เงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีค่าร่วงลงต่ำสุดในรอบ 7 เดือน เมื่อเทียบกับเงินยูโร เนื่องจากตลาดเงินคาดการณ์ว่าสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่อาจยุติการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้านี้ หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ทยอยขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาเกือบ 2 ปี ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ระดับ 4.75% อีกทั้งสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯ ก็มีส่วนกดดัดค่าเงินดอลลาร์ด้วย ส่วนเงินปอนด์สเตอร์ลิงอังกฤษ มีค่าเข้มแข็งจากท่าทีของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษที่อาจรักษาอัตราดอกเบี้ยเท่าเดิมต่อไป มากกว่าที่จะปรับลดต่ำลง สำหรับราคาทองคำในตลาดต่างประเทศยังคงร้อนแรง จากปริมาณการซื้ออย่างมากจากนักเก็งกำไรและกองทุนต่างๆ ส่งผลให้ราคาทองคำสูงเกือบถึงระดับ 630 ดอลลาร์/ออนซ์
เงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีค่าหวั่นไหวและทรุดต่ำลง เมื่อนักลงทุนส่วนใหญ่คาดคะเนว่าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ น่าจะใกล้ถึงจุดสูงสุดแล้ว และทางการสหรัฐฯ อาจยุติการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากรายงานการประชุมล่าสุดของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ส่งสัญญาณว่ามาตรการนโยบายการเงินเข้มงวดกำลังจะสิ้นสุดในไม่ช้านี้ ประกอบกับถ้อยแถลงของ Janet Yellen ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯประจำ San Francisco ที่มองว่าสถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เริ่มอ่อนแรงลง และทางการยังควบคุมภาวะเงินเฟ้อได้เป็นอย่างดี น่าจะช่วยให้การปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ยุติลง อีกทั้งรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯบางรายการ อาทิ ดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดสร้างบ้านและยอดขายบ้าน ภาวะการผลิตภาคอุตสาหกรรม ที่ล้วนอยู่ในช่วงขาลง ก็มีส่วนทำให้ตลาดเงินคาดว่าทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ น่าจะเริ่มทรงตัว
ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งที่กดดันค่าเงินดอลลาร์ ได้แก่ เหตุการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่านในกรณีนิวเคลียร์ จนเกรงกันว่าอาจปะทุกลายเป็นสงคราม ส่งผลให้ตลาดน้ำมันโลกปั่นป่วน จนราคาน้ำมันพุ่งทะลุ 70 ดอลลาร์/บาร์เรล ก่อให้เกิดความหวั่นไหวแก่ค่าเงินดอลลาร์ เนื่องจากสหรัฐฯ เป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่แห่งหนึ่งของโลก ดังนั้น ราคาน้ำมันแพงจึงส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในที่สุด
เป็นที่น่าสังเกตว่า การเดินทางไปเยือนสหรัฐฯ ของประธานาธิบดี Hu Jintao แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้มีส่วนทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนแรงลงชั่วขณะ เป็นผลจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนบางคนออกมาแสดงความคิดเห็นให้จีนลดการลงทุนในพันธบัตรสหรัฐฯ แต่อย่างไรก็ตาม การพบปะระหว่างประธานาธิบดี Hu Jintao กับ George W. Bush ผู้นำสหรัฐฯ กลับไม่ได้มีผลกระทบต่อตลาดเงินมากนัก หลังจากที่ Hu Jintao ประกาศที่จะปฏิรูปการเงินของจีนต่อไป และเพิ่มความยืดหยุ่นของอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินหยวนกับเงินดอลลาร์ ซึ่งสร้างความผิดหวังให้แก่ตลาดเงินเพราะผู้นำจีนมิได้ให้รายละเอียดในประเด็นดังกล่าว
เงินปอนด์อังกฤษ ได้รับผลดีจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่ลดต่ำลงอย่างมาก รวมถึงรายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษที่ยังคงต้องการรักษาระดับอัตราดอกเบี้ยมั่นคงต่อไป เนื่องจากวิกฤตการณ์ราคาน้ำมันแพง ส่งผลให้ทางการอังกฤษยังไม่ไว้วางใจภาวะเงินเฟ้อ และเห็นว่าประชาชนเริ่มกังวลเกี่ยวกับราคาสินค้าที่อาจปรับสูงขึ้น ทำให้รัฐบาลจำเป็นต้องจับตาปัญหาด้านราคาสินค้าและราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิด ก่อนที่จะปรับเปลี่ยนทิศทางนโยบายการเงิน อย่างไรก็ตาม เงินปอนด์มีค่าลดต่ำลงในช่วงปลายสัปดาห์ เพราะการเทขายเอากำไรจากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจอังกฤษบางรายการ
ราคาทองคำในตลาดต่างประเทศ ทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ในรอบ 25 ปี อย่างต่อเนื่อง เป็นผลจากแรงซื้อทองคำที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ราคาน้ำมันโลกพุ่งผ่านแนวต้าน 70 ดอลลาร์/บาร์เรล และมีการคาดคะเนว่าราคาน้ำมันอาจแตะที่ 80 ดอลลาร์/บาร์เรล ปลุกกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อรุนแรงทั่วโลก ทำให้ทองคำกลับมามีบทบาทโดดเด่นในฐานะหลักทรัพย์มั่นคงปลอดภัยยามเกิดเงินเฟ้อ ยิ่งไปกว่านั้น วิกฤตการณ์เรื่องนิวเคลียร์ของอิหร่าน รวมถึงความวุ่นวายในประเทศไนจีเรีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันรายสำคัญของโลก ก็มีส่วนกระตุ้นให้นักลงทุนต้องการถือทองคำเก็บไว้ในยามคับขัน ปัจจัยพื้นฐานอีกประการหนึ่งที่หนุนให้ราคาทองคำเข้มแข็ง ก็คือ ความอ่อนแอของค่าเงินดอลลาร์ในระยะนี้ ปัจจุบันราคาทองคำซื้อขายอยู่เหนือระดับราคาเฉลี่ย 600 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับราคาที่เพิ่มขึ้น 46% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน หรือเพิ่มขึ้น 20% จากต้นปี 2549 และนับเป็นราคาทองคำที่สูงขึ้นกว่า 2 เท่าในรอบ 3 ปี
อัตราแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เทียบกับเงินตราสำคัญสกุลต่างๆ ณ วันที่ 17 เมษายน 2549 เทียบกับวันที่ 20 เมษายน 2549 (ตัวเลขในวงเล็บ) มีดังนี้
เงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีค่าเท่ากับ 1.2250 ดอลลาร์/ยูโร (1.2315 ดอลลาร์/ยูโร) 117.81 เยน (117.54 เยน) และ 1.7696 ดอลลาร์/ปอนด์ (1.7788 ดอลลาร์/ปอนด์)
ราคาทองคำในตลาดลอนดอน เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2549 เท่ากับ 616.60 ดอลลาร์/ออนซ์ เทียบกับราคา 614.50 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2549
