โครงการให้เงินทำงาน ผ่านกองทุนรวม 4 ปี ดันกองทุนโตกว่า 120%

เผยโครงการให้เงินทำงาน ผ่านกองทุนรวม ประสบความสำเร็จ ตลอด 4 ปี ที่ผ่านมา กระตุ้นให้ประชาชนไทยรู้จักและเข้าใจกองทุนรวมมากขึ้น ส่งผลให้กองทุนรวมเติบโตจากปี 2546 ทั้งด้านจำนวนกองทุนและมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ เพิ่มขึ้นร้อยละ 120 ทุกหน่วยงานขานรับแผนร่วมมือต่อเนื่อง ในปี 2550 พร้อมเตรียมร่วมกับบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด (TSD) จัดมหกรรม “ลดภาษีนาทีสุดท้าย ด้วย RMF – LTF” ยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี 2549 กระตุ้นการออมและวางแผนภาษีผ่าน RMF – LTF ระหว่างวันที่ 16 – 17 และ 23 – 24 ธันวาคม นี้ ณ อาคารตลาด หลักทรัพย์ ฯ ถ.รัชดาภิเษก ข้างศูนย์การประชุมสิริกิติ์ฯ

“ตลาดหลักทรัพย์ฯ สนับสนุนโครงการให้เงินทำงาน ผ่านกองทุนรวม นี้อย่างต่อเนื่องตลอด 4 ปี ด้วย งบประมาณกว่า 32 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมการลงทุนผ่านผู้ลงทุนสถาบัน และส่งเสริมความรู้พื้นฐานด้านการบริหารเงินลงทุนด้วยกองทุนรวม ซึ่งเห็นได้ว่ากองทุนรวมเป็นเครื่องมือเพื่อการออมลำดับต้นๆ ของประชาชนทั่วไป และกระตุ้นให้มีอัตราการขยายตัวในภาพรวมเพิ่มสูงขึ้นมากถึงร้อยละ 120 โดยจากปี 2546 พบว่ามีมูลค่าทรัพย์สุทธิของกองทุนรวมประมาณ 440,205 ล้านบาท และปัจจุบันมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวมสูงถึง 1,000,185 ล้านบาท ส่วนการทำงานร่วมกันตลอดช่วง 4 ปีที่ผ่านมา นับเป็นปรากฏการณ์ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาตลาดทุนอย่างแท้จริง” นายวิเชฐ ตันติวานิช รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกล่าว

ด้านนายประเวช องอาจสิทธิกุล ผู้ช่วยเลขาธิการอาวุโส สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ผู้ร่วมสนับสนุนโครงการฯ กล่าวว่า “นอกเหนือจากภารกิจหลักในการกำกับดูแลกลไกและผู้ประกอบการในตลาดทุน ก.ล.ต. ยังให้ความสำคัญกับงานการพัฒนาและการให้ความรู้แก่ผู้ลงทุนควบคู่กันไปด้วย รวมทั้งการส่งเสริมการลงทุนผ่านกองทุนรวม เพราะการลงทุนผ่านกองทุนรวมถือเป็นก้าวแรกสำหรับผู้ที่สนใจจะเริ่มลงทุนในตลาดทุน แต่ยังไม่มีความรู้หรือมีเวลาติดตามข่าวสารอย่างเพียงพอ นอกจากนี้ การลงทุนผ่านกองทุนรวมยังมีส่วนให้ตลาดทุนมีความมั่นคงในระยะยาว เพราะจะเป็นการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนของผู้ลงทุนสถาบันในตลาดทุนให้มากยิ่งขึ้น และในปี 2550 นี้จะมีกองทุนรวมให้ผู้ลงทุนเลือกมากยิ่งขึ้น โดย ก.ล.ต. เน้นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการต่าง ๆ คิดค้นและสรรหาสินค้าใหม่มานำเสนอต่อตลาด”

นายชูชัย ตีรณชาติ กรรมการผู้จัดการ มูลนิธิกองทุนพัฒนาระบบตลาดทุน กล่าวว่า มูลนิธิฯ เห็นความสำคัญและมุ่งเน้นส่งเสริมการให้ความรู้ที่เป็นประโยชน์แก่นักลงทุน ซึ่งเป็นการส่งเสริมและพัฒนาระบบตลาดทุนไทยโดยรวม ความสำเร็จของโครงการเป็นเครื่องวัดความรู้ที่เพิ่มมากขึ้นในเรื่องการวางแผนทางการเงินของคนไทย และเป็นประโยชน์ต่อผู้มีเงินออม และเป็นการเสริมสร้าง และยกระดับความรู้ทางด้านการเงิน (Financial Literacy ) ให้กับคนไทย ”

