กรุงเทพฯ — สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) ร่วมกับสมาคมการบรรจุภัณฑ์และสมาคมการพิมพ์ไทย พร้อมผสานความเป็นมืออาชีพของเมสเซ่ ดูเซดอร์ฟ องค์กรด้านการจัดนิทรรศการการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ระดับโลก ประกาศความเชื่อมั่นในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่าง 4 องค์กร เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมการบรรจุภัณฑ์และการพิมพ์ไทยสู่นานาชาติและส่งเสริมศักยภาพของประเทศไทยสู่ศูนย์กลางการจัดนิทรรศการระดับโลก ในการจัดงานนิทรรศการสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์นานาชาติครั้งแรกในประเทศไทย ภายใต้ชื่อ แพ็ค พริ้นท์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2007 (Pack Print International 2007) ระหว่างวันที่ 26-29 เมษายน พ.ศ. 2550
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รองนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจในครั้งนี้กล่าวว่า “งาน Pack Print International 2007 ถือได้ว่าเป็นการต่อยอดความสำเร็จของประเทศไทย ในการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์ของการจัดงาน ประชุม และ แสดงงานนิทรรศการระดับสากลเพื่อนำประเทศไปสู่การเป็นประเทศผู้นำในภูมิภาคอาเซียนนี้ การร่วมมือจัดแสดงงานบรรจุภัณฑ์นานาชาติและงานสิ่งพิมพ์ หรือ Pack Print International 2007 นับเป็นงานที่สร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยกับนานาประเทศที่เข้าร่วมและเยี่ยมชมงาน อีกทั้งงานครั้งนี้ถือเป็นการจัดงานบรรจุภัณฑ์และสิ่งพิมพ์ที่ใหญ่ที่สุดในภาคพื้นเอเชียภายในงานจะมีการนำเทคโนโลยีล่าสุดทางด้านเครื่องจักร อุปกรณ์ พร้อมทั้งวัตถุดิบ พร้อมทั้งนวัตกรรม และแนวความคิดใหม่ๆ ด้านการบรรจุภัณฑ์และงานสิ่งพิมพ์ต่างๆ จากทั่วโลก เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานแสดงนิทรรศการดังกล่าว ใช้เป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็นและกลยุทธ์ใหม่ๆ ในวงการบรรจุภัณฑ์และสิ่งพิมพ์ งาน Pack Print International 2007 จะเป็นงานที่ตอกย้ำจุดยืนของประเทศไทยที่พร้อมจะเป็นประเทศผู้นำการประชุมและนิทรรศการ และยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของธุรกิจในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์และงานสิ่งพิมพ์ ของประเทศไทยที่ได้เข้าไปมีบทบาทในหลากหลายอุตสาหกรรม ทั้งในประเทศและต่างประเทศ”
ด้านนายพีระพงษ์ เอื้อสุนทรวัฒนา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. ในฐานะผู้นำนิทรรศการดังกล่าวเข้ามาจัดในประเทศไทย กล่าวว่า “ สสปน. ได้ดำเนินการเจรจากับ เมสเซ่ ดูเซดอร์ฟ ซึ่งเป็นองค์กรชั้นนำระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญในการจัดนิทรรศการสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์โลกจนประสบความสำเร็จมาแล้วทั้ง Drupa และ Interpack รวมทั้งได้เจรจากับสมาคมการบรรจุภัณฑ์ไทยและสมาคมการพิมพ์ไทย ในการร่วมกันนำนิทรรศการดังกล่าวมาจัดในประเทศไทยเพื่อผลทางการค้า การลงทุน และยังเป็นการเปิดมิติอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์และสิ่งพิมพ์ให้เชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมดังกล่าวในระดับโลก ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศต่อไป”
