทนซึ่งรวมทั้งสมุย

– การก่อวินาศกรรมบนเกาะบาหลีในเดือนตุลาคม 2548 ส่งผลกระทบแผนท่องเที่ยวในช่วงฤดูท่องเที่ยวของบรรดานักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนไม่น้อย โดยต่างหลีกเลี่ยงการเดินทางไปบาหลีและหันไปเที่ยวเมืองท่องเที่ยวชายทะเลแห่งอื่นในเอเชียแทน ซึ่งรวมทั้งเกาะสมุยของไทย ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้นหลังเกิดสึนามิ

– เกาะสมุยเป็นแหล่งท่องเที่ยวชายทะเลฝั่งอ่าวไทยซึ่งเป็นที่รู้จัก และได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงจากยุโรป อาทิ เยอรมนี อังกฤษ และฝรั่งเศส รวมทั้งญี่ปุ่น เกาหลี ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย และออสเตรเลีย เพราะนอกจากหาดเฉวงและหาดละไมที่คึกคักด้วยนักท่องเที่ยวแล้ว สมุยยังมีชายหาดอีกหลายแห่งที่สวยงามและเงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อน รวมทั้งมีสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมต่างๆรองรับนักท่องเที่ยวอย่างหลากหลายทั้งการดำน้ำ เล่นกอล์ฟ และสปา

สำหรับโดยรวมตลอดทั้งปี 2548 บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด คาดการณ์ว่า จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยวสมุยรวมทั้งสิ้นประมาณ 1.125 ล้านคนเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.0 ในจำนวนนี้ส่วนใหญ่ คือ ร้อยละ 85 หรือประมาณ 954,000 คนเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาเที่ยวเกาะสมุยเพิ่มขึ้นร้อยละ 23.0 จากปี 2547

จากการใช้จ่ายในด้านต่างๆระหว่างที่ท่องเที่ยวในเกาะสมุยของนักท่องเที่ยวจำนวน 1.125 ล้านคนนั้น คาดว่าจะก่อให้เกิดรายได้ด้านการท่องเที่ยวแก่เกาะสมุยคิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 24.0 จากปี 2547

เมื่อพิจารณารายได้ดังกล่าวประกอบกับโครงสร้างการใช้จ่ายในด้านต่างๆของนักท่องเที่ยวต่างชาติและนักท่องเที่ยวคนไทย ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ดำเนินการสำรวจไว้ล่าสุด คือ ปี 2547 ทำให้สามารถประมาณการในเบื้องต้นได้ว่า เม็ดเงินรายได้ด้านการท่องเที่ยวมูลค่า 14,000 ล้านบาทจะสะพัดไปสู่ธุรกิจด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญในสัดส่วนต่างๆ ดังนี้

– ธุรกิจบริการด้านที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว
ได้แก่ โรงแรม และรีสอร์ตที่มีอยู่จำนวนกว่า 390 แห่งซึ่งมีห้องพักรวมกันประมาณ 12,800 ห้อง คาดว่าจะมีรายได้จากการเข้าพักของนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติตลอดทั้งปี 2548 ในสัดส่วนร้อยละ 36 ของรายได้ด้านการท่องเที่ยวโดยรวมของสมุย หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 5,000 ล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 จากปี 2547

เป็นที่น่าสังเกตว่า โรงแรมและรีสอร์ตหรูระดับ 5 ดาวในสมุยยังมีจำนวนไม่มากนัก จึงมีการขยายการลงทุนในธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ตระดับหรูในสมุยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีทั้งที่ลงทุนสร้างขึ้นใหม่และที่ซื้อโครงการที่เปิดดำเนินการอยู่แล้วมาปรับปรุงรูปแบบ เพิ่มความหรูหรา และสิ่งอำนวยความสะดวกสบาย รวมทั้งใช้เชนต่างชาติชั้นนำในต่างประเทศเข้ามาบริหาร และปรับอัตราค่าห้องพักเพิ่มสูงขึ้นจากเดิม เพื่อรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวในตลาดระดับบน ที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน โดยโรงแรมและรีสอร์ตกลุ่มที่มีอัตราค่าห้องพักคืนละ 2,500 บาทขึ้นไปจะมีอัตราการเข้าพักสูงกว่ากลุ่มอื่นที่มีอัตราค่าห้องพักต่ำกว่า คือ มีอัตราการเข้าเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ประมาณกว่าร้อยละ 75

– ธุรกิจจำหน่ายสินค้าของที่ระลึกนักท่องเที่ยว
อาทิ ผ้าบาติก ผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าว เสื้อผ้ายืดสกรีน และเครื่องประดับ เป็นต้น คาดว่าจะมีรายได้จากนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี 2548 ในสัดส่วนร้อยละ 18 หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 2,500 ล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 23 จากปี 2547

– ธุรกิจภัตตาคารและร้านอาหาร
อาทิ ห้องอาหารในโรงแรมและรีสอร์ตที่นักท่องเที่ยวพัก ร้านอาหารพื้นบ้าน ร้านอาหารไทย ร้านอาหารทะเล ร้านอาหารฝรั่ง รวมทั้งร้านอาหารประเภทฟาสต์ฟู้ด คาดว่าจะมีรายได้จากนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี 2548 ในสัดส่วนร้อยละ 16 หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 2,300 ล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 22 จากปี 2547

– ธุรกิจบริการด้านบันเทิงและพักผ่อนรูปแบบต่างๆ
อาทิ ธุรกิจสปา และนวดแผนโบราณ สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เช่น ฟาร์มจระเข้ สวนสัตว์สมุย ฟาร์มงู สวนผีเสื้อ บ้านควายไทย และศูนย์การแสดงลิง เป็นต้น กิจกรรมเพื่อความบันเทิงต่างๆ และกิจกรรมด้านกีฬา อาทิ กอล์ฟ ดำน้ำ พายเรือคายัก พาราเซล เรือใบ สนามแข่งรถโกคาร์ท สนามยิงปืน และเพนท์บอล เป็นต้น คาดว่าจะมีรายได้จากนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี 2548 ในสัดส่วนร้อยละ 12 หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,700 ล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 23 จากปี 2547

– ธุรกิจบริการนำเที่ยวและการคมนาคมภายในสมุย
อาทิ ธุรกิจนำเที่ยวในท้องถิ่นซึ่งมีแพ็กเกจนำเที่ยวตามเกาะต่างๆขายนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเที่ยวสมุย ทั้งนี้เป็นการเที่ยวตามโปรแกรมที่บริษัททัวร์กำหนดไว้ รวมทั้งบริการรถเช่าซึ่งมีให้เลือกทั้งมอเตอร์ไซค์และรถยนต์ รถบริการสาธารณะทั้งรถสองแถวและรถโดยสาร และบริการเรือเช่าเหมาไปเที่ยวชมวิวรอบเกาะหรือไปเที่ยวยังเกาะต่างๆ เป็นต้น คาดว่าจะมีรายได้จากนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี 2548 ในสัดส่วนร้อยละ 11 หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,600 ล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 จากปี 2547