นายมาริษ ท่าราบ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน กล่าวว่า “ วิธีการจะขยายฐานผู้ลงทุนผ่านกองทุนรวมให้ได้ผลดีที่สุดก็คือการทำให้ประชาชน รู้จักและเข้าใจกองทุนรวมในแง่มุมที่ถูกต้อง ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา เรามีบริษัท แฟมมิลี่ โนฮาว จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นผู้บริหารโครงการ มีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทุกแห่งร่วมสนับสนุนโครงการ ทั้งในด้านงบประมาณและบุคลากร ส่งผลให้กองทุนรวมเป็นรูปแบบการลงทุนที่ได้รับความสนใจและความนิยมเพิ่มมากขึ้นทั้งสัดส่วนผู้ถือหน่วยลงทุน จำนวนมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ และจำนวนกองทุน ที่เพิ่มขึ้น จากปี 2546 มีกองทุนรวมเพียง 319 กองทุน

ณ 1 ธันวาคม 2549 มีกองทุนเพิ่มเป็น 698 กองทุน มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1,000,185 ล้านบาท โดยมีกองทุนรวมตราสารหนี้มากที่สุดจำนวน 389 กองทุน มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวม 608,706 ล้านบาท รองลงมาเป็นกองทุนผสม จำนวน 130 กองทุน มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 273,275 ล้านบาท และ อันดับสามได้แก่ กองทุนรวมตราสารทุน จำนวน 152 กองทุน มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 80,423 ล้านบาท ทั้งนี้ในปี 2550 โครงการจะดำเนินการต่อเนื่องจากปี 2549 โดยมุ่งขยายฐานผู้ลงทุนในภูมิภาค” นายมาริษ กล่าวเพิ่มเติม

ด้านนางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด (TSD) กล่าวว่า เพื่อกระตุ้นผู้ลงทุนให้ตื่นตัววางแผนภาษี และการออมระยะยาว บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ฯ (TSD) ร่วมกับโครงการให้เงินทำงาน ผ่านกองทุนรวม และบลจ.ทั้ง 18 แห่งจัดงาน “มหกรรมลดภาษีนาที สุดท้าย ด้วย RMF – LTF” ขึ้น นับเป็นโอกาสสุดท้ายของปีนี้แล้วที่จะ มีการรวมตัวกันของบลจ. ทั้ง 18 แห่งในงานเดียวซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาในการหาข้อมูลของผู้ลงทุนเป็นอย่างมาก โดยงานจะจัดขึ้นในวันที่ 16 – 17 และ 23 – 24 ธันวาคม 2549 ตั้งแต่เวลา 9.30 น. – 18.00 น. ณ อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

การจัดงานครั้งนี้ มีกิจกรรมที่น่าสนใจจาก 18 บลจ. ที่ร่วมออกบูธ เพื่อให้คำปรึกษาเรื่องวางแผนการลงทุน เพื่อประหยัดภาษีแก่ผู้สนใจ พร้อมทั้งการจัดโปรโมชั่นมากมาย โดยผู้ลงทุนผ่านกองทุนในงานจะได้รับของสมนาคุณ อาทิ Mutual Fund Monthly Planner นอกจากนี้ยังมีหัวข้อการสัมมนา “วางแผนอนาคต พร้อมลดภาษี เริ่มวันนี้กับ RMF – LTF” ในวันที่ 17 ธันวาคม เวลา 10.30 – 12.00 น. และ “ 3 เซียน ชี้ช่องลงทุน รับปีกุน – 2550 ” ในวันเสาร์ที่ 23 ธันวาคม เวลา 13.30 – 16.00 น. โดยรศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ ดร.สุวรรณ วลัยเสถียร และดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ ซึ่งภายในงานยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอื่น ๆ อาทิ บริการคำนวณภาษีเพื่อวางแผนลดภาษี ร่วมสนุกพร้อมลุ้นรางวัลกับกิจกรรม “ตามหา..คนรักกองทุน ”

ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ T-S-D Call Center 02-229-8888 และ http://www.set.or.th