“งาน Pack Print International 2007 จะเป็นงานที่ดึงดูดความสนใจของกลุ่มนักธุรกิจ นักลงทุนในอุตสาหกรรมการบรรจุภัณฑ์และสิ่งพิมพ์เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นงานที่มีศักยภาพสูงและเป็นเวทีที่จะนำพวกเขาให้ได้พบปะกับผู้นำในธุรกิจและผู้นำในเทคโนโลยีการบรรจุภัณฑ์และงานสิ่งพิมพ์ อันจะก่อให้เกิดการเจรจาทางการค้าและการซื้อขายอย่างเป็นรูปธรรมและเป็นการส่งเสริมการส่งออกอีกทางหนึ่งด้วย” นายพีระพงษ์ กล่าวเสริม
นายวิเทียน นิลดำ นายกสมาคมการบรรจุภัณฑ์ไทย กล่าวว่า“สมาคมบรรจุภัณฑ์รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลเล็งเห็นความสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ของไทยโดยเป็นให้การสนับสนุนการจัดงาน แพ็ค พริ้นท์ อินเตอร์เนชั่นแนล ในปี พ.ศ. 2550 บรรจุภัณฑ์นับเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มมูลค่าสินค้าส่งออกและทำให้ตลาดต่างประเทศยอมรับในการนำเข้าสินค้าของไทยมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อรัฐบาลให้การสนับสนุนการส่งออกมากขึ้น บรรจุภัณฑ์ซึ่งติดไปกับตัวสินค้าก็จะส่งออกได้มากตามไปด้วย สำหรับงาน แพ็ค พริ้นท์ อินเตอร์เนชั่นแนล ในปีหน้านั้น ผมเชื่อว่าจะมอบประโยชน์มหาศาลให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องกับบรรจุภัณฑ์และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องทั้งผู้ผลิตเครื่องจักรที่สามารถนำเทคโนโลยีการผลิตบรรจุภัณฑ์ใหม่ๆ มาแสดงในงาน ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์เองก็มีโอกาสได้สัมผัสกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์จากต่างประเทศ เป็นการเปิดโลกทัศน์ของผู้ผลิตภายในประเทศ และยังเป็นการกระตุ้นความตื่นตัวที่จะพัฒนาขีดความสามารถของตัวเองให้ได้มาตรฐานการบรรจุภัณฑ์ของโลกและนำบรรจุภัณฑ์ของไทยสู่ตลาดโลกได้ง่ายดายยิ่งขึ้น ในส่วนของผู้บริโภคหรือผู้ใช้บรรจุภัณฑ์นั้นก็จะมีทางเลือกใหม่ๆ ในการเลือกซื้อหาบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมอีกทั้งยังได้รับทราบถึงคุณประโยชน์ของบรรจุภัณฑ์ที่มิได้เป็นเพียงวัสดุสำหรับใส่สินค้าเท่านั้น แต่ยังปกปักรักษาและสร้างมูลค่าเพิ่มได้อีกด้วย”
“นอกจากนั้น บรรจุภัณฑ์ไทยยังเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยผลักดันความสำเร็จให้กับโครงการต่างๆของรัฐบาล โดยเฉพาะการส่งเสริมสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์หรือ โอทอป ซึ่งก่อนหน้านี้มีมูลค่าขายทั้งในประเทศและต่างประเทศไม่กี่ร้อยล้านบาทแต่เมื่อมีการพัฒนาทั้งตัวผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์โดยรัฐบาล ให้การสนับสนุนอย่างดีและต่อเนื่อง สินค้าโอทอปที่บรรจุในบรรจุภัณฑ์ที่สวยงามได้มาตรฐานสากลสามารถเพิ่มมูลค่าขายทั้งในประเทศและต่างประเทศเกือบ 1 แสนล้านบาทในปี 2548 หรือ นโยบายส่งเสริมครัวไทยสู่ครัวโลก ก็เกี่ยวเนื่องกับบรรจุภัณฑ์เช่นกัน เนื่องจากพืชผลทางการเกษตรรวมทั้งพืชผักสวนครัวที่เป็นองค์ประกอบหลักในการทำอาหารไทย หรือแม้แต่อาหารไทยปรุงสำเร็จรูปหรือ กึ่งสำเร็จรูปทั้งหลายก็ต้องพึ่งพาบรรจุภัณฑ์ที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในเรื่องของการเก็บรักษาคุณภาพได้ยาวนาน คงรสชาติ และความสะอาดของอาหารได้ดีขึ้นซึ่งในส่วนนี้เราจำเป็นต้องอาศัยเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการค้นคว้าวิจัยถึงวัสดุในการผลิตบรรจุภัณฑ์ให้ตอบสนองกับความต้องการดังกล่าวได้”
