ต้องรู้ทุกอย่าง แต่อย่าทำทุกอย่าง…คำคมจาก CEO แอดว๊านส์ คอสเมติคส์

ต้องรู้ทุกอย่าง แต่อย่าทำทุกอย่าง……สมพงษ์ ตันติวิไลศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทแอดว๊านส์ คอสเมติคส์ จำกัด

อยากให้ทุกคนทำงานอย่างสบายใจ ช่วงพักกลางวันนั้น บริษัทจัดอาหารบริการฟรี แล้วยังมีคาราโอเกะให้ได้รีแล็กซ์กันอีกด้วย ประหยัดทั้งเงินและเวลา เมื่อได้สังสรรค์กันก็เท่ากับเสริมสร้างความสามัคคีไปในตัว มีแต่รอยยิ้มให้กัน เมื่อพนักงานสบายใจคลายเครียดก็ทำงานได้มากขึ้น

………………………………………………………………………………………..

“เราเริ่มต้นจากธุรกิจครอบครัว แต่ขณะนี้เราทำงานกันแบบมืออาชีพ”นายใหญ่แห่งบริษัทแอดว๊าดส์ คอสเมติกส์ พูดถึงสไตล์การทำงานที่เปลี่ยนรูปแบบจากความเป็นครอบครัว ที่แม้จะมีกลิ่นไอไทยๆหลงเหลืออยู่ แต่มีระบบที่เป็นสากลมาควบคุมอย่างใกล้ชิด

การทำงานของเราค่อนข้างรัดกุม การเสนองานของพนักงาน หากให้ทำหนึ่งอย่าง ต้องทำมา 3 อย่าง เผื่อไว้เลือก จะได้ไม่เสียเวลา อีกอย่างที่เป็นหัวใจของเราก็คือการให้โอกาสทีมงาน ได้ทำงาน ได้ขยายมุมมอง โฟกัสในหลายๆอย่าง

มีอยู่ครั้งหนึ่ง พนักงานฝ่ายผลิต เขาใช้เวลาว่าง ทำเครื่องจักรในราคาแค่ 4 หมื่นบาท จากที่เราซื้อมา 10 ล้านบาท อย่างนี้เราต้องสนับสนุนเขา ถ้าทำดี เงินเดือนไม่ขึ้นจะมีผลต่อสภาพจิตใจ เราจะเน้นที่เนื้องาน ส่วนเรื่องลา ขาด มาสาย เป็นอันดับรอง ถ้าใครทำงานดี เราจะมีป้ายโบว์แดงให้เลย

ที่สำคัญ ฝ่ายบุคคลจะต้องคอยสอดส่อง ทำตัวเป็นนักสืบ พนักงานมีปัญหาอะไร มีภาระอะไรบ้าง ต้องคอยดูแลและพูดคุยกับเขา

อีกประการหนึ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือการกระจายอำนาจ เพื่อให้ผู้บริหารในแต่ส่วนได้ตัดสินใจและรับผิดชอบ ซึ่งเขายืนยันว่าในเมื่อเราไม่สามารถทำได้ทุกเรื่อง ก็ต้องสร้างคนขึ้นมาขึ้นมารับผิดชอบ

ข้อสำคัญ เราในฐานะผู้นำ ต้องรู้ทุกอย่าง แต่ไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่าง

แล้วสิ่งหนึ่งที่ต้องคอยดูแล ก็คือท่ามกลางคนหมู่มาก อาจจะตามมาด้วยการขัดแย้งกันในกลุ่มต่างๆ ซึ่งเขาบอกว่านี่คือลางร้ายของบริษัททีเดียว

ฉะนั้นต้องรีบเข้าแก้ไข ละลายพฤติกรรมเหล่านี้ในทันที ให้ทุกคนได้รู้ว่าต้องร่วมมือกัน มีผลประโยชน์ร่วมกัน มีกระเป๋าสตางค์ใบเดียวกัน พร้อมๆกับการสร้างความสามัคดีโดยใช้เสียงเพลงเป็นตัวสมานฉันท์ ที่ใครๆก็คาดไม่ถึง

อยากให้ทุกคนทำงานอย่างสบายใจ ช่วงพักกลางวันนั้น บริษัทจัดอาหารบริการให้ฟรี แล้วยังมีคาราโอเกะให้ได้รีแล็กซ์อีกด้วย ประหยัดทั้งเงินและเวลา เมื่อได้สังสรรค์กัน ก็เท่ากับเสริมสร้างความสามัคคีไปในตัว มีแต่รอยยิ้มให้กัน เมื่อพนักงานสบายใจคลายเครียด ก็ทำงานได้มากขึ้น

การยืนยันอีกครั้งกับนโยบายแห่งความสุขและความสบาย อันมีผลพลอยได้ที่ตามมาคือ
ประสิทธิภาพการทำงาน ก็คือหลังจากที่ราคาน้ำมันถีบตัวสูงขึ้น ทำให้ข้าวยากหมากแพงไปทั่ว เพื่อสอดคล้องกับภาวะการครองชีพที่เปลี่ยนไป บริษัทแอดว๊านซ์ คอสเมติคส์ก็เปลี่ยนกำหนดวันทำงานใหม่ทันที

จากที่เคยทำงาน 6 วัน จันทร์ถึงเสาร์ก็เปลี่ยนมาเป็นเพิ่มจำนวนชั่วโมงทำงานมากขึ้น แล้ววันทำงานเหลือ 5 วัน ซึ่งปรากฏว่าทุกอย่างกลับดีขึ้น

ประเมินผลออกมา ค่าไฟก็ลดลง ค่าอาหารกลางวันก็หายไป ในขณะที่งานเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการสร้างความมั่นใจให้กับพนักงาน ว่าที่นี่คือที่มั่นแห่งชีวิตของเขาแน่นอน โดยที่พนักงานคนไหนมีอายุทำงาน 20 ปีขึ้นไป บริษัทจะซื้อประกันชีวิตให้ทันที

คนเก่าคนแก่มีประโยชน์ แม้ความคิดความอ่านจะไม่ทันคนรุ่นใหม่ แต่เป็นหูเป็นตาแทนเราได้ และมีประสบการณ์เยอะ องค์ของเราเน้นการเรียนรู้ทั้งคนรุ่นใหม่และคนรุ่นเก่า

นี่คือบริษัทคนไทยและมุมมองของผู้นำที่พยายามชี้ถึงความแตกต่างจากผู้บริหาร ซึ่งหลายกลยุทธ์และหลายมุมมอง ต้องบอกว่าแปลกแยกออกไปไม่น้อย

ซึ่งแน่นอนว่า อาจจะเป็นหนึ่งในคัมภีร์การบริหารของผู้นำที่น่าจับตาอย่างยิ่ง!!

หมายเหตุ….รายละเอียดจากคอลัมภ์ THE BEST CEO หนังสือพิมพ์..สยามธุรกิจ…ฉบับวันอังคารที่ 20 ธันวาคม พ.ศ.2548