ยุโรปชี้ยาใหม่ Ferriprox ยื้อชีวิตผู้ป่วยธาลัสซีเมีย

กรุงเทพฯ, 12 มกราคม 2549 – ผลการวิจัย 2 ชิ้นล่าสุดระบุว่าการรักษาด้วยยารับประทานที่ใช้กำจัดธาตุเหล็ก ที่มีชื่อว่า Ferriprox (deferiprone) สามารถป้องกันโรคหัวใจบกพร่องที่เกิดจากธาตุเหล็กและสามารถลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรในผู้ป่วยธาลัสซีเมีย ซึ่งเป็นโรคที่มีผลตลอดชีวิต ต้องเปลี่ยนถ่ายเลือดทุกๆ 2-4 สัปดาห์ และทำให้เกิดการสะสมของสารพิษที่หัวใจ ไต และต่อมไร้ท่อ

ในประเทศไทยพบผู้ที่เป็นโรคธาลัสซีเมียชนิดต่างๆ ประมาณร้อยละ 1 ดังนั้นจึงมีผู้ป่วยธาลัสซีเมียราว 600,000 คน*

ข้อมูลจากวารสาร Blood ที่ตีพิมพ์ทางอินเตอร์เน็ตและถูกนำเสนอในสัปดาห์นี้ในการประชุมประจำปีของ สมาพันธ์ธาลัสซีเมียนานาชาติ หรือ Thallassemia International Federation (TIF) ในดูไบ แสดงให้เห็นว่า Ferriprox มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคหัวใจได้ดีกว่า deferoxamine (DFO) ซึ่งเป็นการรักษามาตรฐานในปัจจุบัน แม้ว่า DFO จะช่วยให้การรอดชีวิตในผู้ป่วยธาลัสซีเมียดีขึ้น แต่โรคหัวใจก็ยังคงเป็นสาเหตุหลักของการตายมากที่สุดถึง 70 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วย DFO ซึ่งจะเสียชีวิตในช่วงอายุระหว่าง 20-30 ปี

การให้ยาขับเหล็กเป็นวิธีรักษาที่ให้ผลดีเพื่อขับธาตุเหล็กส่วนเกินจากหัวใจ ก่อนหน้านี้ การรักษามีเพียง DFO ซึ่งใช้ฉีดเข้าไปใต้ผิวหนัง 8-12 ชั่วโมง เป็นเวลา 5-7 วันต่อสัปดาห์ แต่ครั้งนี้ได้มีทางเลือกใหม่คือ Ferriprox ซึ่งเป็นยาขับเหล็กในรูปของยารับประทานชนิดแรก ที่ได้รับการรับรองใน 48 ประเทศ รวมถึงสหภาพยุโรป ฮ่องกง และประเทศไทย ซึ่งได้รับรองจากกระทรวงสาธารณสุขแล้ว เพื่อใช้ในการรักษาภาวะเหล็กเกินในผู้ป่วยธาลัสซีเมียที่ไม่สามารถให้ DFO หรือผู้ป่วยที่มีภาวะข้างเคียงอย่างรุนแรงจากการรักษาด้วย DFO

การศึกษาที่ 1 การศึกษาแบบ RCT ของ Deferiprone หรือ Deferoxamine ในผู้ป่วยโรคเบต้าธาลัสซีเมียที่มีภาวะ Asymptomatic Myocardial Siderosis

นักวิจัยจากสหราชอาณาจักร อิตาลีและกรีซ ได้ใช้ Magnetic Resonance Imaging (MRI) เพื่อประเมินค่า myocardial T2 ที่เป็นตัวบ่งชี้ถึงภาวะการมีธาตุเหล็กในหัวใจ ในผู้ป่วยเบต้าธาลัสซีเมียจำนวน 61 คน ถูกสุ่มเลือกให้ได้รับการรักษาด้วย DFO 32 คน หรือเปลี่ยนเป็น Ferriprox 29 คน โดยผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาโดยใช้ Ferriprox พบว่าการทำงานของหัวใจดีขึ้น กระนั้นผู้ป่วยบางรายที่ได้รับ Ferriprox อาจมีการอาการข้างเคียง อาทิ คลื่นไส้ อาเจียน หรือ อาการปวดท้อง ในระยะสั้นๆ ซึ่งอาจเกิดในสัปดาห์แรกของการรักษา และจะหายไปในช่วง 3 วันโดยไม่ต้องลดยาหรือหยุดยา

ดร. ดัดลีย์ เพนเนล นักวิจัยหลักและ ศาสตราจารย์แผนกโรคหัวใจ โรงพยาบาลบร๊อมพ์ตัน ลอนดอน ประเทศอังกฤษ กล่าวว่า “ผลการศึกษาเหล่านี้เป็นที่น่าตื่นเต้นเพราะได้แสดงให้เห็นว่า Ferriprox ทำให้เหล็กเข้าหัวใจได้น้อยกว่ายาชนิดเดิม และทำให้ขับเหล็กจากหัวใจได้ดี”

การศึกษาที่ 2 ความผิดปกติและการเสียชีวิตจากโรคหัวใจในการรักษาด้วย Deferoxamine หรือ Deferiprone ในผู้ป่วยเบต้าธาลัสซีเมีย

การศึกษาที่ทำระหว่างมกราคม 1995 จนถึง ธันวาคม 2003 นักวิจัยจากสถาบันโรคธาลัสซีเมียในอิตาลี 7 แห่งเปรียบเทียบภาวะการเกิดโรคหัวใจและการเสียชีวิตของผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมียซึ่งได้รับการรักษาด้วย DFO หรือ Ferriprox โดยนักวิจัยได้เก็บข้อมูลเชิงระบาดวิทยา วันที่เกิดอาการทางหัวใจ วันและสาเหตุการเสียชีวิต โดยผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วย Ferriprox ไม่พบอาการของโรคหัวใจ ในขณะที่มีผู้ป่วยถึง 52 รายที่ได้รับการรักษาด้วย DFO มีอาการของโรคหัวใจและเสียชีวิต 15 ราย

เกี่ยวกับ Ferriprox

Ferriprox เป็นตัวกำจัดธาตุเหล็กตัวแรกของทวีปยุโรปที่อยู่ในรูปของยารับประทาน และได้รับการรับรองในเดือนสิงหาคม 1999 ให้เป็นการรักษาสำรองสำหรับผู้ป่วยธาลัสซีเมียที่ไม่ต้องได้รับการถ่ายเลือด นับตั้งแต่นั้น ได้มีการใช้ Ferriprox ในผู้ป่วยหลายพันคนใน 50 ประเทศทั่วโลก Ferriprox (deferiprone) ได้ถูกรับรองให้ใช้ในปริมาณ 75-100 มก./ กก./ วัน และผู้ป่วยต้องได้รับการดูแลเป็นประจำทุกสัปดาห์เพื่อตรวจหาสัญญาณที่บ่งบอกถึงการลดลงของเซลล์เม็ดเลือดขาว Ferriprox จะทำการรวบรวมธาตุเหล็กส่วนเกินและกำจัดออกจากร่างกายทางปัสสาวะ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ และช่วยยืดอายุขัยของผู้ป่วยออกไปได้

เกี่ยวกับ ApoPharma เป็นสมาชิกผู้ผลิตยาของบริษัท Apotex Group of Companies ในแคนาดา ApoPharma มุ่งพัฒนาและผลิตยาที่ใช้ในการกำจัดธาตุเหล็กและรักษาบาดแผลที่หายยาก