ดอลลาร์อ่อนไหว … หวั่น Fed ยุติดอกเบี้ยแพง ทองคำพุ่งในรอบ 18 ปี

เงินดอลลาร์สหรัฐฯ เคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 1.17-1.18 ดอลลาร์/ยูโร และ 118 เยน/ดอลลาร์ ท่ามกลางภาวะการซื้อขายเบาบาง เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้าในสหรัฐอเมริกา ปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อค่าเงินดอลลาร์ยังคงได้แก่ ทิศทางของอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯและอัตราดอกเบี้ยยุโรป ส่วนเงินปอนด์สเตอร์ลิงอังกฤษ มีค่าฟื้นตัว หลังจากธนาคารกลางอังกฤษแสดงท่าทีว่ายังคงรักษานโยบายอัตราดอกเบี้ยมั่นคงต่อไป สำหรับราคาทองคำในตลาดต่างประเทศ พุ่งสูงสุดในรอบ 18 ปี แตะที่ระดับเฉลี่ย 495 ดอลลาร์/ออนซ์ เป็นผลจากแรงซื้อจำนวนมากโหมสู่ตลาดโลหะมีค่า

เงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีค่าแผ่วเล็กน้อยในช่วงต้นสัปดาห์ เนื่องจากเงินยูโรได้รับแรงสนับสนุนจากถ้อยแถลงของนาย Jean-Claude Trichet ประธานธนาคารกลางยุโรป ที่ระบุว่าธนาคารพร้อมที่จะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ตลาดเงินหันมาซื้อเงินสกุลเดียวยุโรปกันอย่างคึกคัก เพราะการขึ้นอัตราดอกเบี้ยยุโรปจะช่วยลดความได้เปรียบของสกุลเงินดอลลาร์ลงบ้าง แต่อย่างไรก็ตาม ความต้องการซื้อเงินดอลลาร์หวนคืนหลับมาอีกระลอก หลังจากที่นาย Trichet แถลงต่อคณะกรรมาธิการรัฐสภายุโรปด้านเศรษฐกิจและการเงิน ที่ว่าถึงแม้ยุโรปจะเพิ่มอัตราดอกเบี้ย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นการปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉกเช่นเดียวกับธนาคารกลางสหรัฐฯในขณะนี้

เงินดอลลาร์มีค่าหวั่นไหวในเวลาต่อมา เมื่อรายงานการประชุมของคณะกรรมาธิการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯงวดประจำวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ปรากฏว่าที่ประชุมเริ่มให้ความสนใจในประเด็นเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่มากเกินไป ซึ่งอาจจะบั่นทอนการเติบโตทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในขณะเดียวกัน ก็ให้คำนึงถึงถ้อยคำที่ใช้ในการแถลงข่าวของแบงก์ชาติ เพื่อป้องกันการคาดคะเนของตลาดเงินในเรื่องนโยบายดอกเบี้ย รายงานการประชุมดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนเกรงว่าทางการสหรัฐฯอาจยุติการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้

นอกจากนี้ รายงานข่าวเกี่ยวกับภาวะการจ้างงานในตลาดแรงงานล่าสุดของสหรัฐฯก็ไม่ค่อยสดใสเท่าที่ควร ก็นับเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เงินดอลลาร์อ่อนตัวลง ประกอบกับใกล้ช่วงวันหยุดหลายวันของเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้า ทำให้การซื้อขายเริ่มเบาบาง แต่อย่างไรก็ตาม เงินดอลลาร์มีค่าขยับสูงขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์ เป็นผลจากค่าเงินยูโรทรุดต่ำลง จากรายงานดัชนีวัดความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมันลดลง อีกทั้ง ค่าเงินเยนก็ยังคงซบเซา ทั้งๆที่ตลาดหุ้นโตเกียวไต่ระดับสูงสุดในรอบ 5 ปี ด้วยเหตุนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่จึงยังคงให้ความสำคัญกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯต่อไป เมื่อเทียบกับเงินยูโรและเงินเยนญี่ปุ่น

เงินปอนด์อังกฤษ ตกอยู่ในสภาพง่อนแง่นในช่วงแรก เนื่องจากคาดกันว่าธนาคารกลางอังกฤษอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก หลังจากที่ได้ลดลงเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา อยู่ที่ระดับ 4.50% แต่อย่างไรก็ตาม เงินปอนด์มีค่าฟื้นดีขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่การเงินระดับสูงของธนาคารกลางอังกฤษได้ออกมาแสดงความคิดเห็นในทำนองเดียวกันว่า ธนาคารยังคงเฝ้าระมัดระวังเรื่องเงินเฟ้อ และต้องการรักษานโยบายการเงินมั่นคง โดยเฉพาะการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายเงินของธนาคารกลางครั้งล่าสุด ในที่ประชุมพร้อมใจกันให้คงอัตราดอกเบี้ยเท่าเดิม แม้ว่าตลาดบางส่วนจะเก็งกันว่าอังกฤษอาจลดอัตราดอกเบี้ยก็ตาม

ราคาทองคำในตลาดต่างประเทศ สร้างความสนใจให้แก่นักลงทุนอย่างมาก เมื่อราคาเฉลี่ยโน้มสูงถึง 495 ดอลลาร์/ออนซ์ ในช่วงต้นสัปดาห์ ซึ่งเป็นราคาสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2530 โดยราคาพุ่งถึง 502 ดอลลาร์/ออนซ์ ทั้งนี้ ราคาทองคำเคยทำสถิติสูงถึง 850 ดอลลาร์/ออนซ์ ในช่วงต้นทศวรรษ 1980 การที่ราคาทองคำไต่ระดับสูงอย่างต่อเนื่องในระยะนี้ เป็นผลจากพลังซื้อจำนวนมากของกองทุนต่างๆที่ต้องการถือทองคำและโลหะมีค่าอื่นๆ โดยเฉพาะหลังจากมีรายงานข่าวที่ว่าความต้องการทองคำในไตรมาสที่ 3 เพิ่มขึ้นถึง 7% จากปีก่อน ได้จูงใจให้นักลงทุนเก็งกันว่าความต้องการทองคำน่าจะยังคงเข้มแข็งไปจนถึงสิ้นปีนี้ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิตเครื่องประดับต่างๆ ขณะเดียวกัน ราคาทองคำยังได้รับข่าวดีที่ว่าธนาคารกลางบางแห่งอาจต้องการถือทองคำสำรองเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ราคาทองคำเข้มแข็งตามไปด้วย แม้ว่าโดยทั่วไป ราคาทองคำจะมีทิศทางสวนทางกับค่าเงินดอลลาร์ แต่ปัจจุบันราคาทองคำกลับเคลื่อนไหวอย่างอิสระตามแรงซื้อของตลาด ซึ่งคาดกันว่าราคาทองคำมีแนวโน้มแตะที่ 500 ดอลลาร์/ออนซ์ ภายในสิ้นปี 2548

อัตราแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เทียบกับเงินตราสำคัญสกุลต่างๆ ณ วันที่ 21 พฤศจิกายน 2548 เทียบกับวันที่ 24 พฤศจิกายน 2548 (ตัวเลขในวงเล็บ) มีดังนี้
เงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีค่าเท่ากับ 1.1731 ดอลลาร์/ยูโร (1.1789 ดอลลาร์/ยูโร) 118.99 เยน (118.95 เยน) และ 1.7175 ดอลลาร์/ปอนด์ (1.7231 ดอลลาร์/ปอนด์)
ราคาทองคำในตลาดลอนดอน เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2548 เท่ากับ 488.40 ดอลลาร์/ออนซ์ เทียบกับราคา 493.75 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2548