เงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีค่าแกว่งอยู่ในช่วง 1.27-1.28 ดอลลาร์/ยูโร ท่ามกลางความไม่แน่ใจเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯและการคาดคะเนแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยยุโรป ส่วนเงินเยนมีค่าเข้มแข็งชัดเจน เป็นผลจากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่น่าพอใจ จนตลาดเงินเก็งว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นอาจขยับอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นอีก สำหรับเงินปอนด์สเตอร์ลิงอังกฤษ มีค่ามั่นคงขึ้น หลังจากที่ธนาคารกลางอังกฤษตัดสินใจเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเช่นเดียวกับธนาคารกลางยุโรป เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ทางด้านราคาทองคำต่างประเทศ ยังคงได้รับแรงซื้อเป็นระยะๆ ตามสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก
เงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีค่าอ่อนไหวในตอนต้นสัปดาห์ เนื่องจากตลาดเงินยังกังวลเกี่ยวกับรายงานตัวเลขอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯไตรมาสที่ 2 ซึ่งเพิ่มขึ้นราว 2.5% ต่ำกว่าที่คาดการณ์กันไว้ ณ ระดับ 3.0% ทำให้นักลงทุนไม่ค่อยแน่ใจว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอีกรอบหนึ่งหรือไม่ในเดือนสิงหาคมนี้ ประกอบกับเจ้าหน้าที่การเงินระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐฯได้ออกมาแสดงความคิดเห็นโอนเอียงไปในทิศทางที่ว่าระดับอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯปัจจุบันอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจแล้ว ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯในขณะนี้ หรืออีกนัยหนึ่ง ก็คือ การชี้ว่าสหรัฐฯควรชะลอการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยไว้ก่อน
ในขณะเดียวกัน ทางด้านกลุ่มยูโร ก็มีสัญญาณชัดเจนว่าในที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินอาจตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพราะตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆของยุโรปไม่น่าไว้วางใจสถานการณ์เงินเฟ้อ และล่าสุดปรากฏว่าอัตราการว่างงานลดลงต่ำสุดในรอบ 5 ปี จึงน่าจะเป็นแรงจูงใจให้ธนาคารกลางยุโรปขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็น 3.0% การคาดการณ์ดังกล่าวในช่วงแรกของสัปดาห์มีผลทำให้ค่าเงินยูโรเข้มแข็งเป็นลำดับ
แต่อย่างไรก็ตาม เงินดอลลาร์มีค่ากระเตื้องในเวลาถัดมา เป็นผลจากตัวเลขภาคอุตสาหกรรมการผลิตและตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่หนุนแนวคิดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯน่าจะเพิ่มอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 18 โดยเฉพาะรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ นาย Henry Paulson ที่ย้ำว่าสหรัฐฯยังคงยึดนโยบายเงินดอลลาร์แข็งแกร่ง ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยฉุดให้ค่าเงินดอลลาร์ขยับสูงขึ้น แต่น่าเสียดายที่ค่าเงินดอลลาร์กลับตกต่ำลงอย่างรวดเร็วในช่วงต่อมา เนื่องจากตลาดเงินต้องการปรับพอร์ตการถือครองสกุลเงินยูโร ทำให้มีการซื้อเงินยูโรเพิ่มขึ้นและเทขายเงินดอลลาร์ออกมาบางส่วน หลังจากที่นักลงทุนเก็งว่ายุโรปจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ในที่สุดก็เป็นไปตามความคาดหมายของตลาดการเงิน เมื่อที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป ได้ลงมติให้เพิ่มอัตราดอกเบี้ยยุโรปเป็นครั้งที่ 4 อยู่ในระดับ 3.0% จากอัตรา 2.75% ในวันที่ 3 สิงหาคม เพื่อป้องกันภาวะเงินเฟ้อรุนแรงในกลุ่มยูโร ส่งผลให้ค่าเงินยูโรแข็งขึ้น และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนตัวลงในช่วงปลายสัปดาห์
ทางด้านเงินเยนญี่ปุ่น มีค่าเข้มแข็ง เมื่อเทียบกับเงินสกุลต่างๆ โดยเงินเยนได้รับผลดีจากกระแสข่าวที่ว่าทางการจีนอาจปรับค่าเงินหยวนสูงขึ้น เพื่อชะลอความร้อนแรงของเศรษฐกิจจีน ทั้งนี้ เมื่อเงินหยวนแข็งขึ้น ย่อมผลักดันให้สกุลเงินเอเชียอื่นๆพลอยเข้มแข็งตามไปด้วย โดยเฉพาะเงินเยน นอกจากนี้ บรรดาตัวเลขเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่สดใส ยังช่วยกระตุ้นให้ตลาดเงินคาดว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นอาจเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้ ซึ่งสอดคล้องกับถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของแบงก์ชาติญี่ปุ่นที่เห็นว่าทางการยังมีโอกาสที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้อีก นับเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สนับสนุนเงินเยนตลอดสัปดาห์
เงินปอนด์อังกฤษ มีค่าสดใส แม้ว่าในตอนต้นสัปดาห์ตลาดเงินยังพะวงเกี่ยวกับการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ แต่เมื่อรายงานตัวเลขเศรษฐกิจส่วนใหญ่ชี้ว่าสภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในช่วงขาขึ้น อาทิ ตลาดที่อยู่อาศัย และภาคการผลิต ฯลฯ จึงทำให้มีปริมาณการซื้อเงินปอนด์หนาแน่น ซึ่งในที่สุด ธนาคารกลางอังกฤษก็ตัดสินใจเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเป็น 4.75% จากเดิมที่อัตรา 4.50% ส่งผลให้ค่าเงินปอนด์เข้มแข็งยิ่งขึ้นในช่วงท้ายสัปดาห์
ราคาทองคำในตลาดต่างประเทศ โน้มสูงขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ได้รับปัจจัยหนุนจากเหตุการณ์รบรุนแรงในตะวันออกกลาง ซึ่งยังไม่มีท่าทีว่าจะยุติลงระหว่างอิสราเอลกับกลุ่ม Hezbollah ในเลบานอน ในขณะเดียวกัน ข่าวเกี่ยวกับคลื่นความร้อนและพายุฤดูร้อนในบริเวณอ่าวเม็กซิโก ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการผลิตน้ำมันในบริเวณดังกล่าว จนทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นอย่างมาก และเป็นชนวนที่พลอยทำให้ราคาทองคำขยับตาม ประกอบกับค่าเงินดอลลาร์ที่ค่อนข้างผันผวนมีส่วนจูงใจให้นักลงทุนหันมาถือทองคำเพิ่มเช่นกัน
อัตราแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เทียบกับเงินตราสำคัญสกุลต่างๆ ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2549 เทียบกับวันที่ 3 สิงหาคม 2549 (ตัวเลขในวงเล็บ) มีดังนี้
เงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีค่าเท่ากับ 1.2776 ดอลลาร์/ยูโร (1.2810 ดอลลาร์/ยูโร) 114.64 เยน (114.98 เยน) และ 1.8685 ดอลลาร์/ปอนด์ (1.8874 ดอลลาร์/ปอนด์)
ราคาทองคำในตลาดลอนดอน เมื่อวันที่ 31 กรกฏาคม 2549 เท่ากับ 633.15 ดอลลาร์/ออนซ์ เทียบกับราคา 643.60 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2549