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล นายกสมาคมการพิมพ์ไทย กล่าวว่า “แพ็ค พริ้นท์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2007” จะเป็นงานจัดแสดงนิทรรศการเทคโนโลยีการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่ประเทศไทยเคยจัดมาซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของสมาคมการพิมพ์ไทย ที่ได้ประกาศว่าจะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการพิมพ์ในภูมิภาคอาเซียน (พริ้นติ้งฮับ) และตั้งเป้าการส่งออกสิ่งพิมพ์ให้ได้ 3 หมื่นล้านบาทต่อปี งานนิทรรศการดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมและยกระดับมาตรฐานสิ่งพิมพ์ของผู้ประกอบการธุรกิจการพิมพ์ไทยให้พัฒนาศักยภาพเพื่อสามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ ภายในงานดังกล่าวจะประกอบไปด้วย ผู้ผลิตเครื่องจักรชั้นนำของโลก รวมถึงผู้ผลิตและจำหน่ายวัตถุดิบ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่องทางด้านการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ครบวงจร ตั้งแต่ ขบวนการก่อนการพิมพ์ พิมพ์ และหลังการพิมพ์ ผู้ประกอบการของไทยจะได้มีโอกาสศึกษาและเลือกซื้อเครื่องจักรที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต พร้อมกันนี้ตลอดงานนิทรรศการได้มีการจัดสัมมนาทางด้านวิชาการต่างๆขึ้นทุกวัน โดยได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์จาก ทั่วโลกมาให้ความรู้ และชี้แนะทิศทางของความต้องการของสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ในตลาดโลก เพื่อผู้ประกอบการของไทยจะได้เตรียมตัวให้พร้อมและทันเหตุการณ์ตลอดเวลา”
ในส่วนของเมสเซ่ ดูเซดอร์ฟ ซึ่งเป็นองค์กรมืออาชีพในการจัดงานนิทรรศการการบรรจุภัณฑ์และสิ่งพิมพ์นานาชาติ โดยนายเวอร์เนอร์ ดอร์นเชดท์ ซีอีโอ ของเมสเซ่ ดูเซดอร์ฟ กล่าวถึงการจัดงานในครั้งนี้ว่า “ประเทศไทยมีศักยภาพและความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพจัดงาน Pack Print International 2007 เนื่องจากรัฐบาลเล็งเห็นความสำคัญของอุตสาหกรรมการบรรจุภัณฑ์และการพิมพ์โดยให้ความสนับสนุนอย่างเต็มที่ อีกทั้งสมาคมการพิมพ์ไทยและการบรรจุภัณฑ์ไทยก็มีความแข็งแกร่งในการรวบรวมกลุ่มนักธุรกิจและผู้ผลิต
บรรจุภัณฑ์และสิ่งพิมพ์ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญให้มาร่วมกันเป็นเจ้าภาพในการจัดงาน และพบปะกับนักลงทุนต่างประเทศ ดังนั้น ความร่วมมือในครั้งนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกันของทั้งอุตสาหกรรมการบรรจุภัณฑ์และการพิมพ์และยังส่งเสริมนโยบายการเป็นศูนย์กลางการจัดงานระดับโลกของประเทศไทยให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น เราตั้งเป้าหมายที่จะเชิญชวนบริษัทต่างชาติเข้าร่วมงานกว่า 300 บริษัททั่วโลกและผู้ประกอบและนักลงทุนกว่า 2 หมื่นราย จากภูมิภาคเอเชีย”
ผู้ประกอบการหรือผู้ที่สนใจทั่วไป สามารถหารายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การจัดงาน Pack Print International 2007 ได้ที่เว็บไซต์ www.pack-print.de