แม็ทชิ่งตะลุยทำสื่อในสยามหวังเป็น integrated communication company หลังสะบั้นสัมพันธ์กับเซ็นทรัลพัฒนา เลิกบริหารสื่อจอยักษ์หน้าเซ็นทรัลเวิลด์
ตี๋ แม็ทชิ่ง เล่าถึงที่มาของการทำธุรกิจของ Cheeze Media เบื้องต้น ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 120 ล้านบาท ว่าได้ไอเดียมาจากการดูงานแสดงสื่อใหม่ที่เนวาดา ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา
ไม่เพียงแต่การติดตั้งจอ LCD ขนาดใหญ่ ทั้งในและรอบบริเวณห้างสรรพสินค้าสยามเซ็นเตอร์ และ สยามดิสคัฟเวอรี่ จำนวน 80 จอ เท่านั้น แต่ยังครอบคลุมรวมไปถึงการทำธุรกิจ below the line โดยมี “วัยรุ่น” เป็นลูกค้าเป้าหมายหลัก
งานนี้แม็ทชิ่งลงทุนสร้างสตูดิโอขึ้นในบริเวณห้างสรรพสินค้า ให้วัยรุ่นที่อยากเด่นอยากดังได้มาแสดงออก เขาและเธอจะกลายเป็น content แพร่ภาพผ่านสื่อ Cheeze Media รวมถึงนิตยสาร Cheeze และยังสามารถไปแจ้งเกิดในวงการบันเทิงและแฟชั่นได้อีกด้วย
รายได้ของ Cheeze Media มาจากการให้สินค้าและบริการเช่าพื้นที่และเวลา สื่อโปสเตอร์ บิลบอร์ดและจอภาพ อัตรา 15 ล้านบาทต่อระยะเวลา 1 ปี ยังรวมไปถึงการรับจ้างจัด event marketing ภายในห้างด้วย
ลูกค้าเป้าหมายจะเป็นสินค้าแบรนด์ดังๆ อย่าง โตโยต้า พานาโซนิค แต่ยังรวมไปถึงร้านค้า ผู้เช่าพื้นที่ของห้าง เป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญด้วยเช่นกัน
“ร้านสินค้าแฟชั่นแบรนด์ต่างๆ ที่ยังไม่มี TVC เราสามารถผลิตให้เขาได้ รวมถึงการเป็น event organizer ให้อีกด้วย ภาพในงาน event จะถูกถ่ายทอดผ่านทางจอภาพกว่า 80 จอ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุด”
ตี๋ แม็ทชิ่ง เชื่อว่า “สื่อแบบนี้จะเติบโตได้เร็วหรือไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ กลุ่มเป้าหมายและซอฟต์แวร์” เป็นการเติบโตที่ตี๋มองว่าน่าลงทุน ในทางกลับกันสื่อ above the line เพียวๆ ได้รับความสนใจลดน้อยลง
ก้าวต่อไปของแม็ทชิ่ง คือ การจับมือกับพันธมิตรจากญี่ปุ่นผู้เชี่ยวชาญด้านแฟชั่น เพื่อแลกเปลี่ยน fashion trend กันทุกๆ ไตรมาส เพื่อก้าวขึ้นเป็นเจ้าแห่งธุรกิจสื่อครบวงจรที่เชี่ยวชาญเรื่องวัยรุ่นมากที่สุด
จุดเด่นของ Cheeze Media
-ผู้โดยสาร BTS เฉลี่ย 400,000 คนต่อวัน
-Traffic บริเวณสยาม ดิสคัฟเวอรี่ และสยามเซ็นเตอร์ ประมาณ 36 ล้านคนต่อปี
– จำนวนผู้เข้าออกทั้ง 2 ห้างในช่วงวันธรรมดา 100,000 คน และช่วงสุดสัปดาห์ 150,000 คน (ก่อนปรับปรุง)
-ติดตามตรวจผลการออกอากาศได้ทันที
คาดการณ์รายได้ของ Cheeze Media
โฆษณา 60% คอนเทนต์ 40%
